การแต่งหน้า
มีผู้หญิงมากมายกังวลเกี่ยวกับรูปหน้าของตัวเอง และต้อง การแต่งหน้า ให้ดูเรียวเล็กความจริงใบหน้าชาวเอเชียก็ไม่ได้ใหญ่เมื่อเทียบกับชาวตะวันตกแล้วถือว่าโครงหน้าที่ค่อนข้างแบนและดั้งที่ไม่โด่งเลยทำให้ใบหน้าดูใหญ่ เพื่อทำความคุ้นเคยกับวิธี คอนทัวร์ เฉดดิ้ง ไฮไลท์ และปัดแปรง แม้แต่ใบหน้าที่กรมโตเหมือนพระจันทร์เต็มดวงก็สามารถทำให้ดูเล็กพอเหมาะ มีมิติ และดูคมขึ้นได้ [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
คนที่มีใบหน้ากลมกลมๆ และตาหูจมูกปากเล็กๆ จึงสนใจทำรูปหน้าให้เรียวบางและมีมิติเป็นพิเศษ
การคอนทัวร์และเฉดดิ้ง ไฮไลท์ รวมทั้งปัดบลัชออน ถ้าใช้เทคนิคเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ก็จะสร้างภาพลวงตาให้ใบหน้าดูเล็กและเรียวได้ด้วยตัวเอง จึงไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในการตัดกระดูกบนเตียงผ่าตัดอันน่ากลัว
ไอเท็มที่จำเป็นในการแต่งหน้าให้มีมิติและเล็กเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้
1.บลัชออน
หรือที่เรียกว่าที่ปัดแก้ม เป็นผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันและความมีชีวิตชีวาให้แก้ม ควรหาบลัชออนโทนสีที่ทาแล้วอารมณ์ดีไว้ซัก 2-3 ชิ้น สาวๆมักจะใช้สีบลัชออนที่เข้ากับสีลิปสติก
2.โน้สแชโดว์
ใช้เพื่อทำให้จมูกโด่งขึ้น เลือกชนิดเนื้อแมตต์ไม่มีประกายมุก และเลือกสีที่ช่วยสร้างเฉดเงาให้โทนสีผิว
3.แปรงเฉดดิ้ง
แป้งอัดแข็งโทนสีเข้มเล็กน้อย เพื่อทำให้ใบหน้าดูเรียวบาง
4.แปรงคอนทัวร์
แป้งเนื้อแมตต์ไม่ผสมมุก สีเดียวกับสีผมและดวงตา หลีกเลี่ยงสีดำเข้ม ต้องหาเนื้อแป้งที่ติดทนนานและเบลนได้ดี รวมทั้งต้องใช้แปรงที่ไม่ทำให้แป้งพุ่งกระจายด้วย
5.ไฮไลท์
ชนิดครีมหรือแป้งที่สว่างในการแต่งหน้า ซึ่งที่ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและมีมิติ ชนิดแป้งนั้นจะต้องมีอนุภาคที่เล็กมาก ถ้าได้อย่างบางเบาและเห็นผลชัดเมื่อปัดแค่ทีสองที
[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
1. การแต่งหน้าเพื่อปกปิดหน้าผากที่ไม่สวยด้วยแป้งคอนทัวร์
การคอนทัวร์ หรือการเฉดดิ้ง คือการสร้างเงาให้แก่ใบหน้า ช่วยส่งเสริมโครงหน้าแก้ไขจุดที่เราไม่ต้องการให้มีความโดดเด่นน้อยลง โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสีเข้มกว่าสีผิวประมาณ 2-3 เฉด และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อแมตต์
ซึ่งคอนทัวร์ เป็นการแต่งหน้าเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็แปลงโฉมได้ เพียงแค่จัดระเบียบหน้าผากและไรผมก็ทำให้ใบหน้าดูเล็กลง ดังนั้นหากกังวลว่ามีหน้าผากกว้างหรือหน้าผากรูปตัว M รวมทั้งแนวผมที่กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบและช่วยทำให้โครงหน้าดูเด่น
