ศัลยกรรมตา
ศัลยกรรมตา เป็นการปรับรูปทรงของตาให้สวยงามตามแฟชั่นนิยม เป็นการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมกันมายาวนานในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีประชากรที่มีเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งบุคคลเหล่านี้ดวงตาจะมีชั้นน้อยมากหรือบางครั้งแทบมองไม่เห็นชั้นที่บริเวณดวงตาเลยก็ว่าได้ การผ่าตัดทำตาสองชั้นจึงเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้ดวงตาดูสวยงามตามค่านิยมในสังคม ในช่วงแรกการทำตกแต่งเสริมความงามให้กับดวงตาจะทำกันในหมู่ของสุภาพสตรีเท่านั้น ต่อมาด้วยความเปิดกว้างของสังคมทำให้ผู้ชายบางคนก็หันมาสนใจทำตาสองชั้นและการเสริมความงามด้วยเช่นกัน
การ ศัลยกรรมตา หรือทำตาสองชั้นไม่เพียงแต่เสริมให้ดวงตาดูสวยเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับดวงตาได้อีกด้วย เช่น ปัญหาดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ปัญหาหางตาตก ปัญหาหนังตาตกมาปิดดวงตา เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวการศัลยกรรมตาสามารถแก้ไขอย่างได้ผล ก่อนที่จะทำการศัลยกรรมตาได้นั้น เราต้องทำความรู้จักกับโครงสร้างของดวงตาเราก่อนว่ามีลักษณะหรือมีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาที่เข้าไปพบแพทย์จะได้สามารถแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นและระบุความต้องการให้กับแพทย์ได้รับทราบอย่างถูกต้อง แพทย์จะได้ทำการวินิจฉัยและสรุปแนวทางการศัลยกรรมตาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ผลการศัลยกรรมตาจะได้ออกมาเป็นที่พึงพอใจและส่งให้ใบหน้าดูงดงามมากยิ่งขึ้น
องค์ประกอบของดวงตาที่ใช้ในการพิจารณาเพื่อทำการศัลยกรรม
1.ลักษณะดวงตาแต่กำเนิด ดวงตาของแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่บางครั้งเอกลักษณะหรือลักษณะพิเศษบางอย่าง การ ศัลยกรรตา อาจจะไม่สามารถลบเลือนหรือเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด 100% ทำได้แต่เพียงแค่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้บางส่วนที่จะส่งผลให้ดวงตาดูสวยขึ้นเท่านั้น
2.ผิวเปลือกตา ลักษณะของ เปลือกตา จะมีความต่างกันไป เช่น เปลือกตามีขนาดเล็ก เปลือกตาหย่อน เปลือกตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันซึ่งอาจเกิดจากการเป็ฯโรคกล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง ( Eyelid Ptosis) เปลือกลึก เป็นต้น ซึ่งเราสามารถทำการสังเกตได้จากเวลาที่ทำการทาอายแชโดว์ว่าเมื่อทาแล้วมีผิวหนังหลงเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน จากส่วนที่แสดงให้เห็นอายแชโดว์ที่ทาบนเปลือกตา เปลือกตาเป็นส่วนที่สามารถเกิดการหย่อนยานได้ตามอายุขัย นั่นคือเมื่อมีอายุมากขึ้น เปลือกตาจะหยอ่นลงมามากขึ้น หรือเปลือกตาไม่มีชั้นที่มีขนาดเล็กมาก เมื่อลืมตามขึ้นชั้นดังกล่าวจะไม่สามารถมองเห็นได้หรือที่เรียกว่าตาชั้นเดียว ซึ่งเป็นลักษณะตาของคนที่มีเชื้อสายจีนผสมอยู่นั่นเอง
