ขาเรียว
สำหรับผู้ชายแล้วการมีกล้ามน่องเป็นมัดๆ ดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและทรงพลัง แต่ถ้าหันกลับมาถามผู้หญิงรับรองได้ว่าร้อยทั้งร้อยตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอน่องเล็ก ขาเรียวสวย การมีน่องโตเป็นลูกๆ นั้นนอกจากจะใส่ส้นสูงไม่สวยแล้ว การใส่เสื้อผ้าประเภทที่ต้องโชว์เรียวขาก็จะไม่สวยอีกด้วย ซึ่งนี่ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลย
ขาสวย ขาเรียว เป็นความใฝ่ฝันของเด็กผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยสาว แต่หลายคนเคยเพื่อนโดนล้อว่ามีขาเป็นขาโต๊ะสนุ๊กเกอร์มาแล้ว แต่การสร้างน่องเรียวเล็กดังใจปรารถนาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ขาสวย ขาเรียวการลดน้ำหนักและบริหารร่างกายเฉพาะส่วนก็ไม่ได้ผลกับทุกคนแถมในบางคนยิ่งทำก็ยิ่งมีน่องใหญ่กว่าเดิมเสียอีก แล้วทำไมดารานักแสดงหลายต่อหลายคนจึงเนรมิตเรียวขาในฝันนั้นได้ คำตอบอยู่ที่นวัตกรรมทางการแพทย์ที่เหมาะสมนั่นเอง
แต่ก่อนที่จะไปถึงส่วนของวิธีการสร้างน่องใหม่ ทำให้ ขาเรียวสวย ตามใจต้องการนั้น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าองค์ประกอบของน่องมีอะไรบ้าง อย่างแรกแน่นอนว่าเป็นส่วนของกล้ามเนื้อ แค่จับดูก็จะรู้ได้ทันทีว่ามัดกล้ามเนื้ออยู่ตรงจุดไหน เราจะมีมัดกล้ามเนื้อน่องอยู่ 2 มัดด้วยกัน คือมัดด้านนอกและมัดด้านใน คนที่เล่นกล้ามหรือออกกำลังกายประเภทที่ต้องใช้กำลังขาเป็นประจำ กล้ามเนื้อส่วนนี้จะแข็งแรงและอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นได้ อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อน่องถือเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่ตั้งใจทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ยากที่สุด อีกส่วนหนึ่งก็คือไขมัน ซึ่งก็จะเกาะอยู่รอบๆ กล้ามเนื้อ นั่นหมายความว่าต้นเหตุที่จะทำให้เรามีน่องอันใหญ่โตมโหฬารได้ก็ต้องมาจาก 2 ส่วนประกอบนี้นี่เอง
เช็คลักษณะน่องโตแบบต่างๆ
น่องโตเนื่องจากกล้ามเนื้อ : ส่วนใหญ่เกิดกับคนที่ชอบเล่นกีฬาบางประเภท และคนทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อน่องอย่างหนักเป็นประจำ เช่น ต้องเดินหรือยืนตลอดทั้งวัน เป็นต้น ลักษณะของน่องแบบนี้จับดูจะเป็นก้อนแข็ง เวลาเกร็งน่องก็จะเห็นเป็นลูกตามมัดกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ดีในแง่ของความแข็งแรง แต่ถ้าเป็นเรื่องความสวยความงามก็อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆ คนเท่าไร น่องแบบนี้เมื่อไม่ได้ใช้งานนานๆ กล้ามเนื้อก็จะค่อยๆ หดเล็กลงได้เอง แต่ก็เป็นไปได้ค่อนข้างยากพอสมควร เพราะอย่างน้อยเราก็ต้องเดินทุกวัน และนั่นก็เป็นการใช้กล้ามเนื้อน่องอย่างหนึ่งแล้ว