ข้อแนะนำในการคอนทัวร์
1. ค่อยๆทาทีละน้อยๆหลายครั้ง
ถ้าคอนทัวพลาดอาจทำให้ผงแป้งฟุ้งกระจายจนเปื้อนใบหน้า หรือไม่ก็ทำให้แป้งจับตัวเป็นก้อนได้ ค่อยๆทาเพิ่มทีละน้อยๆจะปลอดภัยกว่า เวลาทาให้ขยับมือเร็วๆเป็นวงกว้าง
2.เลือกสีที่คล้ายกับสีผม
ชาวตะวันออกควรเลือกแป้งคอนทัวร์สีน้ำตาลเข้มที่ใกล้เคียงกับสีผม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สีดำเข้มหรือมันวาวจนเกินไป
3.ทำกราเดชั่นโดยเริ่มจากผมมายังใบหน้า
ในกรณีที่หน้าผากโค้งเป็นรูปตัวเอ็มให้เริ่มทำกราเดชั่นตั้งแต่บริเวณที่มีผมเยอะก่อนแล้วค่อยๆทำกราเดชั่นมาทางหน้าผาก ถ้าทำเยอะเกินไปอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ควรทำกราเดชั่นถึงบริเวณไรผมอ่อนๆเท่านั้น
การจัดการแนวผม
1.เก็บผมขึ้นไปข้างบน ตรวจสอบบริเวณมุมทั้งสองของหน้าผาก
2.ทาแป้งแล้วลองปัดดู 1 ครั้ง
3.เติมแป้งตั้งแต่พื้นที่ด้านในระหว่างเส้นผมมาทางใบหน้า ทำกราเดชั่นมาทางไรผมเล็กๆตรงมุมหน้าผากให้ดูเป็นธรรมชาติ
4.ค่อยๆใช้แปรงทาตามแนวผมไล่ลงมา
5.ใบหน้าจะดูเรียวบางขึ้น หากทำไรผมที่ตกลงมาบริเวณหูให้มีสีเข้ม โดยเติมแป้งบริเวณนั้น [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
การคอนทัวร์ หรือการเฉดดิ้ง คือการสร้างเงาให้แก่ใบหน้า ช่วยส่งเสริมโครงหน้าแก้ไขจุดที่เราไม่ต้องการให้มีความโดดเด่นน้อยลง
2. การแต่หน้าสร้างมิติสวยด้วยไฮไลท์
การไฮไลท์ คือการสร้างแสงให้แก่ใบหน้า เพื่อเน้นในจุดที่ต้องการให้โดดเด่นเป็นพิเศษ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสีอ่อน มีชิมเมอร์หรือประกายมุก เพื่อให้สะท้อนกับแสงที่ตกกระทบ ข้อดีที่สำคัญที่สุดคือทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและดูเนียนเรียบขึ้นมาก อีกครั้งอย่างให้ภาพลักษณ์ที่สว่างสดใส และยังช่วยปรับโครงหน้า เช่น เปลี่ยนหน้าผากแบนแบนหรือจมูกเล็กๆให้เป็นหน้าผากนูนและจมูกโด่งได้ ไฮไลท์เป็นไอเท็มชิ้นพิเศษที่ใช้ทาบริเวณที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือจะเลือกใช้แบบประกายมุกเนื้อละเอียดผสมก็ได้
หากอยากดูสะอาดตาก็เลือกใช้แป้งไฮไลท์เนื้อแมตต์ แต่ถ้าอยากได้ลุคแวววาวแบบชิคชิคก็ให้เลือกใช้ครีมที่ผสมมุกอนุภาคเล็ก สำหรับใต้ดวงตาให้ทางไฮไลท์ไม่ผสมมุก สำหรับโซน C และโซน T ให้ทาไฮไลท์ผสมมุก
ทําไฮไลท์ที่ดีที่สุด 3 แห่ง
ใต้ดวงตา
