พริกไทย เครื่องเทศมหัศจรรย์ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

0
6357
พริกไทย มีผลดีต่อเอนไซม์ตับอ่อน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการย่อยอาหาร เป็นเครื่องเทศมีประโยชน์มากมายตั้งแต่โบราณ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพสามารถป้องกันโรคต่างๆ
พริกไทย เครื่องเทศมหัศจรรย์ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่
พริกไทย มีผลดีต่อเอนไซม์ตับอ่อน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการย่อยอาหาร มีประโยชน์ต่อสุขภาพสามารถป้องกันโรคต่างๆ

พริกไทย

พริกไทย ( PEPPER ) พริกไทย (PEPPER) หรือพริกไทยสด (Green Peppercorn) คือ สมุนไพรและเครื่องเทศที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก ทั้งพริกไทยดำ ( Black pepper ) และพริกไทยขาว (white pepper) พืชที่เติบโตในพื้นที่เขตร้อนชื้นและมีฝนตกชุกพริกไทยมีถิ่นกำเนิดในชายฝั่งอินเดียมีประวัติมาอย่างยาวนาน เป็นเครื่องเทศที่ปลูกกันแพร่หลายอยู่ทั่วโลก ซึ่งเป็นราชาของเครื่องเทศมีกลิ่นหอมฉุน ให้รสเผ็ดร้อน สามารถทานได้ทั้งสดและแห้งนิยมนำมาปรุงรสในอาหารแยกได้หลายประเภทดังนี้ พริกไทยดำ พริกไทยขาว พริกไทยป่น พริกไทยอ่อน พริกไทยสด พริกไทยแห้ง เป็นสมุนไพรมีสรรพคุณทางตำรับยาทั้งทางการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการแพทย์แผนปัจจุบัน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพริกไทย

พริกไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ Piper nigrum L. ชื่อวงศ์ตระกูล Piperaceae พริกไทยเป็นต้นไม้เลื้อยมีลำต้นเถาเนื้อแข็งสีเขียวสูงประมาณ 10 เมตร โดยระบบรากอยู่ในดินลึกไม่เกิน 2 เมตรและอาศัยรากอากาศใช้ยึดติดกับต้นไม้ ใบกว้างสีเขียวมันวาวเรียงสลับกันขอบขนานปลายใบแหลมโคนใบมนกลมกว้าง 3.5 – 6 เซ็นติเมตร ยาวประมาณ 3 – 6 เซ็นติเมตร มีเส้นตามแนวยาว 5 เส้น ดอกสีขาวขนาดเล็กมีหนามแหลมเรียวยาวดอกละประมาณ 50 ดอก มี 2 เพศในดอกเดียวกัน ผลทรงกลมขนาด 4 – 5 เซ็นติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนหรือสีเขียวเข้ม เมื่อผลพริกไทยเริ่มแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงแห้งแล้วเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีดำแต่ถ้าแกะเปลือกออกมีสีขาวนวล มีเมล็ดด้านใน 2 เมล็ด

สารออกฤทธิ์ในพริกไทย

ในเปลือกของพริกไทยอุดมไปด้วยปริมาณฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และไพเพอรีนทั้งหมด 1421.95 ± 22.35 มก. GAE/100 ก., 983.82 ± 8.19 มก. CE/100 ก. และ 2352.19 ± 68.88 มก./100 กรัมตามลำดับ พริกไทยดำ คือผลแห้งที่ยังไม่สุกเต็มที่ของต้นพริกไทยถูกใช้เป็นเครื่องเทศ และเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพร ในขณะที่พริกไทยขาวคือผลสุกที่ไม่มีเปลือกนอก พริกไทยดำและขาวสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ คือ สารไพเพอรีนซึ่งมีหน้าที่ทำให้พริกไทยมีกลิ่นฉุน ซึ่งพบได้ในตระกูลพริกไทย (Piperaceae) รวมถึงพริกยาว ( Piper longum ) ช่วยให้อาหารมีรสชาติเผ็ดร้อน เปลือกพริกไทยดำช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ลดอาการปวดหัว ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยระบบย่อยอาหารไม่ดี และยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ดส่วนใหญ่ใช้กิ่งปักชำใช้เสาหรือต้นไม้ที่เป็นที่ยึดเป็นต้น

ตารางโภชนาการของพริกไทย

ข้อมูลโภชนาการ พริกไทย ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 255 แคลอรี่

สารอาหาร ปริมาณสารอาหาร
ไขมัน 3.3 กรัม
น้ำ 10.5 กรัม
โซเดียม 44 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 1,259 มิลลิกรัม
คาร์โบไฮเดรต 64.8 กรัม
ไฟเบอร์ 26.5 กรัม
โปรตีน 11 กรัม
วิตามินเอ 15 ไมโครกรัม
วิตามินบี 60.3 มิลลิกรัม
วิตามินซี 21 มิลลิกรัม
วิตามินอี 0.7 มิลลิกรัม
วิตามินเค 163.7 ไมโครกรัม
แคลเซียม 437 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 28.9 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 194 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 173 มิลลิกรัม
สังกะสี 1.4 มิลลิกรัม
ทองแดง 1.1 มิลลิกรัม
ฟลูออไรด์ 34.2 ไมโครกรัม
แมงกานีส 5.6 มิลลิกรัม
ซีลีเนียม 3.1 ไมโครกรัม
ไลโคปีน 6 ไมโครกรัม
ไทอามีน 0.1 มิลลิกรัม
ไรโบฟลาวิน 0.2 มิลลิกรัม
ไนอาซิน 1.1 มิลลิกรัม
โฟเลต 10 ไมโครกรัม
โคลีน 11.3 มิลลิกรัม
เบทาอีน 8.9 มิลลิกรัม