น่องโตเนื่องจากไขมัน : แน่นอนว่าเกิดกับคนที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมและน้ำหนักตัวที่เกินพอดีไป น่องจะใหญ่โตขึ้นตลอดทั้งแนวตั้งแต่ใต้หัวเข่าไปจนถึงข้อเท้า ไม่เห็นเป็นลูกๆ เหมือนกับแบบแรก แต่มีระยะรอบน่องที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน เพราะมีปริมาณไขมันไปเกาะอยู่โดยรอบกล้ามเนื้อน่องจำนวนมาก เมื่อจับดูก็จะเป็นเนื้อนิ่มๆ ไม่รู้สึกถึงกล้ามเนื้อมากนัก อันที่จริงหากว่าตามหลักการแล้ว น่องประเภทนี้สามารถลดขนาดลงได้ด้วยการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันในร่างกายลง เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะมี เรียวขา ที่เล็กลงได้เอง เพียงแต่ว่ากว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องเหนื่อยหนักกันหน่อย
น่องโตเพราะบวมน้ำ : ลักษณะของน่องที่โตเนื่องจากการบวมน้ำจะมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายคลึงกับน่องโตเนื่องจากไขมัน แต่จะไม่ได้คงที่อยู่ตลอดเวลา อาจมีขึ้นมีลงได้ และถ้าสังเกตในรายละเอียดดีๆ ก็จะเห็นว่ามีความต่างกันอยู่เหมือนกัน สาเหตุหลักของอาการบวมน้ำที่ว่านี้เกิดจากน้ำเหลืองและระบบเลือดที่ไหลเวียนไม่ดี รวมไปถึงโภชนาการที่ไม่เหมาะสมด้วย ตัวอย่างเช่น คนที่ทานเค็มเกินไปก็จะเกิดอาการบวมง่ายได้เช่นเดียวกัน วิธีแก้ก็ต้องเริ่มที่การหาต้นตอให้ได้เสียก่อนว่า เกิดจากพฤติกรรมของเราเองหรืออาการป่วยกันแน่ แล้วค่อยปรับแก้ไปตามแนวทางที่สมควร
จะเห็นว่าจริงๆ แล้วน่องโตก็มีที่มาที่ไปได้หลากหลาย บางอย่างปรับแก้ได้ง่ายๆ และบางอย่างอาจแก้ไขไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลด้วย และต่อไปนี้ก็จะเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างน่องเรียวสวยที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนรวดเร็ว เหมาะกับคนที่แก้ปัญหาน่องโตไม่ได้ หรือไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติอื่นๆ
การนำนวัตกรรมทางการแพทย์เข้ามาใช้ช่วยลดขนาดของน่องที่ใหญ่ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
การศัลยกรรมน่อง
การใช้นวัตกรรมทางการแพทย์เข้ามาช่วยลดขนาดของน่องที่ใหญ่เกินไป มีอยู่หลากหลายวิธี ไล่ไปตั้งแต่การฉีดโบท็อกซ์ การผ่าตัด การสลายเส้นประสาท เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าใครเหมาะกับการรักษาแบบไหน และพึงพอใจกับรูปแบบของขั้นตอนอย่างไรมากกกว่ากัน
การศัลยกรรมน่องด้วยการฉีดโบท็อกซ์
นี่อาจเป็นวิธีที่เรียบง่ายและได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ รูปแบบของการรักษาเป็นการใช้ สารโบทูลินั่มท็อกซิน ( Botulinum Toxin ) ฉีดเข้าไปในส่วนของกล้ามเนื้อน่อง ซึ่งเจ้าสารโบทูลินั่มท็อกซินตัวนี้ เราเรียกสั้นๆ ในทางการค้าว่า โบท็อกซ์ มันคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถสกัดได้จากแบคทีเรียคลอสเตรเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) อันที่จริงมันเป็นสารที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษในมนุษย์ด้วย แต่ก็มีจุดเด่นตรงที่ช่วยให้กล้ามเนื้อต่างๆ คลายตัวลงได้ ในทางการแพทย์จึงได้หยิบยกเอาคุณสมบัติข้อนี้มาใช้ประโยชน์ และหนึ่งในนั้นก็คือการศัลยกรรมน่องนี่เอง
