มะฝ่อ
มะฝ่อ เป็นพืชพรรณพื้นเมืองของบังคลาเทศรวมถึงในอินเดีย ซึ่งพบได้บริเวณริมแม่น้ำในป่าดิบและกึ่งป่าดิบชื้นการแพร่กระจายไปยังทั่วโลกอินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ อินโดจีน เทือกเขาหิมาลัย มาเลเซีย เมียนมาร์ อยู่วงศ์ยางพารา EUPHORBIACEAE ชื่อสามัญอท่นๆ Gutel, Fals white teak และชื่อวิทยาศาสตร์ Trewia nudiflora L. ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะปอบ (ภาคเหนือ), ม่อแน่ะ เส่โทคลึ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), หม่าที (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) เป็นต้น
ลักษณะของมะฝ่อ
- ต้น เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบช่วงสั้นๆ มีความสูงได้อยู่ประมาณ 20-30 เมตร กิ่งก้านใหญ่และแผ่ออกกว้าง ตรงโคนต้นมีพูพอนเล็กๆ อยู่ เปลือกต้นมีสีน้ำตาลอมเทา กิ่งก้านตัดขวางคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ตามกิ่งอ่อน ท้องใบ และช่อมีขนคล้ายรูปดาว สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มีการกระจายพันธุ์ในอินเดียถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบ ป่าชุ่มชื้นหรือริมห้วย ที่ระดับความสูงประมาณ 50-600 เมตร[1],[2],[3]
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน เป็นคู่ๆ มีลักษณะเป็นรูปไข่กว้างๆ รูปไข่แกมรี รูปหัวใจ หรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบมีความเรียวแหลม ตรงโคนใบจะมีความมนแหลมหรือเว้าเป็นรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบคล้ายกับใบโพธิ์ ใบมีความกว้างประมาณ 8-13 เซนติเมตร และความยาวประมาณ 10-22 เซนติเมตร ตรงผิวใบด้านบนจะไม่มีขน แต่ที่เส้นใบจะมีขน และส่วนด้านล่างมีขนขึ้นปกคลุม เส้นใบแตกออกจากฐานใบเป็น 3 เส้น ใบอ่อนมีขนคล้ายรูปดาว ใบแก่บางเป็นสีเขียวออกเหลือง[1],[2]
- ดอก จะออกดอกอยู่ตามซอกใบ ดอกย่อยมีจำนวนค่อนข้างมาก จะเป็นแบบแยกเพศและอยู่คนละต้นกัน ดอกเป็นสีครีมอมเขียว ขนาดค่อนข้างเล็ก และไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้จะออกช่อตามซอกใบ มีเกสรเพศผู้จำนวนค่อนข้างมาก มีความยาวประมาณ 15-22 เซนติเมตร ดอกจะทยอยบานจากโคนไปสู่ปลายช่อ กลีบรองดอกมีอยู่ประมาณ 3-4 กลีบ มีขนาดประมาณ 3.5 มิลลิเมตร ส่วนดอกเพศเมียออกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อ ๆ ก้านดอกจะยาว มีกลีบรองดอกประมาณ 3-5 กลีบ หลุดร่วงได้ค่อนข้างง่าย รังไข่จะมีอยู่มี 2-4 ช่อง ออกดอกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม[1],[2]
- ผล เป็นผลสด ลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือกลมแป้น ผลค่อนข้างแข็ง มีขน และฉ่ำน้ำ มีขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีเมล็ดเป็นเมล็ดเดี่ยว[1],[2]
สรรพคุณของมะฝ่อ
1. เปลือกต้น น้ำต้มจากเปลือกต้นเป็นยาเย็น มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย (เปลือกต้น)[3]
1.1 สามารถใช้เป็นยาขับเสมหะ แก้ท่อน้ำดีอักเสบ (เปลือกต้น)[3]
1.2 เปลือกต้น สามารถนำมาต้มกับน้ำ ใช้เป็นยาแก้อาการบวมน้ำ (เปลือกต้น)[3]
1.3 นำมาย่างกับไฟ ต้มกับน้ำดื่มต่างน้ำชา เป็นยารักษาอาการปวดบวมทั้งตัว (เปลือกต้น)[1]
2. ราก สามารถนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด (ราก)[2],[3]
2.1 น้ำต้มจากรากใช้เป็นยาทาถูนวดแก้อาการปวดตามข้อ (ราก)[3]
3. ตำรายาไทยจะใช้เปลือกต้นและราก เข้ายาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน (เปลือกต้น, ราก)[1]
ประโยชน์ของมะฝ่อ
1. ผล มีรสหวาน สามารถใช้รับประทานได้[1],[2]
2. เนื้อไม้ สามารถใช้ทำหีบ ลังใส่ของ และใช้ทำก้านไม้ขีด คนสมัยก่อนจะชอบนำมาใช้ทำแอกไถนา เพราะมีน้ำหนักเบา[2],[3]
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา.(ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ม ะ ฝ่ อ”. หน้า 216.
2. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “ม ะ ฝ่ อ”. อ้างอิงใน : หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 7, ไม้ต้นในสวน Tree in the Garden. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [03 พ.ย. 2014].
3. สวนพฤกษศาสตร์ ตามพระราชเสาวนีย์ฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “ม ะ ฝ่ อ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/pattani_botany/. [03 พ.ย. 2014].
อ้างอิงรูปจาก
1.https://www.floraofbangladesh.com/
2.http://flora-peninsula-indica.ces.iisc.ac.in/