ถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาว (Yard long bean) เป็น ผักที่นิยมอย่างมากในเอเชียรวมถึงในประเทศไทย เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายอย่างโดยเฉพาะอาหารขึ้นชื่อของเราเลยก็คือ “ส้มตำ” เป็นผักประเภทถั่วที่มีรสชาติกรอบนอก เป็นหนึ่งในผักที่ค่อนข้างมีรสชาติถูกปาก เป็นผักที่คนทั่วไปรู้จัก มีลักษณะกลมยาวสีเขียวที่ดูเพียงครั้งเดียวก็รู้ได้ว่าคือถั่วฝักยาว แน่นอนว่ามีสรรพคุณต่อร่างกายมากมาย แต่มีประโยชน์ในด้านไหนบ้างคาดว่าคนทั่วไปยังไม่รู้มากนัก
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของถั่วฝักยาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vigna unguiculata (L.) Walp. และ Vigna unguiculata subsp. sesquipedalis (L.) Verdc.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญว่า “Yard long bean”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคกลางเรียกว่า “ถั่วนา ถั่วขาวหรือถั่วฝักยาว” ภาคเหนือเรียกว่า “ถั่วหลา ถั่วปีหรือถั่วดอก”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE)
ชื่อพ้อง : Vigna sinensis (L.) Savi ex Hausskn., Vigna sinensis (L.) Savi ex Hassk., Vigna unguiculata subsp. Unguiculata
ลักษณะของถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาว เป็นไม้เลื้อยสีเขียวอ่อนที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและอินเดีย
ใบ : เป็นใบประกอบแบบฝ่ามือ ลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยม
ดอก : ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาวหรือน้ำเงินอ่อน
ฝัก : ฝักมีลักษณะกลม
เมล็ด : มีเมล็ดจำนวนมาก
การนำไปใช้ประโยชน์ของถั่วฝักยาว
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร เป็นส่วนหนึ่งในอาหารพวก ส้มตำ ผัดผัก แกงส้มถั่วฝักยาว เป็นต้น
2. เป็นวัตถุดิบในด้านอุตสาหกรรมแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง
ประโยชน์ของถั่วฝักยาว
- สรรพคุณด้านประสาทสัมผัสทั้ง 5 บำรุงฟัน ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- สรรพคุณด้านกระดูก บำรุงกระดูกและป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
- สรรพคุณด้านความงาม ลดความอ้วนเนื่องจากมีสรรพคุณเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน
- สรรพคุณด้านเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการเกิดโรคหวัด
- สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการ
– แก้อาเจียน ด้วยการใช้เมล็ดแห้งหรือสดนำมาคั้นหรือต้มกินกับน้ำ
– รักษาฝีเนื้อร้าย ด้วยการใช้รากสดไปเผาแล้วบดละเอียดผสมกับน้ำแล้วทาบริเวณที่มีอาการ
– รักษาอาการปวดบวม ปวดตามเอวและรักษาแผลที่เต้านม ด้วยการใช้เปลือกฝักประมาณ 100 – 150 กรัม มาต้มกินหรือนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่ปวด - สรรพคุณด้านระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
– แก้อาการเบื่ออาหารของเด็กจากกระเพาะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้รากสดมาผสมกับรากเถาตดหมาตดหมู แล้วนำมาตุ๋นกินกับเนื้อวัว
– แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง เรอเปรี้ยว ด้วยการเคี้ยวฝักสดกิน
– รักษาอาการปัสสาวะเป็นหนอง ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 60 – 100 กรัม มาต้มกับน้ำ
– แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ด้วยการใช้เมล็ดแห้งหรือสดมาคั้นสดหรือต้มกินกับน้ำ
– แก้ตกขาว ด้วยการใช้เมล็ดแห้งหรือสดผสมกับผักบุ้งแล้วนำมาตุ๋นกับเนื้อไก่พร้อมรับประทาน - สรรพคุณด้านป้องกันโรค
– รักษาโรคหนองใน ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 60 – 100 กรัม มาต้มกับน้ำ หากโรคหนองในไหลให้ใช้รากสดไปเผาแล้วบดจนละเอียด ผสมกับน้ำแล้วใช้ทา - สรรพคุณช่วยบำรุงอวัยวะ
– บำรุงม้ามและไต ด้วยการใช้เมล็ดแห้งหรือสดนำมาคั้นหรือต้มกินกับน้ำ หรือจะใช้รากนำมาตุ๋นกินเนื้อก็ได้ บำรุงไตอีกวิธีคือ ใช้ถั่วสดหรือเมล็ดนำมาต้มกับน้ำผสมกับเกลือ - สรรพคุณด้านอื่น ๆ ช่วยทำให้เนื้อเยื่อเจริญเร็วขึ้น
– แก้กระหายและชุ่มชื่น ด้วยการใช้เมล็ดแห้งหรือสดนำมาคั้นสดหรือต้มกินกับน้ำ
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วฝักยาว
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วฝักยาวต่อ 100 กรัม โดยคิดเป็น % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ ให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหาร |
คาร์โบไฮเดรต | 8.35 กรัม |
ไขมัน | 0.4 กรัม |
โปรตีน | 2.8 กรัม |
วิตามินเอ | 43 ไมโครกรัม (5%) |
วิตามินบี1 | 0.107 มิลลิกรัม (9%) |
วิตามินบี2 | 0.11 มิลลิกรัม (9%) |
วิตามินบี3 | 0.41 มิลลิกรัม (3%) |
วิตามินบี5 | 0.55 มิลลิกรัม (11%) |
วิตามินบี6 | 0.024 มิลลิกรัม (2%) |
วิตามินบี9 | 62 ไมโครกรัม (16%) |
วิตามินซี | 18.8 มิลลิกรัม (23%) |
แคลเซียม | 50 มิลลิกรัม (5%) |
เหล็ก | 0.47 มิลลิกรัม (4%) |
แมกนีเซียม | 44 มิลลิกรัม (12%) |
แมงกานีส | 0.205 มิลลิกรัม (10%) |
ฟอสฟอรัส | 59 มิลลิกรัม (8%) |
โพแทสเซียม | 240 มิลลิกรัม (5%) |
สังกะสี | 0.37 มิลลิกรัม (4%) |
ข้อควรระวัง
1. ระมัดระวังในการเลือกซื้อและการทำความสะอาดถั่วฝักยาว เนื่องจากตรวจพบว่ามีสารไซเพอร์เมทริน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ปวดท้องหากรับประทานเข้าไปและเมโทมิลซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชั้นดี สารพวกนี้เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มคาร์บาเมตและไพรีทรอยด์ เป็นสารพวกยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษมากมายโดยเฉพาะมะเร็ง
2. ผู้ที่มีอาการท้องผูก ไม่ควรรับประทานเมล็ดของถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาว เป็นถั่วที่มีลักษณะโดดเด่น ใคร ๆ ก็รู้จักเพราะหาได้ง่าย มีรสชาติที่ไม่ฝาดขมเหมือนผักอื่น ๆ มักจะพบในอาหารพวกส้มตำและผัดเผ็ด มีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบขับถ่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นผักที่รับประทานได้เรื่อย ๆ หรือจะนำมาจิ้มกับน้ำพริกก็มีรสชาติดีเหมือนกัน
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม