Home ความงามและผิวพรรณ ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ? หมอเก่ง ใต้ตาเต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ? หมอเก่ง ใต้ตาเต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

0
ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ? หมอเก่ง ใต้ตาเต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ใต้ตา หมอไหนดี

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ?

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ? อยากให้ใต้ตาดูเต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ มีทริคในการเลือกหมออย่างไร ?

หลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้ใช่ไหมครับว่า “เลือกหมอผิด ชีวิตเปลี่ยน” ถ้าในวงการเสริมความงามแล้ว ประโยคนี้ถือว่าไม่เกินจริงเลยครับ เพราะมีหลายคนที่หลงไปฉีดหน้ากับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีฝีมือในการปั้นทรงฟิลเลอร์ให้สวย โดยเฉพาะตำแหน่งใต้ตาที่ถ้าฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้วจะสังเกตเห็นได้ชัดจนมากทำให้เจ้าของใบหน้าเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว

ใครที่ไม่อยากมานั่งลุ้นว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วผลลัพธ์จะออกมาสวยไหม ใต้ตาจะเป็นก้อนไหม ในบทความนี้เรามีทริคการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ? มาฝากกันครับ

 


 

ก่อนตัดสินใจเลือก ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี

ก่อนจะไปดูทริคการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี อันดับแรกเราควรรู้ถึงข้อควรระวังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากันก่อนครับ

  • สิ่งแรกที่ต้องระวัง คือ ฟิลเลอร์ปลอมครับ แม้ในปัจจุบันจะมีการใช้ฟิลเลอร์ปลอมน้อยลง แต่ก็ยังไม่ได้หายไปทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงที่ฟิลเลอร์ได้รับความนิยมมากขึ้น อาจทำให้มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสหลอกฉีดฟิลเลอร์ในราคาถูก โดยใช้สารเติมเต็มพวกซิลิโคนเหลว ไบโอพลาสติก พาราฟิน ซึ่งฉีดไปแล้วจะอยู่ได้ถาวร ไม่สลาย นาน ๆ ไปจะเป็นก้อนแข็ง บวมแดง อักเสบ หรือเกิดเนื้อตายได้ในที่สุด
  • อย่างที่สองที่ต้องระวัง คือ ฟิลเลอร์หิ้วที่นำเข้าแบบผิดกฎหมายครับ ปัจจุบันพบได้มากและบ่อยกว่าฟิลเลอร์ปลอม เพราะมีราคาต้นทุนต่ำ เมื่อนำมาฉีดสามารถทำกำไรได้มาก แต่ผลเสียจะมาตกที่ผู้บริโภค

แม้ฟิลเลอร์หิ้วจะเป็นฟิลเลอร์แท้ก็จริง แต่การหิ้วโดยไม่ผ่านขบวนการจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมและถูกต้อง ซึ่งควรเก็บในอุณหภูมิ 0-25 องศาเซลเซียส ถ้าร้อนหรือเย็นมากก็จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์เสื่อมสภาพลง ย่อยสลายไว มีอายุการใช้งานไม่คงตัว จากผลลัพธ์ที่ควรอยู่ได้ 1 ปี อาจอยู่ได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบราคากับฟิลเลอร์แท้แล้ว ก็ยังถือว่าฟิลเลอร์แท้มีความคุ้มค่ามากกว่าครับ

  • สุดท้ายอย่างที่สามที่ต้องระวัง คือ เรื่องราคาครับ ถ้าใครเจอฟิลเลอร์ราคาถูกมาก ๆ แบบถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ไม่แนะนำให้เสี่ยงฉีดเด็ดขาดครับ เพราะอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์หิ้ว

ทำไมเจอฟิลเลอร์ราคาถูกแล้วควรเลี่ยง ? นั่นก็เพราะว่าโดยปกติแล้วจะมีบริษัทนำเข้าฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์อยู่ครับ ซึ่ง 1 ยี่ห้อจะมีคนนำเข้าเพียงแค่เจ้าเดียว ดังนั้นราคาฟิลเลอร์แต่ละคลินิกจะต่างกันไม่มาก อยู่ที่ช่วงหมื่นต้น ๆ ไปถึงหมื่นปลาย ๆ ขึ้นอยู่กับโปรโมชัน ประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์แต่ละคลินิก

ดังนั้นในฐานะผู้บริโภค แนะนำให้เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดีกับคลินิกที่มีราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสมเหตุสมผลจะดีที่สุดครับ