3.โหนกคิ้วและคิ้ว เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับดวงตา และยังมีส่วนในการปรับรูปร่างของดวงตาอีกด้วย นอกจากนั้นโหนกคิ้วยังเป็นตัวกำหนดรูปร่างของดวงตาอีกด้วยเนื่องจากที่บริเวณปลายคิ้วจะพบว่ามาผิวหนังที่มีความหนาและมีกระดูกอยู่ด้านในด้วย ซึ่งกระดูกโหนกคิ้วที่ใหญ่ส่งผลให้มีร่องกระดูกมีความลึกส่งผลให้ดวงตาแลดูลึกตามไปด้วย หรือแม้แต่ทำให้หนนังตาหลบเข้าไปอยู่ในเบ้าตา ทำให้ลูกตาแลดูโปนออกมา หรือบางคนไม่ทราบว่าตนเองมีกระดูก เบ้าตา ที่ใหญ่แต่คิดว่าหนังตามีไขมันมากจึงไปทำการผ่าตัดเอาไขมันออกจากหนังตา แต่แทนที่จะได้ดวงตาที่เรียวเล็กกลับพบว่าดวงกลับดูลึกเข้าไปในเบ้าตาไม่น่ามอง
ดังนั้นก่อนที่จะทำการปรับปรุงดวงตาทั้งตัวเราเองและแพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะทำการศึกษาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับดวงตาอย่างละเอียดถี่ถ้วน นอกจากการทำความรู้จักกับโครงสร้างของดวงตาแล้วอีกสิ่งหนึ่งก่อนที่จะทำการผ่าตัดดวงตาก็คือ ความต้องการในการเปลี่ยนแปลงดวงตา ว่าต้องการให้ดวงตามีลักษณะอย่างไร เช่น ต้องการตาสองชั้น ต้องการตาเรียว ต้องการดวงตาที่กลมโต ต้องการลดหนังตาให้น้อยลง ต้องการทำตาทั้งสองข้างให้เท่ากัน เป็นต้น เพราะความต้องการของแต่ละบุคคลย่อมต่างกัน บางคนต้องการทำการผ่าตัดดวงตาเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องของดวงตาเท่านั้น แต่บางคนต้องการปรับปรุงดวงตาเพื่อสร้างดวงตาที่สวยงามตามสมัยนิยมให้กับตัวเอง เพื่อที่จะได้ทำการออกแบบขั้นตอนและวิธีการปรับรูปดวงตาที่เหมาะสมกับใบหน้า
ซึ่งการปรับรูปตาที่ทำได้และมีนิยมทำกันมาก คือ การเพิ่ม ชั้นตา หรือการเพิ่มขนาดของชั้นตา ในการทำชั้นตาใช่ว่าจะสามารถทำได้เหมือนกันทุกคน แพทย์จะต้องทำการวินิจฉัยก่อนการที่ตามีลักษณะในปัจจุบันเกิดขึ้นจากองค์ประกอบใด เช่น กระดูกโหนกคิ้ว ไขมันที่หนังตา ความกว้างของหนังตา เป็นต้น ที่เป็นสาเหตุทำให้หนังตาหลบในจนแสดงออกมาเป็นตาชั้นเดียว เมื่อแพทย์พบถึงสาเหตุที่ทำให้หนังตาหลบในแล้วก็จะเข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อทำให้ดวงตากลับมามีชั้นที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนไม่หลบดังเดิม ส่วนมากในคนที่มีอายุไม่เกิน 40 ปีสาเหตุที่ทำให้หนังตาหลบในจะเกิดจากปริมาณไขมันที่บริเวณเปลือกตามีมากจึงทำให้เปลือกตาหยอ่นลงมาปิดชั้นหนังตาจนมองไม่เห็นชั้นหนังตาหรือการที่ผิวหนังเปลือกตามีความกว้างมากส่งผลให้เปลือกตาลงมาคลุมชั้นหนังตาทำให้ไม่เห็นชั้นหนังตานั่นเอง ซึ่งการแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดเอาไขมันหรือเนื้อหนังตาที่เกินออกมาบังชั้นหนังตาออก ก็จะทำให้ดวงตามีชั้นหนังตาแสดงออกมาให้เห็นแล้ว ส่วนคนที่หนังตามีเรียบดึงจนไม่มีชั้นของหนังตาเกิดขึ้นนั้น แพทย์จะทำการกรีดให้เกิดแผลซึ่งจะช่วยให้หนังตาเกิดชั้นได้มากขึ้น
สำหรับในกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 40 ปีนั้น จะพบว่ามีปัญหาหนังตาตกหรือ หนังตา จะห้อยลงมาปิดดวงตา ทำให้ชั้นหนังตาโดนบังจนเหลือชั้นหนังตาน้อยชั้นกว่าเดิมหรือบดบังดวงตาจนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างปกติ สาเหตุของหนังตาห้อยเกิดขึ้นจากความเสื่อมของผิวหนังที่ส่องผลให้เปลือกตาหย่อนลงมาคลุมชั้นหนังตา ซึ่งการแก้ไขปัญหาสำหรับคนกลุ่มนี้สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดดึงเอาการตัดเอาเนื้อหนังตาที่เป็นส่วนเกินออกไป
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ การศัลยกรรมผ่าตัดทำตาสามารถสร้างดวงตาที่กลมโตและปรับรูปร่างของตาให้มีลักษณะที่เข้ากับใบหน้า รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับดวงตาได้