เวลาที่ต้องการกำจัดรอยคล้ำรอบดวงตา และสีหน้าที่ดูเหนื่อยล้า ให้เพิ่มความสว่างใต้ดวงตาด้วยไฮไลท์ จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสและผ่อนคลายมากขึ้น เลือกสีไฮไลท์ที่สว่างกว่าโทนสีผิว และถ้าไม่อยากให้ตาดูบวมให้เลือกใช้ชนิดไม่มีประกายมุก
โซน T
ทำให้สันจมูกโด่งขึ้น หน้าผากดุนนูนขึ้น และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีมิติขึ้น
โซน C
ช่วยปกปิดริ้วรอยรอบดวงตา และทำให้ใบหน้าด้านข้างดูเรียวบาง นอกจากนี้ ถ้าทายไร้มุกเนื้อละเอียดที่โซนซีจะช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
การไฮไลท์
ควรใช้ขนแปรงปลายเฉียงและตัดมุมในการไฮไลท์ ซึ่งเหมาะจะใช้สร้างมิติใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะลักษณะของขนแปรงแทรกซ้อนไปตามส่วนโค้งเว้าบนใบหน้าได้ดี
ไฮไลท์ชนิดครีม
ช่วยให้โครงหน้าดูโดดเด่นและในขณะเดียวกันก็ดูชุ่มชื้น แต่ควรใช้ปริมาณน้อยที่สุด แล้วทาบริเวณที่ต้องทาอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าแล้วอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะต่างจากชนิดผงที่ใช้แปรงทาได้อย่างง่ายดาย ต้องใช้ไฮไลท์ชนิดครีมก่อนทาแป้ง เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียน ส่วนชนิดอัดแข็งนั้นให้ใช้หลังจากทาแป้งแล้วจากนั้นจึงปัดบลัชออนทับ
ถ้าพิจารณาผิวของชาวตะวันออกแล้วจะพบว่า
โดยทั่วไป ไฮไลท์โทนไวท์พีชหรือไวท์พิ้งที่ใกล้เคียงกับโทนสีผิวของชาวตะวันออกนั้นใช้งานค่อนข้างๆ นอกจากนี้ชาวตะวันออกยังมีผิวบาง ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบาและมีอนุภาคเล็กซึ่งช่วยทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ
มากเกินไปก็เหมือนขาด
ลงไฮไลท์มากเกินไปจะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ หรือไม่ก็เมื่อเวลาผ่านไปอาจเลอะเทอะได้ จึงต้องไฮไลท์อย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมมุกมากเกินไปจะมีความแวววาวเกินควรจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ควรเลือกไฮไลท์ที่สว่างกว่าทนผิวตนเอง 2-3 โทนและมีมุกผสมอยู่เล็กน้อย
3. พวงแก้มสวยดั่งพวงดอกไม้ด้วยบลัชออน
หลังจากที่แต่งใบหน้าให้ดูเล็กและสวยคมแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ การเติมความมีชีวิตชีวาด้วยบลัชออนแก้มที่เปล่งปลั่งอย่างพอเหมาะแสดงถึงความงดงามขอและสุขภาพที่ดี รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนเยาว์อีกด้วย แค่ลองปัดบลัชออนดูครั้งเดียวก็สามารถคืนชีวิตชีวาให้ใบหน้าที่เหนื่อยล้าและหมองคล้ำได้ราวกับร่ายมนต์ หากยังไม่ชินกับการใช้บลัชออนแล้วล่ะก็ลองทำตามกฎต่อไปนี้ดู
