ผักเบี้ยหิน
ผักเบี้ยหิน (Trianthema portulacastrum) เป็นไม้ล้มลุกฤดูกาลเดียวที่พบในข้าวไร่และนาดอนพื้นที่นาน้ำฝน มีดอกเป็นสีชมพูอ่อนหรือสีชมพูแกมขาว สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้แต่ว่าสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้เป็นอันขาดเพราะอาจทำให้แท้งบุตรได้ ผักเบี้ยหินยังเป็นยาสมุนไพรที่อยู่ในตำรายาไทยและชาวอินเดียใช้ในการรักษา ถือเป็นต้นที่ภายนอกดูเหมือนไม่มีประโยชน์นักแต่กลับเป็นยาได้หลายส่วนจากต้น
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของผักเบี้ยหิน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trianthema portulacastrum L.
ชื่อท้องถิ่น : มีชื่ออื่น ๆ ว่า “ผักโขมหิน ผักขมหิน”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ผักเบี้ยทะเล (AIZOACEAE)
ลักษณะของผักเบี้ยหิน
ผักเบี้ยหิน เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูกาลเดียวที่มักจะพบในข้าวไร่และนาดอนพื้นที่นาน้ำฝน
ลำต้น : ลำต้นมีลักษณะทอดเลื้อยแผ่ราบปกคลุมดินหรือมีลักษณะตั้งตรงบ้าง ลำต้นมีลักษณะกลมสดอวบน้ำหรือค่อนข้างเป็นเหลี่ยม ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน มีสีเขียวอมม่วงหรือสีม่วงอมแดงอ่อน ตามกิ่งอ่อนและตามข้อจะมีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย
ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปไข่กลับ รูปกลมหรือรูปหัวใจ ปลายใบมนเว้า โคนใบแหลมหรือมน ขอบใบเรียบ ริมขอบใบเป็นสีม่วง แต่ละใบมีขนาดไม่เท่ากัน แผ่นใบเป็นสีเขียว ผิวใบเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ก้านใบมีลักษณะเป็นร่องเล็ก ใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย
ดอก : ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบ ด้านซ้ายหรือด้านขวาสลับกันในแต่ละข้อ ดอกจะฝังตัวในหลอดกลีบที่เชื่อมติดกับโคนก้านใบในซอกใบ ไม่มีก้านดอก ข้างหลอดกลีบจะมีใบประดับสีม่วงแกมเขียว 2 อัน ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม หลอดกลีบเป็นสีม่วงแกมเขียวติดกันเป็นรูปถ้วย กลีบดอกเป็นสีชมพูอ่อนหรือสีชมพูแกมขาว แยกจากกันมี 5 กลีบ กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานปลายแหลม ตอนปลายกลีบเป็นติ่งแหลมสีม่วง ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวนมากติดอยู่บนกลีบดอก ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีชมพู เกสรเพศเมียมี 1 อัน รังไข่ superior ovary ยอดเกสรเป็นเส้น รังไข่เป็นรูปทรงกระบอกมี 1 ห้อง ออวุลมี 2 – 8 อัน สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
ผล : ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปถ้วย ส่วนโคนของฝักจะอยู่ตามซอกใบ เปลือกเหนียว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่เป็นสีแดง ถ้าแห้งแล้วจะแตก
เมล็ด : ภายในมีเมล็ดสีดำประมาณ 3 – 4 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไต ผิวเมล็ดมีลักษณะขรุขระเล็กน้อย
สรรพคุณของผักเบี้ยหิน
- สรรพคุณจากทั้งต้น เป็นยาบำรุงโลหิต เป็นยาขับลม ช่วยแก้โรคท้องมานและเยื่อบุช่องท้องอักเสบ เป็นยาขับปัสสาวะ รักษาโรคไต เป็นยาแก้ฟกบวม
- สรรพคุณจากราก ช่วยเจริญธาตุไฟ ช่วยแก้ลมอัณฑพฤกษ์ เป็นยาขับเสมหะ เป็นยาถ่าย เป็นยาช่วยทำให้ประจำเดือนของสตรีมาเป็นปกติ รักษาโรคริดสีดวงทวาร
- สรรพคุณจากใบ ช่วยแก้อาการเจ็บ แก้เหงือกบวม ช่วยขับระดูขาวของสตรี เป็นยาทาภายนอกแก้แผลอักเสบ
ประโยชน์ของผักเบี้ยหิน
เป็นส่วนประกอบของอาหาร ปรุงเป็นอาหารหรือรับประทานสด
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของผักเบี้ยหิน
ผลการทดลองของผักเบี้ยหินในหนูทดลอง จากการศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผักเบี้ยหินกับหนูทดลอง โดยแบ่งหนูแรทที่ถูกกระตุ้นให้เป็นเบาหวานด้วย streptozotocin ออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ตัว แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม กลุ่มที่รักษาด้วยยามาตรฐานซึ่งใช้ลดน้ำตาลในเลือด (glibenclamide) ในขนาด 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนอีก 2 กลุ่มให้สารสกัดเมทานอลของผักเบี้ยหินขนาด 100 และ 200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ ผลการทดลองพบว่าสารสกัดเมทานอลของผักเบี้ยหินสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูแรทได้อย่างมีนัยสำคัญหลังกินเข้าไป 1 ชั่วโมง และจะออกฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลได้ดีที่สุดหลังกินเข้าไป 4 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าสารดังกล่าวมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นเบาหวานได้เทียบเท่ากับการรักษาโดยใช้ยามาตรฐานที่ใช้ลดน้ำตาลในเลือด (glibenclamide)
ผักเบี้ยหิน เป็นไม้ล้มลุกฤดูกาลเดียวที่ทอดเลื้อยแผ่ราบปกคลุมดิน สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารหรือทานสดได้ คนไทยมักจะไม่ค่อยรู้ว่าผักคลุมดินชนิดนี้สามารถนำมาใช้ทำเป็นยาสมุนไพรได้ ผักเบี้ยหินมีสรรพคุณทางยาได้หลายส่วนจากต้นโดยเฉพาะส่วนของรากและทั้งต้น มีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือ บำรุงเลือด ขับลม รักษาโรคไต รักษาโรคริดสีดวงทวาร ช่วยทำให้ประจำเดือนของสตรีมาเป็นปกติและขับระดูขาวของสตรี เป็นต้นที่ดีต่อมดลูกของผู้หญิงแต่ในทางกลับกันก็เป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์ได้
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). “ผักโขมหิน”. หน้า 474-475.
สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “ผักเบี้ยหิน (Trianthema portulacastrum ) ช่วยลดน้ำตาลในเลือดในหนูที่เป็นเบาหวาน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th. [20 พ.ย. 2014].
คมชัดลึกออนไลน์. (นายสวีสอง). “ผักเบี้ยหิน แก้เจ็บคอ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.komchadluek.net. [20 พ.ย. 2014].
ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “ผักเบี้ยหิน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.bedo.or.th. [20 พ.ย. 2014].
ข้อมูลอ้างอิง (Source) : https://medthai.com/