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดน่อง ถือเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น ไม่ได้มีผลลัพธ์แบบถาวรซะทีเดียว แต่สามารถเริ่มที่การฉีดโบท็อกซ์แล้วผสมผสานกับการดูแลตัวเองต่อในเชิงธรรมชาติ เพื่อให้น่องคงความเรียวเล็กไว้ตลอดได้ โดยปกติแล้วโบท็อกซ์จะคงอยู่ประมาณ 5-6 เดือน แล้วแต่คุณภาพและปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ ขั้นตอนการรักษาจะแบ่งการฉีดเป็น 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันราวๆ 3 เดือน หลังฉีดจะไม่เห็นผลแบบทันที เพราะโบท็อกซ์ต้องค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่กล้ามเนื้อแล้วออกฤทธิ์ จึงเริ่มเห็นผลเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 1 อาทิตย์
ข้อดี : ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีการเตรียมตัวที่ยุ่งยาก
ข้อเสีย : ถ้าใครน่องใหญ่มาก จำเป็นต้องใช้โบท็อกซ์ปริมาณเยอะกว่าปกติ ก็จะมีผลข้างเคียงที่กล้ามเนื้อส่วนล่างที่ต่ำกว่ากล้ามเนื้อมัดน่องลงมาอีก อาจจะใส่ส้นสูงไม่ได้ เขย่งเท้าไม่ได้ แต่ก็เป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น อีกอย่างคือการฉีดโบท็อกซ์ต้องทำต่อเนื่องเป็นระยะ ราคาค่าใช้จ่ายจึงมีมาตลอด อาจทำให้หลายคนมองหาของที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นของปลอมและให้ผลข้างเคียงที่รุนแรงหลายชนิด
การศัลยกรรมน่องด้วยการผ่าตัดกล้ามเนื้อ
วิธีนี้เป็นกระบวนการรักษาแบบแรกๆ ที่ถูกนำมาใช้ ให้ผลลัพธ์แบบถาวร และได้เรียวน่องที่มีขนาดเล็กลงในทันที แต่ในปัจจุบันก็ลดความนิยมลงมากแล้ว เพราะมีผลข้างเคียงหลายอย่างที่เป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน การผ่าตัดกล้ามเนื้อน่อง สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
ผ่าตัดส่วนของกล้ามเนื้อแกสาร็อกนีเมียส (gastrocnemius) : เป็นกล้ามเนื้อที่เกาะจากส่วนปลายของกระดูกทั้งสองด้าน โดยที่ส่วนปลายสุดของกล้ามเนื้อจะมีการเปลี่ยนรูปเป็นเอ็นเพื่อการยึดเกาะ นี่เป็นกล้ามเนื้อหลักที่ทำให้น่องโตขึ้น จึงรักษาด้วยการตัดกล้ามเนื้อบางส่วนออกไป ใช้การเปิดปากแผลยาวไม่เกิน 8 เซนติเมตร
ผ่าตัดส่วนของกล้ามเนื้อรวม : เป็นการจัดเรียงมัดกล้ามเนื้อในน่องใหม่ พร้อมกับเหลาให้กล้ามเนื้อบางส่วนมีความบางลง เพื่อให้ได้ ขาสวย ขาเรียว ตามที่ต้องการ
ข้อดี : เห็นผลทันทีหลังการศัลยกรรม และเป็นผลลัพธ์ที่จะคงอยู่ถาวร
ข้อเสีย : มีภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เพราะมวลกล้ามเนื้อถูกทำลายเยอะที่สุด มีโอกาสติดเชื้อและอาจกำหนดไม่ได้เลยว่าน่องจะลดไปมากน้อยแค่ไหน อย่างไร ถ้าดูแลโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญมากพอ น่องใหม่ที่ได้ก็อาจมีขนาดไม่สมดุล นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องการเตรียมตัวและการพักฟื้นที่ยาวนาน
การศัลยกรรมน่องด้วยการทำลายเส้นประสาท
เราได้เรียนรู้ว่าอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่ ไม่ได้เป็นผลมาจากส่วนของกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่มีผลพ่วงมาจากระบบของเส้นประสาทต่างๆ ด้วย การศัลยกรรมน่องด้วยการทำลายเส้นประสาท จึงเป็นรูปแบบการรักษาที่พัฒนาขึ้นมาหลากหลายเทคนิค เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากลดน่องแบบถาวรแต่ก็กลัวการผ่าตัดกล้ามเนื้อ