สีลิปสติกกับบลัชออนควรกลมกลืนกัน
โดยทั่วไปแล้วหากเลือกสีลิปสติกและสีบลัชออนเหมือนกัน จะช่วยตัดปัญหาเรื่องการจับคู่สีได้ และทำให้สีริมฝีปากและสีแก้มไม่ขัดกัน [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
ยิ้มเข้าไว้เวลาปัดแก้ม
ถ้าบลัชออนอย่างเบามือโดยวนเป็นวงกลมตรังโซน Apple ที่โดนกลมเหมือนไข่ไก่เวลาที่เรายิ้มกว้าง
เบลนด์บลัชออนสองสีเข้าด้วยกัน
ใช้สีชมพูหรือสีพีชบริเวณที่ยื่นออกมามากที่สุดบนแก้มทั้งสองข้าง ถ้าทำกราเดชั่นสีชมพูโทนพาสเทลละมุนละไม โดยเริ่มจากบริเวณดังกล่าวออกมาโดยรอบด้วยแล้วเราก็จะดูเป็นธรรมชาติและดูนุ่มนวลขึ้นมาก
การทำบลัชออนชนิดครีมให้ดูเป็นธรรมชาติ
เวลาที่แต่งหน้าให้ดูชุ่มชื้นหรือต้องการความรู้สึกแบบหน้าสด บลัชออนชนิดครีมจะเหมาะกว่า ส่วนเวลาที่อยากแต่งรูปน่ารักไร้เดียงสา ให้เลือกแบบทินต์หรือเจลที่ไม่ผสมมุก หากผิวหน้าแห้งหรือมีจุดด่างดำ ให้ทาครีมบลัชออนผสมมุก ถ้าโดยใช้ 2-3 นิ้วแต้มเบาเบาๆเป็นวงกว้าง
การเลือกสีบลัชออน หากทาบลัชออนแล้วทำให้ผิวดูสุขภาพดีและให้ความรู้สึกสดชื่น สีนั้นคือสีที่เหมาะกับคุณ ถ้าจะให้แนะนำสีที่ปัดแล้วไม่ค่อยจะผิดพลาดก็เป็นสีชมพูพีช แซนด์พิ้ง สีน้ำตาลพีช สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นนั้นจะปลอดภัยกว่าสีที่ซีดจนเกินไป ในกรณีที่มีผิวออกแดงๆถ้าเลือกโทนสีพาสเทลอย่างสีลาเวนเดอร์หรือสีไอซิ่งจะทำให้ดูสุขุมขึ้น
เทคนิคการปัดบลัชออนตามโครงหน้า
ใบหน้ายาว
ทาบลัชออนเป็นแนวเฉียงเล็กน้อย โดยปัดออกมาทางด้านนอกของแก้ม ทาเป็นแนวนอน เริ่มจากจุดที่ตรงกับหางตาและปลายจมูก บัสออนที่เหลือให้ทาบางๆที่ปลายจมูก
ใบหน้ากลม
คนที่มีใบหน้ากลมมักจะดูเป็นคนสบายๆ ให้ปัดบลัชออนเป็นแนวทะแยงขึ้นไป 45 องศา จากปลายจมูกไปจนถึงบริเวณกลางดวงตา
ใบหน้าที่เห็นโหนกแก้มชัด
คนที่มีโหนกแก้มยื่นออกมานั้น ต้องทำบริเวณนี้ให้ดูกลมที่สุดจึงจะดูอ่อนโยน ทำได้โดยปัดบลัชออนเป็นวงกลมบริเวณแก้มที่ยื่นออกมาเหมือนไข่ไก่เวลายิ้ม [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
การไฮไลท์ คือการสร้างแสงให้แก่ใบหน้า เพื่อเน้นในจุดที่ต้องการให้โดดเด่นเป็นพิเศษ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสีอ่อน มีชิมเมอร์หรือประกายมุก
4. ดั้งโด่งง่ายๆด้วยโน้สแชโดว์
ส่วนใหญ่เวลาที่คนเราไม่พอใจส่วนใดบนใบหน้า จมูกมักจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ หากไม่นับรวมศัลยกรรมตาสองชั้นที่ทำได้ง่ายๆแล้วเราก็ การศัลยกรรมที่ผู้หญิงจำนวนมากคิดจะทำสักครั้งหนึ่งคือศัลยกรรมจมูก หากใช้โน้สแชโดว์ร่วมกับเทคนิคเฉดดิ้งจะช่วยแต่งจมูกให้สวยโด่งได้โดยไม่ต้องทำศัลยกรรม และยังเปลี่ยนภาพลักษณ์อย่างเห็นได้ชัด