การผ่าตัดเพื่อปรับปรุงดวงตามีเทคนิคสำหรับการทำตาสองชั้น
1.เทคนิคการกรีดรอยแผลยาว ( Customized Limited incision Blepharoplasty )
การศัลยกรรมเป็นเทคนิคสำหรับผู้ที่มี ตาชั้นเดียว ต้องการทำตาสองชั้นหรือการผ่าตัดเพื่อตัดหนังตาที่ตกมาบังดวงตาทำให้ชั้นตามีขนาดเล็กลงหรือหนังตาหย่อนลงมาบังการมองเห็นของดวงตา โดยแพทย์จะทำการกรีดแนวแผลเป็นทางยาวออกมาซึ่งบางครั้งอาจจะยาวออกมาด้านข้างด้วย เพื่อทำการตัดผิวหนังเปลือกตาที่เกินออกมาจนบดบังชั้นเปลือกตา เมื่อตัดเอาเนื้อส่วนที่เกินออกแล้วจะทำการเย็บแผล
หลักการของศัลยกรรมทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคการกรีดรอยแผลยาว เทคนิคนี้เป็นการสร้าง ตาสองชั้น ที่ช่วยลดปัญหาเสียส่วนมาก เนื่องจากเทคนิคนี้ต้องได้รับการผ่าตัดที่เปิดแผลที่มีขนาดกว้างมากประมาณ 5- 7 เซนติเมตร แล้วทำการตัดหนังที่หย่อนเกินหรือทำการดูดไขมันที่ทำให้หนังตาหย่อนมาปิดชั้นของตา แล้วทำการเย็บชั้นกล้ามเนื้อตาที่บริเวณเปลือกตาใหม่ให้กล้ามเนื้อกระชับมากขึ้น และทำการเย็บปิดแผลที่บริเวณผิวหนังด้านนอกของเปลือกตา ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้เกิดชั้นตาที่มีขนาดใหญ่ มีความคมชัด ส่งผลให้ดวงตาแลดูกลมโตมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าในใช้เทคนิคนี้ผู้ทำจะต้องได้รับการผ่าตัดเปิดแผลที่มีขนาดยาวหลังจากที่ทำการผ่าตัดที่บริเวณเปลือกตาจะบวมมาก จึงทำให้ต้องใช้เวลานานในการรักษาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหนังที่บริเวณหนังตา
2.เทคนิคการกรีดรอยแผลแบบสั้น ๆ (Minimal Incision Blepharoplasty)
เป็นเทคนิคการทำ ตาสองชั้น สำหรับผู้ที่ไม่มีไขมันส่วนเกินหรือหนังตาไม่ได้หย่อนมากผิดปกติจึงไม่จำเป็นต้องทำการตัดไขมันหรือหนังส่วนเกินที่บริเวณหนังตาออกไป วิธีศัลยกรรมของแพทย์จะทำการกรีดที่หนังตาเป็นแผลขนาด 2-3 เซนติเมตรแล้วแต่ขนาดของดวงตา และทำการเย็บแผลซึ่งแผลนี้จะทำให้หนังตามีลักษณะเป็นชั้นขึ้นมาได้ วิธีการนี้นิยมทำกันมากในชาวเกาหลี ญี่ปุ่น ที่มีเนื้อที่หนังตาน้อย
หลักการของการทำ ตาสองชั้น ด้วยการกรีดเป็นแผลสั้น ๆ เทคนิคนี้จะทำด้วยการสร้างบาดแผลขนาดเล็กเพื่อให้มีการสร้างพังพืดที่บริเวณแผลทำให้มีการดึงกล้ามเนื้อในขณะที่ลืมตาเพื่อให้เกิดตาสองชั้นหรือทำการกรีดแผลเพื่อดูดเอาไขมันที่อยู่ในเปลือกตาออกมาเพื่อลดขนาดของหนังตาด้านบนให้น้อยลง ส่งผลให้เห็นบริเวณชั้นของตามากขึ้น
3.เทคนิคการกรีดแบบที่ไม่มีรอยแผลกรีดหรือการทำตาสองชั้นแบบจุด 3 จุด (Buried Suture technique Blepharoplasty)
เป็นเทคนิคการทำ ตาสองชั้น ที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดเพื่อสร้างแผลเป็นที่บริเวณหนัง เหมาะกับคนที่มีตาชั้นเดียว วิธีการทำตาสองชั้นแบบนี้ เริ่มจากการเย็บจากบริเวณด้านในของหนังตาด้านบนให้ติดกันเป็นจุด จำนวน 3 จุดเพื่อทำการให้หนังตาเป็นร่อง เวลาที่ลืมตาก็จะเห็นเป็นตาสองชั้น และเวลาหลับตาก็จะไม่เห็นร่องรอยเป็นแผลที่เกิดจากการเย็บจึงแลดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วิธีการทำตาสองชั้นที่เกิดขึ้นมาใหม่ก็ตาม แต่ก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคให้มีความละเอียดและออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด ผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรมไม่เสียเวลาในการพักฟื้น ไม่ต้องทำการผ่าตัดให้เป็นแผล
หลักการของการทำ ตาสองชั้น ด้วยวิธีการทำตาสองชั้นแบบจุด 3 จุด คนที่มีตาชั้นเดียวเนื่องจากที่บริเวณหนังตาจะไม่มีพังพืดที่ทำหน้าที่ขึงหรือยึดส่วนของกล้ามเนื้อตากับผิวหนังเมื่อลืมตาจึงไม่มีพังพืดที่สามารถทำการดึงให้หนังตาออกมาเป็นชั้นได้ ซึ่งการทำตาสองชั้นก็เพียงแค่ทำการสร้างพังพืดที่สามารถทำหน้าที่การขึงหรือยึดกล้ามเนื้อตากับส่วนของผิวหนังขึ้นมา เพื่อที่เวลาลืมตาพังพืดจะทำการดึงหนังตาทำให้มีลักษณะเป็นตาสองชั้นเกิดขึ้นได้การสร้างพังพืดก็คือการทำตาสองชั้นนั่นเอง ส่วนเทคนิคการ ศัลยกรรมตา สองชั้นด้วยการสร้างพังพืดนี้สามารถทำได้หลายแบบด้วยกัน เช่น การกรีดเป็นรอยแผลสั้น ๆ หรือการเย็บจุด 3 จุด การกรีดแผลเป็นรอยยาวตามที่ได้กล่าวมาในตอนต้น ซึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ การทำตาสองชั้นแบบจุด 3 จุด ที่ทำด้วยการนำไหมไปเย็บที่บริเวณเปลือกตา 3 ตำแหน่งด้วยกัน ไหมจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อพังพืดตามธรรมชาติให้เกิดขึ้นในบริเวณที่ทำการเย็บ ซึ่งการจุดที่ทำการเย็บแพทย์จะต้องการวินิจฉัยแล้วว่าเมื่อลืมตาขึ้นจะเกิดเป็นชั้นของตาที่มีขนาดเหมาะสมกับดวงตา และต้องทำการกำหนดจุดบนตาทั่งสองข้างให้มีขนาดที่เท่ากันเพื่อที่เวลาลืมตาดวงตาทั้งสองข้างก็จะมีขนาดที่สมดุลกันด้วย และทำการฉีดยาชาที่บริเวณเปลือกตาตรงบริเวณที่ต้องการใช้ไหมเย็บ และทำการเย็บด้วยไหมชนิดที่ไม่สามารถละลายได้เอง เพื่อทำการยึดผิวหนังในส่วนที่ต้องการให้เกิดพังพืดในการสร้างชั้นของตา หลังจากทำการเย็บเสร็จแล้วเราจะเห็นเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนเปลือกตาของเราในขณะที่ทำการหลับตา และไม่เห็นรอยการเย็บของเข็มเลยในขณะที่ลืมตา การใช้ไหมเย็บเพื่อกระตุ้นการสร้างพังพืดให้เกิดขึ้นเองนับเป็นวิธีที่เจ็บปวดน้อยและลักษณะของตาสองชั้นที่เกิดขึ้นจะแลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
วิธีการสร้าง ตาสองชั้น ด้วยการเย็บด้วยไหมนี้เป็นการสร้างตาสองชั้นที่มีความอันตรายน้อยที่สุด ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งเพียงแค่ 30-60 นาทีเท่านั้น ผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรมไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเนื่องจากบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้นเลือกใช้วิธีนี้ในการทำตาสองชั้นกันมากในผู้ที่มีอายุน้อยและไม่มีปัญหาหนังตาหนาหรือหนังตาหย่อน
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้นการมีดวงตาที่สดใสกลมโตย่อมสร้างความน่าประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีดวงตากลมโตน่ามองมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นการศัลยกรรมผ่าตัดทำตาสองชั้นเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยสร้างดวงตาที่กลมโตน่ามองและปรับรูปร่างของตาให้มีลักษณะที่เข้ากับใบหน้า แก้ไขปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน หางตาตก การ ศัลยกรรมตา ช่วยสร้างใบหน้าที่สวยงามมีมิติให้คุณได้ตามที่ใจปรารถนา
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
สมาคมแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย. สวยให้สุด หยุดที่ศัลยแพทย์ตกแต่ง : กรุงเทพฯ: ไอดี ออล ดิจิตอล พริ้น จำกัด,2561.