ผักเบี้ยใหญ่ ยาสมุนไพรต่อเด็ก แก้เด็กเป็นไข้สูง แก้เด็กหัวล้าน แก้เด็กท้องร่วง

0
1421
ผักเบี้ยใหญ่
ผักเบี้ยใหญ่ ยาสมุนไพรต่อเด็ก แก้เด็กเป็นไข้สูง แก้เด็กหัวล้าน แก้เด็กท้องร่วง เป็นวัชพืชตามริมถนนตามพื้นดิน เบี้ยใหญ่มีรสเปรี้ยว นิยมนำมาทานเป็นผักสดหรือแกง

ผักเบี้ยใหญ่

ผักเบี้ยใหญ่

ผักเบี้ยใหญ่ เป็นผักที่มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในเขตร้อน มักจะพบตามพื้นดิน ตามชายฝั่งริมน้ำที่โล่ง ดินทราย ที่ชื้นแฉะ ที่รกร้างทั่วไป หรือเป็นวัชพืชตามริมถนน สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เบี้ยใหญ่มีรสเปรี้ยว นิยมนำมาทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก หรือนำมาต้มในแกง แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย เหมือนจะเป็นผักที่พบได้ทั่วไป แต่มีประโยชน์มากมาย แถมต่างประเทศทางยุโรปยังนำมาใช้เป็นไม้ประดับด้วย

รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของผักเบี้ยใหญ่

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Portulaca oleracea L.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญว่า “Purslane” “Common purslane” “Common garden purslane” “Pigweed purslane”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคกลางเรียกว่า “ผักเบี้ยดอกเหลือง” จังหวัดนครราชสีมาเรียกว่า “ผักตาโค้ง” จังหวัดอุบลราชธานีเรียกว่า “ผักอีหลู ตะก้ง” ชาวเงี้ยวแม่ฮ่องสอนเรียกว่า “ผักอีหลู” จีนแต้จิ๋วเรียกว่า “แบขี่เกี่ยง ตือบ้อฉ่าย”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ผักเบี้ย (PORTULACACEAE)

ลักษณะของผักเบี้ยใหญ่

ผักเบี้ยใหญ่ เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ขึ้นได้เองอายุปีเดียวที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย มักจะพบตามชายฝั่งริมน้ำที่โล่ง ดินทราย ที่ชื้นแฉะ ที่รกร้างทั่วไป เป็นวัชพืชตามริมถนนและข้างทางเดิน
ลำต้น : ลำต้นเตี้ยเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ออกไป ลำต้นอวบน้ำเป็นสีเขียวอมแดง ก้านกลม
ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นรูปลิ่ม รูปไข่กลับ คล้ายรูปช้อนหรือรูปลิ้น ปลายใบมนมีรอยเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบเรียวเล็กลงจนไปติดกับลำต้น แผ่นใบหนา ผิวใบเรียบเป็นมัน หลังใบเป็นสีเขียวแก่ ท้องใบเป็นสีแดงเข้ม
ดอก : ออกดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อ ไม่มีก้านดอก ดอกมี 2 เพศ อยู่ในดอกเดียวกัน ดอกมีขนาดเล็กสีเหลืองสด มักออกเป็นกลุ่ม 3 – 5 ดอก กลีบเลี้ยง 4 – 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กซ้อนกันเป็นคู่ กลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลืองสด แต่ละกลีบเป็นรูปไข่กลับหรือหัวใจคว่ำลง ปลายกลีบมีรอยเว้าเข้า ก้านสั้นมีขนหรือเยื่อบาง ๆ
ผล : ผลมีลักษณะเป็นรูปกลมหรือรูปวงรี เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลแล้วแตกออก
เมล็ด : ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เป็นรูปกลมหรือรูปไต สีดำหรือสีเทาดำเป็นเงา บนเปลือกเมล็ดมีจุดกระ