การเฉดดิ้งเสริมปลายจมูกและทำดั้งโด่ง
แบ่งความยาวจมูกออกเป็น 3 ส่วนนับตั้งแต่หัวคิ้วจนถึงใต้จมูก ใช้แปรงแต้มโน้สแชโดว์แล้วทาบริเวณ 1 / 3 ของจมูกด้านบน เน้นดั้งจมูกโดยทาบริเวณด้านข้างของดั้งจมูกทั้งสองข้างเชื่อมไปจนถึงหัวคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นใช้โน้สแชโดว์ที่เหลือติดแปรงปัดบริเวณ 1 / 3 ของจมูกด้านล่าง ให้ปัดเบาๆลงมาทั้งสองข้าง บริเวณวงกลมตรงปีกจมูกอาจจะดูคล้ำลง แต่จะช่วยเสริมปลายจมูกให้ดูเด่นขึ้น
การเลือกแปรงและโน้สแชโดว์
ควรเลือกที่เข้มกว่าโทนสีผิวประมาณ 1 โทน และเลือกชนิดที่มีมุกผสมอยู่ไม่มากนัก แปลงที่เล็กเกินไปจะทำให้เหลือคราบทิ้งไว้ ควรเลือกใช้แปรงขนาดกลางที่เป็นขนแปรงธรรมชาตินุ่มกำลังดี
เทคนิคเฉดดิ้งตามลักษณะจมูก
จมูกกลมเป็นกระเปาะ
จมูกแบบนี้ทำให้หน้าดูบานออก ให้ทาโน้สแชโดว์ปิดทับบริเวณปีกจมูกเบาๆ เพื่อเสริมดั้งจมูก และทาโน้สแชโดว์เบาๆบริเวณข้างจมูกด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้จมูกดูเป็นสันขึ้นมา [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
จมูกยาว
ใช้โน้สแชโดว์ทาเพื่อแรงเอาตั้งแต่บริเวณรอยต่อระหว่างร่องริมฝีปากบนกับใต้จมูกไปจนถึงปลายจมูก เพียงทาไฮไลท์บริเวณพื้นที่รูปตัว T สั้นๆตรงกึ่งกลางหน้าผาก แล้วเน้นบริเวณจมูกส่วนล่างเท่านั้น จมูกยาวก็จะดูสั้นลง
จมูกงุ้ม
ให้ทาโน้สแชโดว์เล็กน้อยเริ่มตั้งแต่บริเวณใต้จมูกจนถึงปลายจมูก ตรงกลางสันจมูกบริเวณที่ยื่นออกมาให้ทาเบาๆในแนวนอนเพื่อสร้างความแตกต่าง
จมูกเล็กและสั้น
ไฮไลท์ยาวๆบนสันจมูก จากนั้นทาโน้สแชโดว์ข้างจมูกทั้งสองข้างเป็นเส้นตรงยาว ถ้ายาวลงมาจนถึงด้านล่าง
5. การทำใบหน้าให้เล็กลงด้วยตนเอง
สาวๆตะวันออกส่วนใหญ่มีใบหน้ากลมแบนมาตั้งแต่เกิดถ้าไม่ยอมรับสภาพก็ทำศัลยกรรม แต่ใบหน้าสามารถจะดูเรียวบางและคมได้แบบไม่เจ็บตัวด้วยแปรงแต่งหน้า ลองใช้เทคนิคเฉดดิ้งและไฮไลท์ที่เหมาะสมในการแต่งหน้าแบบ Small Face make up ที่จะทำให้ใบหน้าดูเล็กลงอย่างน่าอัศจรรย์
ขั้นตอนการทำใบหน้าให้ดูคมและเรียวเล็ก
จัดการแนวผม
เริ่มจากปิดเหลี่ยมหน้าผากตามแนวผมด้านข้างเพื่อทำให้ใบหน้ารูปไข่ ใช้แป้งคอนทัวร์ทาโดยเริ่มบริเวณเส้นผมไล่ออกมาทางด้านใบหน้าท้าทับจนไม่เห็นรอยต่อ
ทำกราเดชั่น
ใช้แปรงเฉดดิ้งทำกราเดชั่นเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ และมองไม่เห็นรอยต่อระหว่างใบหน้ากับแนวผม [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]
เฉดดิ้งบริเวณกรามและลำคอ
เฉดดิ้งเป็นแนวกว้างจากบริเวณหูไล่ลงมาตามกราม ปัดเบาๆจนไม่เห็นรอยต่อ หากปัดไล่ลงมาตามแนวลำคอจะช่วยให้คอดูเรียวเล็กลงและน่ารัก
ปัดบลัชออน
ใช้บลัชออนปัดวนเป็นวงกลมที่บริเวณโซนแอ๊ปเปิ้ลเล็กน้อย
ไฮไลท์โซน T
สำหรับใบหน้ายาวให้ไฮไลท์เป็นรูปตัว T สั้นๆ สำหรับใบหน้ากลมหรือใบหน้าที่จมูกสั้นให้ทำไฮไลท์รูปตัว T ยาวๆมาจนถึงปลายจมูก สำหรับคนที่คางสั้นให้ไฮไลท์ที่ใต้คางด้วย คนที่คางยาวอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำ
ทำดวงตาให้สว่างขึ้น
หากไฮไลท์ที่โซนสามเหลี่ยมและโซน C บนใบหน้าจะทำให้ดูสว่างสดใสขึ้น
ตามเทรนการแต่งหน้าอย่างมีรสนิยม
แบรนด์เครื่องสำอางและเหล่าเมคอัพอาร์ติสท์ล้วนได้รับแรงบันดาลใจในแต่ละฤดูกาลมาจากแคทวอล์ค เวทีแฟชั่นของปารีส มิลาน นิวยอร์ก และลอนดอน ซึ่งเทรนการแต่งหน้านางแบบชาวตะวันตกนั้นสามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้กับใบหน้าของชาวเอเชียได้ง่ายๆ
อายไลเนอร์ชนิดดินสอสี
หากใช้อายไลเนอร์ชนิดดินสอสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเขียนขอบตาบนหรือขอบตาล่างทับแนวขนตา จะทำให้ลูกตาดำถูกล้อมกรอบด้วยประกายสีเงินกลายเป็นลูกที่ดูใหม่แปลกตา หรือไม่ก็ใช้ดินสอสีน้ำตาลหรือดินสอสีดำเหมือนสีตาร่วมกับดินสอสีอื่นๆแต่งดวงตาแบบทูโทน ใช้ดินสอสีดำเขียนโครงก่อน แล้วใช้ดินสอสีอื่นๆทำกราเดชั่น [adinserter name=”navtra”]
ลงเมคอัพเบส
ผิวหนังแบบเป็นประกายแวววาวใต้แสงสปอร์ตไลท์ ให้ผสมเมคอัพเบสมุกกับรองพื้นทาบางๆให้ทั่ว แต่ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมมุกมากจนเกินไปนอกจากจะดูเฉิ่มเชยแล้วยังทำให้ใบหน้าดูใหญ่ขึ้นด้วย หากอยากโชว์ผิวที่ไม่มันเงาสไตล์เฟรนช์แบบเก๋ๆให้ค่อยๆทารองพื้นที่ไม่ผสมมุกให้ทั่ว แล้วใช้แปรงด้ามใหญ่ทาแป้งฝุ่นเนื้อละเอียดเบาๆให้ทั่วใบหน้า เพียงเท่านี้ก็แต่งผิวให้ดูมีเทรนด์ได้อย่างง่ายดาย
ลิปสติกสีสันฉูดฉาด
ลิปสติกสีแรงๆ อย่างสีชมพูหรือสีแดงกำลังมาแรงบนแคทวอล์ค แต่หากแต่งหน้าแบบจัดเต็มแล้วยังทาลิปสติกสีฉูดฉาดด้วยนั้นถือว่ามากเกินไป จึงควรระวังให้ดีเพราะจะทำให้ดูเฉยเฉยเหมือนย้อนกลับไปยุคทศวรรษ 1980 หากทาลิปสติกสีฉูดฉาดก็ควรเผยผิวที่ดูสะอาดให้มากที่สุด และเลือกลิปสติกสีแดงๆที่ช่วยขับสีเสื้อผ้าจะดีกว่า
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
ลีคยองมิน : เขียน; ชนามาศ เพ็งสมบูรณ์: อยากสวยต้องกล้าแต่ง : แปล จาก My sweet makeup recipes อยากสวยต้องกล้าแต่ง : กรุงเทพฯ : Steps อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2558.