การตัดเส้นประสาทออก : นี่เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่จะทำให้เกิดแผลยาวเพียง 2 เซนติเมตรบริเวณน่อง จากนั้นก็แหวกมัดกล้ามเนื้อเพื่อหาเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมมัดกล้ามเนื้อนั้น เมื่อตัดเส้นประสาทออกแล้ว กล้ามเนื้อที่ถูกควบคุมจะอ่อนแรงลงโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อค่อยๆ ลดขนาดลงเรื่อยๆ มีข้อดีตรงที่มีความแม่นยำในการรักษาสูงมาก แต่ก็มีข้อเสียตรงที่อาจทำให้ระบบการทำงานของช่วงขาผิดปกติไปจากเดิมได้
External EMG (External Electromyography) : เป็นการหาเส้นประสาทที่ต้องการทำลายจากภายนอก หมายความว่าไม่มีการผ่าตัดเปิดปากแผลแต่อย่างใด ขั้นตอนการรักษาจะเริ่มที่ใช้เครื่องตรวจจับเส้นประสาทจากผิวด้านนอก เมื่อเจอแล้วก็ใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงฉีดเข้าไปที่เส้นประสาทนั้น แน่นอนว่าเส้นประสาทก็จะถูกทำลายในทันที ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเช่นเดียวกับการตัดเส้นประสาทออก มีข้อดีตรงที่การทำครั้งแรกๆ นั้นสะดวก ไม่เจ็บตัวมากและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่ข้อเสียอยู่ที่ทีมแพทย์ไม่ได้เห็นระดับความลึกของเส้นประสาทจริงๆ จึงอาจทำให้การทำลายเส้นประสาทไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อน่องยังคงทำงาน ต้องแก้ไขด้วยการทำซ้ำอีก และเมื่อมีการทำซ้ำหลายครั้งก็จะเกิดความเจ็บปวดและมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้
Internal EMG (Internal Electromyography) : เป็นอีกรูปแบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมา โดยผสมผสานการใช้คุณสมบัติของคลื่นวิทยุความถี่สูงกับเครื่อง EMG โดยเริ่มด้วยการค้นหาตำแหน่งของเส้นประสาทเหมือนกับ External EMG ปกติ แต่เมื่อเจอแล้วจะใช้การส่งคลื่นวิทยุเข้าไปทำลายเส้นประสาทแทนที่จะฉีดสารอะไรเข้าไป ใช้เวลาทำไม่นานนัก และหลังทำก็เห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ข้อดีคือสะดวกรวดเร็ว ภาวะแทรกซ้อนน้อย และคงผลลัพธ์ไว้ได้นานกว่า 20 เดือน สามารถกลับมาทำซ้ำได้อีกด้วย แต่ข้อเสียคือราคาค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และหลังการทำไปสักระยะ น่องมีโอกาสกลับมาใหญ่ได้อีกเล็กน้อย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการศัลยกรรมลดขนาดของน่องเท่านั้น ใครจะเหมาะกับการรักษาแบบไหน ก็ต้องพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ต้องการ เปอร์เซ็นต์ของกล้ามเนื้อที่โตขึ้น ต้นเหตุของน่องที่ขยายใหญ่กว่าปกติ ตลอดจนความสะดวกในการเตรียมตัวและความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายด้วย สุดท้ายนี้ การมีน่องเรียวสวยนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การมีช่วงขาที่แข็งแรงนั้นดีมากกว่า หากหารูปแบบและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับตัวเองไม่ได้ ก็อย่าเลือกทางที่มีความเสี่ยงในทุกกรณี สู้มีขาใหญ่แต่แข็งแรง ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพซะยังจะดีกว่า
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
The Grand Plastic Surgery. ไบเบิลศัลยกรรมเกาหลี.กรุงเทพฯ:อมรินทร์เอลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง,2559.