สรรพคุณของผักเบี้ยใหญ่

  • สรรพคุณจากใบ ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้ถูกไฟไหม้ แก้น้ำร้อนลวก แก้อักเสบบวม แก้ไฟลามทุ่ง เป็นยาแก้อาการอักเสบและแผล
    – แก้อาการกระหายน้ำ แก้ไอแห้ง แก้ขัดเบา ด้วยการนำใบมาคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำผึ้งและน้ำตาล
    – แก้ริดสีดวงทวารปวดบวม ด้วยการนำใบสดผสมกับส้มกบอย่างละเท่ากัน พอน้ำอุ่นใช้ชะล้างวันละ 2 ครั้ง
  • สรรพคุณจากน้ำคั้นของต้น เป็นยาฟอกโลหิต ช่วยแก้อาการปวดหู แก้ปวดฟัน ช่วยกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก แก้หนองใน แก้ปัสสาวะขัด รักษาแผลจากแมลงกัดต่อย
    – แก้เจ็บคอ แก้เหงือกบวม ช่วยทำให้ฟันทน ด้วยการนำน้ำคั้นมาผสมกับน้ำมันกุหลาบ ใช้อมเป็นยา
  • สรรพคุณจากต้น แก้เด็กไอกรน
    – แก้เด็กหัวล้าน ด้วยการนำต้นมาเคี่ยวให้ข้น แล้วเอาไปผิงกับไฟให้แห้ง บดให้เป็นผงผสมกับไขหมู ทำการทาบริเวณที่มีอาการ
    – แก้เด็กเป็นไข้สูง ด้วยการนำต้นสดมาตำพอกวันละ 2 ครั้ง
    – แก้บิดถ่ายเป็นเลือด ป้องกันบิด ด้วยการนำต้นสด 550 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด เอาไปนึ่ง 3 – 4 นาที ตำคั้นเอาน้ำมา 150 ซี.ซี. ใช้ทานครั้งละ 50 ซี.ซี. วันละ 3 ครั้ง หรือนำต้นสด 1 กำมือ ผสมปลายข้าว 3 ถ้วย นำมาต้มเป็นข้าวต้มทาน
    – แก้เด็กท้องร่วง ด้วยการนำต้นสด 250 – 500 กรัม มาต้มกับน้ำใส่น้ำตาลพอประมาณ กินเรื่อย ๆ จนหมดใน 1 วัน กินติดต่อกัน 2 – 3 วัน หรือนำต้นสดมาล้างให้สะอาด ผิงไฟให้แห้งแล้วบดเป็นผงกินครั้งละ 3 กรัม กับน้ำอุ่น วันละ 3 ครั้ง
    – แก้ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ด้วยการนำต้น 1 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด เอาน้ำประมาณ 30 ซี.ซี. ผสมกับน้ำเย็นจนเป็น 100 ซี.ซี. ใส่น้ำตาลพอประมาณ ใช้ทานครั้งละ 100 ซี.ซี. วันละ 3 ครั้ง
    – ช่วยแก้บวม รักษาแผลเน่าเปื่อยเป็นหนองเรื้อรัง ด้วยการนำต้นสดมาตำคั้นเอาน้ำมาต้ม เมื่อเย็นแล้วนำมาใช้ทา
    – รักษาฝีประคำร้อย ด้วยการนำต้นมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม เผาให้เป็นถ่าน บดเป็นผงผสมกับไขหมู แล้วชะล้างบาดแผล เช็ดให้แห้ง แล้วทำการพอกวันละ 3 ครั้ง
    – แก้แผลกลาย แก้มีก้อนเนื้องอก แก้เลือดออกเรื่อย ๆ แก้แผลลามไปเรื่อย ด้วยการนำต้น 500 กรัม มาเผาให้เป็นถ่าน บดเป็นผงผสมกับไขหมูทาบริเวณที่มีอาการ
  • สรรพคุณจากทั้งต้น ดีต่อฟัน ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ร้อน ดับพิษ ช่วยหล่อลื่นลำไส้ ช่วยรักษาริดสีดวงทวารแตกเลือดออก
  • สรรพคุณจากเมล็ด แก้กระหายน้ำ แก้อาการไอ เป็นยาระบายอ่อน ๆ เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา

ประโยชน์ของผักเบี้ยใหญ่

1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร ใช้ทานเป็นผักสด ผักสลัด นำมาต้มลวกทานร่วมกับน้ำพริก ใช้ใส่ในแกงจืด ชาวยุโรปนำมาดองใส่เกลือและน้ำส้ม
2. ปลูกเป็นไม้ประดับ ทวีปยุโรปปลูกต้นผักเบี้ยใหญ่เป็นไม้ประดับ

คุณค่าทางโภชนาการของผักเบี้ยใหญ่

คุณค่าทางโภชนาการของผักเบี้ยใหญ่ ต่อ 100 กรัม

สารอาหาร ปริมาณที่ได้รับ
โปรตีน 2.2 กรัม
ไขมัน 0.3 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 7.9 กรัม 
ใยอาหาร 1.1 กรัม
น้ำ 87.5% 
แคลเซียม 115 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 1.4 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 2,200 หน่วยสากล 
วิตามินบี1 0.06 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.14 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 0.8 มิลลิกรัม 
วิตามินซี 21 มิลลิกรัม

ผักเบี้ยใหญ่ เป็นต้นยอดนิยมของชาวยุโรปทั้งในด้านการนำมาทาน และนำมาปลูกเป็นไม้ปลูกประดับ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ค่อนข้างที่จะเป็นยาดีในเด็ก ผักเบี้ยใหญ่มีสรรพคุณทางยาได้หลายส่วนจากต้นโดยเฉพาะส่วนของต้น มีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือ เป็นยาฟอกโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นยาทาภายนอก แก้เจ็บคอ แก้เด็กเป็นไข้สูง แก้เด็กหัวล้าน และแก้เด็กท้องร่วงได้ เป็นยาที่มีสรรพคุณต่อเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). “ผักเบี้ยใหญ่”. หน้า 498-499.
หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด. (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก). “ผักเบี้ยใหญ่”. หน้า 104.
ผักพื้นบ้านในประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร. “ผักเบี้ยใหญ่”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : ftp://smc.ssk.ac.th/intranet/Research_AntioxidativeThaiVegetable/. [17 พ.ย. 2014].
ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “ผักเบี้ยใหญ่”. อ้างอิงใน : หนังสือ พรรณไม้น้ำบึงบอระเพ็ด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [17 พ.ย. 2014].
มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 2 คอลัมน์ : สมุนไพรน่ารู้. (ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ). “ผักเบี้ยใหญ่”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th. [17 พ.ย. 2014].
สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “ฤทธิ์ระงับปวดและอักเสบของผักเบี้ยใหญ่”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th. [17 พ.ย. 2014].
ข้อมูลอ้างอิง (Source) : https://medthai.com/
รูปอ้างอิง
1.https://www.plantsofthemiddleeast.com/directory/bahrain/portulaca_oleracea/index.htm
2.https://gardenerspath.com/plants/herbs/grow-purslane/