 


 

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง

ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี อันดับแรกควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือครับ ซึ่งความน่าเชื่อถือในที่นี้ไม่ใช่แค่ดูจากชื่อเสียงคลินิก หมอดัง รีวิวดีเท่านั้น แต่ควรพิจารณาส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยแนะนำให้ดูตามเช็กลิสต์นี้ครับ

1. คลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ

คลินิกที่ได้มาตรฐาน จะมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง มีป้ายชื่อคลินิก และมีเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลักติดไว้ด้านหน้าคลินิก ติดแบบแสดงรูปถ่าย ชื่อ ไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน และแพทย์ผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้

นอกจากนี้บรรยากาศภายในคลินิกควรสว่าง ไม่แออัด มีพื้นที่รองรับคนไข้ที่เพียงพอ สะอาด มีห้องปลอดเชื้อและห้องทำหัตถการกว้างขวาง มีเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน ทันสมัย และมีการนัดติดตามผล Follow หลังฉีดฟิลเลอร์ Filler ใต้ตา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางคลินิกจะนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ 7 วัน หรือภายใน 1 เดือน เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เข้าที่ และในระหว่างนั้นหากเรามีอาการผิดปกติ หรือมีผลข้างเคียงใด ๆ ก็สามารถสอบถามข้อมูลจากแพทย์ได้โดยตรง ไม่ผ่านเซลครับ

2. ต้องเป็นแพทย์จริงที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ

การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี สิ่งที่ไม่ควรละเลย คือ การเลือกแพทย์ที่ต้องเป็นแพทย์จริงและมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะครับ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ใช่จะฉีดกับใครหรือฉีดกับหมอคนไหนก็ได้ จริงอยู่ที่ควรฉีดกับแพทย์ แต่ก็ต้องตระหนักด้วยว่าไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่จะถนัดหรือมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาเป็นบริเวณที่ต้องพิถีพิถันในการฉีด หากฉีดผิดชั้นผิว เลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ใช้ฟิลเลอร์เยอะเกินไปก็จะทำให้เห็นฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ชัด หรือที่อันตรายสุดคือแพทย์ฉีดพลาดเข้าหลอดเลือดจนทำให้เกิดการอุดตัน เสี่ยงเนื้อตาย ตาบอดได้ครับ

แพทย์ที่มีประสบการณ์จะรู้กายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี สามารถหลบเลี่ยงเส้นเลือดดังกล่าวได้ รวมถึงสามารถประเมินและแก้ไขปัญหาใบหน้าได้ตรงจุด ในส่วนนี้ก็จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะได้ผลลัพธ์สวยงาม ไม่เจอผลข้างเคียงหลังฉีดครับ

Fact : สามารถตรวจสอบจากชื่อ-นามสกุลของแพทย์ท่านนั้นได้ที่เว็ปไซต์ของแพทยสภาได้ ที่นี่

3. ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก ผ่าน อย.ไทย

การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา หมอไหนดีในข้อนี้สำคัญมากครับ จะต้องเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น เพราะเป็นสารเติมเต็มเพียงชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐ และ อย.ไทย ว่าสามารถนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่อันตราย ฉีดแล้วสามารถสลายได้เอง 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี และเมื่อสลายหมดก็สามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อมากครับ ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ผ่าน อย. ไทยและนิยมใช้ในคลินิกเสริมความงาม เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm และ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ  Belotero

ส่วนการเลือกใช้นั้นหมอจะเลือกตามลักษณะปัญหาและผิวของเราว่าเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับความถนัดและเทคนิคการฉีดของแพทย์แต่ละคนร่วมด้วยครับ

รู้หรือไม่ ? :  ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย จะมีการตรวจสอบมาตรฐานทุกปี ไม่ใช่ทุกรุ่นในยี่ห้อนั้น ๆ จะผ่านทั้งหมด ต้องดูเป็นรายตัว ดังนั้นควรอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. อยู่เสมอ รวมถึงวิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว หมอกระเป๋าและคลินิกเถื่อน

4. มีริวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง

อีกหนึ่งข้อที่ไม่ควรมองในการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา หมอไหนดีเช่นกัน คือ การดูรีวิวครับ หากเราต้องการฉีดฟิลลเลอร์ใต้ตากับแพทย์คนไหน แนะนำให้ดูรีวิวของแพทย์คนนั้นโดยตรง ซึ่งสามารถดูได้จากคลิปวิดีโอเพื่อที่เราจะได้เห็นขั้นตอนระหว่างฉีดและเทคนิคที่แพทย์ใช้ ซึ่งแพทย์มักจะอธิบายอยู่ในคลิป

รวมถึงดูรีวิวจากคนไข้ที่มาบริการจริงและต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน หรือดูรีวิวแบบปากต่อปากจะดีที่สุดครับ เช่น บอกต่อจากญาติ พี่น้อง หรือจากเพื่อนที่เคยไปใช้บริการ เพื่อป้องกันการโดนรีวิวหลอกที่ตกแต่งหรือเฟคขึ้นมาครับ

 


 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ทำไมต้องฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี

อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย ไร้กังวล ใต้ตาเต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ

เหตุผลที่ต้องฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ เพราะใต้ตาเป็นตำแหน่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นบริเวณที่ผิวหนังบอบบางแล้ว ยังเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญอยู่เยอะมาก ซึ่งแพทย์ที่มีประสบ การณ์จะพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใช้เทคนิคการฉีด และเลือกใช้เข็มที่ถูกต้องเพื่อระวังไม่ให้ฉีดเข้าเส้นเลือดจนเกิดอาการบวมเลือด มีเลือดออกในชั้นผิว (hematoma) ถ้าหากมีการอุดตันในเส้นเลือด อาจทำให้เสี่ยงอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ครับ

อย่างเข็มแหลมจะใช้สำหรับฉีดฟิลเลอร์ชิดกระดูก ส่วนเข็มทู่จะใช้ฉีดในชั้นเนื้อที่ตื้นขึ้นมา หรือสามารถฉีดชิดกระดูกได้ในบางจุดครับ แต่ถึงแม้จะเป็นเข็มทู่ก็ไม่สามารถหลบหลีกเส้นเลือดได้ 100% ต้องอาศัยเทคนิคการฉีดช่วยเสริม ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ

รวมถึงแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถเลือกรุ่นฟิลเลอร์ คำนวณ CC ที่ใช้ และวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าอย่างเหมาะสม ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาตรงจุด ไม่เสี่ยงฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ได้ผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการ สวยงาม ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติ

ส่วนที่ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid เท่านั้นก็เพราะว่า ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นสารเติมเต็มเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติและผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่าสามารถนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่อันตราย มีความปลอดภัยสูง ฉีดแล้วสามารถสลายได้เอง 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี และเมื่อสลายหมดก็สามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย

 


 

ก่อนตัดสินใจฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี เตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 อาทิตย์

ก่อนตัดสินใจฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา หมอไหนดี เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในเบื้องต้นว่าเหมาะกับปัญหาของเราหรือไม่ รวมถึงเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน หมอจริง ใช้ฟิลเลอร์แท้
  • ควรงดยาและวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan งดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น tretinoin, (เรตินเอ), retinols(เรตินอล), retinoids (เรตินอยด์) BHA, AHA ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
  • งดดึงขน โกนขน แวกซ์ขน งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า ก่อนฉีด filler ใต้ตา อย่างน้อย 3 วัน
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์

เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 24 ชั่วโมง

เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 24 ชั่วโมง

ก่อนตัดสินใจฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา หมอไหนดี เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า
  • หากมียาที่ต้องกินประจำ แพทย์จะพิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือยาลดบวมตามความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม
  • สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีการคลีนหน้า เพื่อแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ เพราะจะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีด หากเราเตรียมตัว มีการหาข้อมูลมาอย่างดี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงหลาย ๆ อย่าง ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ บวมน้อย ไม่ค่อยมีรอยช้ำ และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น

 


 

สรุป

สิ่งที่ควรทำในการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี ต้องดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างครับ ซึ่งหลัก ๆ ที่ต้องพิจารณา คือ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาภายใต้คลินิกที่ได้มาตฐานเท่านั้น

และสิ่งที่ควรเลี่ยงในการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดีเลยคือ ไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกมาก ๆ และอย่าหลงเชื่อโฆษณาที่เกินจริง เพราะอาจได้ผลไม่คุ้มค่า เสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงเกิดผลเสียในอนาคตที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้ครับ