(*ค่าเปอร์เซ็นต์รายวันขึ้นอยู่กับอาหาร 2,000 แคลอรี่ดังนั้นค่าของคุณอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความต้องการแคลอรี่)

ประโยชน์ต่อสุขภาพของพริกไทยดำ

การวิจัยพบว่าพริกไทยดำ ( Black pepper ) มีผลดีต่อเอนไซม์ตับอ่อน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการย่อยอาหาร เป็นเครื่องเทศมีประโยชน์มากมายตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันถูกยกให้เป็นราชาแห่งเครื่องเทศ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพสามารถป้องกันโรคต่างๆ ได้ดังนี้

  • พริกไทยดำประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ และแคโรทีนอยด์ที่ช่วยในการรักษามะเร็งและโรคร้ายแรงอื่น ๆ
  • ในพริกไทยดำมีกรดเกลือหรือกรดไฮโดรคลอริก ( Hydrochloric acid ) ช่วยย่อยโปรตีนในอาหาร ช่วยในการทำความสะอาดลำไส้ และช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เร็วขึ้น
  • ช่วยยับยั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ช่วยปกป้องการสร้างเม็ดสีผิวและรักษาสีผิวเดิม
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น และลดจุดด่างดำบนใบหน้า
  • เมล็ดพริกไทยช่วยล้างสารพิษออกจากผิว
  • พริกไทยดำช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย ช่วยให้ผมดกดำขึ้น
  • พริกไทยเครื่องเทศที่มีสารไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งช่วยในการสลายไขมันส่วนเกิน ลดน้ำหนัก ช่วยเริ่งการเผาผลาญของร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำ
  • การกินพริกไทยสดช่วยป้องกันโรคซึมเศร้า ยับยั้งอาการทางจิต
  • ช่วยในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไอ จาม ไอมีเสมหะ
  • ช่วยป้องกันอาการคัดหน้าอกได้
  • ช่วยลดอาการปวดข้อ และอาการปวดกระดูกสันหลัง
  • ช่วยในการป้องกันโรคเกาต์
  • ช่วยขับเหงื่อและขับปัสสาวะ
  • มีคุณสมบัติในการขับลมและช่วยบรรเทาแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดและอาการปวดจุกเสียด
  • ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารต่างๆ เช่น ซีลีเนียม เคอร์คูมิน เบต้าแคโรทีน และวิตามินบีในลำไส้
  • ช่วยลดความเครียดในทวารหนัก
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาต้านเนื้องอก ( Docetaxel ) ในกลุ่ม Taxane ซึ่งเป็นยาเคมีบำบัดที่ใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ในพริกไทยพบสารแอลคาลอยด์ ( Alkaloid ) หรือเรียกอีกชื่อว่า ไพเพอร์รีน มีประสิทธิภาพในการควบคุมความดันโลหิต ช่วยเพิ่มการดูดซึมของเคอร์คูมิน ( Curcumin ) ที่พบในขมิ้น
  • คุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียของพริกไทยดำ
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและการติดเชื้อในช่องปาก
  • พริกไทยดำมีผลดีต่อสุขภาพสมอง ช่วยให้นอนหลับง่าย

การบริโภคพริกไทยต่อวัน

พริกไทยที่นิยมบริโภคกันทั่วๆไปนั้น มีทั้ง พริกไทยเมล็ด พริกไทยป่น พริกไทยสด พริกไทยดำ การบริโภคที่ดีควรทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไป เนื่องจากพริกไทยเป็นเครื่องเทศไม่ใช่อาหาร ปริมาณที่เหมาะสมเพิ่มเติมพริกไทยป่นลงไปในอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ ( 6 กรัม ) จะให้พลังงาน 15.9 แคลอรี่ เส้นใยอาหาร 2 กรัม ไขมัน 4.1 กรัม โซเดียมประมาณ 3 มิลลิกรัม และคาร์โบไฮเดรต 4 กรัม พ่อครัว แม่ครัว กุ๊ก เชฟใช้พริกไทยในการปรุงอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อน เมนูอาหารพริกไทย เช่น แกงเลียง คั่วกลิ้ง ผัดหอยลายโหระพาพริกไทยอ่อน เนื้อผัดพริกไทยดำ ทะเลผัดพริกไทยดำ ( ไก่ ปลา หมู กุ้ง ปลาหมึก หอย เนื้อ ) สเต็ก เป็นต้น

เมนูพริกไทยรสเด็ด

  • สเต๊กหมูพริกไทยดำ
  • ผัดหอยลายโหระพาพริกไทยอ่อน
  • มาม่าผัดขี้เมาทะเล
  • เนื้ออบซอสพริกไทยดำ
  • หมู ไก่ผัดพริกไทยดำ
  • แกงป่าเนื้อใส่พริกไทยดำ
  • หมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ
  • ผัดฉ่าทะเล
  • ผัดกระเพราหมูสับใส่พริกไทยดำ
  • แกงจืดวุ้นเส้นทรงเครื่อง

พริกไทยจัดเป็นสมุนไพรมีสรรพคุณทางยามากมายและเป็นนิยมปลูกกันมากในประเทศไทยมีมากถึง 7 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์ซีลอน พันธุ์คุชชิ่ง พันธุ์ปรางถี่ธรรมดา พันธุ์ใบหนา พันธุ์ควายขวิด พันธุ์บ้านแก้ว และพันธุ์ปรางถี่หยิก อุดมไปด้วยสังกะสี และแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุสองชนิดที่สำคัญต่อฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายเพิ่มปริมาณอสุจิผู้ชายทั้งหลายไม่ควรพลาด

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม