ขาวเท่ากับสวยจริงหรือ?
คนเรามีสีผิวสีอ่อนหรือเข้มแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กันปริมาณเมลานินหรือเม็ดสีใต้ผิวหนัง

ผิวขาว

เลิกน้อยใจ ทำไม ผิวขาว ไม่เท่ากับเพื่อน
ก่อนเข้าสู่วิธีการสร้างผิวขาวราวปุยนุ่นนั้น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอะไรทำให้คนเรามีสีผิวสีอ่อนหรือเข้มแตกต่างกันไป ซึ่งสีผิวคนเราขึ้นอยู่กันปริมาณเมลานินหรือเม็ดสีใต้ผิวหนัง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ 2 ชนิดคือ
Eumelanin เม็ดสีออกน้ำตาล-ดำ (คนผิวสองสี)
Pheomelanin เม็ดสีออกชมพู-แดง (คนผิวขาว)   

คนเรามีเม็ดสีทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับว่ามีแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งกำหนดได้จาก
กรรมพันธุ์ ที่พ่อแม่ให้มา
แสงแดด กระตุ้นให้เม็ดสีเข้มขึ้น
อาการป่วย หรือกินยาบางประเภท เช่น คนป่วยโรคมะเร็งจะตัวคล้ำขึ้น

เหตุผลที่คนเราดำขึ้นเมื่อโดนแดด

เป็นกลไกการป้องกันตัวของร่างกายซึ่งสร้างมาอย่างสมดุลและมีเหตุผล เช่น คนแอฟริกันมีเมลานินชนิด Eumelanin มากเพื่อป้องกันแสงแดดที่มีความเข้มข้นสูง Eumelanin ทำหน้าที่เหมือนร่มให้กับดีเอ็นเอของผิวหนัง ถ้าผิวโดนแสงแดดมากจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ชาวตะวันตกส่วนมากมี ผิวขาว ขาวอมชมพู แต่เป็นผิวที่เหี่ยวง่ายและมีสถิติว่าเป็นมะเร็งผิวหนังมากที่สุดในโลก ตรงข้ามกับชาวแอฟริกันที่มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยมาก ยังไม่มียาหรือผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างถาวร เมื่อสารกระตุ้นให้ผิวขาวนั้นหมดฤทธิ์ ร่างกายก็จะผลิตเม็ดสีตามปกติ การที่ชาวเอเชียมีผิวคล้ำถือเป็นเรื่องดี เพราะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ โอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังจึงน้อยกว่า

ผิวขาว เด้ง เปล่งออร่า ราวอัดกลูต้าเป็นกะละมัง

ใคร ๆ ก็อยากมี ผิวขาว ด้วยกันทั้งนั้น หลายคนจึงมักจะไม่พอใจในความขาวของตัวเองสักที รู้สึกว่ายังคล้ำอยู่หมองอยู่ ตลอดเวลา แล้วก็คอยจะคิดหาวิธีทำยังไงให้ผิวขาวกว่านี้ ขาวออร่าทะลุจอแบบดาราต้องทำยังไง?
คุณจะขาวได้มากที่สุดเท่าสีผิวส่วนที่ไม่โดนแดด เช่น แก้มก้น หน้าท้อง ฯลฯ

โฆษณาผลิตภัณฑ์ลอก ผิวขาว เวิร์คไหม?

ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะใช้ปรอท ใช้กรดเรทิโนอิคในการทำให้ ผิวขาว ขึ้น นอกจากจะทำให้ผิวบางลงแล้ว ร่างกายยังสะสมสารปรอท ในระยะยาวจะดำง่ายขึ้นอีกด้วย รวมถึงเกิดอาการทางเดินปัสสาวะอักเสบและไตอักเสบ ถ้าได้รับสารปรอทเป็นเวลานานอาจเสียชีวิตได้ 

ผลิตภัณฑ์กลูตาไธโอนมีเยอะมาก ทั้งทา กิน ฉีด แบบไหนถึงจะขาวเร็ว?

แน่นอนว่าการฉีดเห็นผลกับร่างกายเร็วที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่าอันตรายมากที่สุดด้วยเช่นกัน ทางที่ดีไม่ควรเลือกแบบไหนเลย เพราะกลูตาไธโอนจะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี Eumelanin และมีหน้าที่สร้างแต่ Pheomelanin ผิวเลยขาวขึ้น แต่ขณะเดียวกันผิวก็ไวต่อแสงมากขึ้นมีโอกาสเกิดกระ ฝ้า จุดด่างดำและมะเร็งผิวหนังมากขึ้น ยังไม่มีงานวิจัยใด ๆ บนโลกนี้ที่รับรองได้ว่าการกิน ฉีด ทากลูตาไธโอนมีความปลอดภัย อะไรก็ตามที่ FDA ไม่ได้ให้การรับรอง ก็เชื่อได้ว่ายังไม่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพราะสหรัฐอเมริกามีความเข้มงวดมาก ส่วน อย.ของไทยและแพทย์สภาก็ยังไม่ยอมรับกลูตาไธโอนเช่นกัน แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ หนูทดลองที่ได้รับกลูตาไธโอนเป็นมะเร็งผิวหนัง จึงไม่ทดลองสารดังกล่าวกับมนุษย์ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการช็อก ความดันโลหิตต่ำ หายใจไม่ออก จนถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งการได้รับกลูตาไธโอนเป็นเวลานานจะส่งผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุในขบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกาย และตัวมันเองสามารถกลายเป็นอนุมูลอิสระมาทำร้ายร่างกายได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นจะทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อความสามารถในการมองเห็นในอนาคตอีกด้วย

วิธีทำให้ ผิวขาว อย่างได้ผล

1.ไม่ให้โดนแดด ทาครีมกันแดด หรือเก็บตัวไม่ให้โดนแดดนาน ๆ จนเมลานินชนิด Eumelanin กลายเป็น Pheomelanin
2.ใส่เสื้อผ้ามิดชิด อาจจะกางร่มหรือใส่หมวก เมื่อไม่โดนแสงแดด คุณก็ ผิวขาว ขึ้น
3.ขัดขี้ไคล ผิวจะขาวขึ้นตามธรรมชาติอย่างที่เราเป็น
4.ทายาผลัดขี้ไคล เช่น กรดวิตามินเอ วิตามินซี กรดผลไม้ กรดแล็กติก หรือครีมบำรุงผิว เพื่อให้ขี้ไคลหลุดเร็วขึ้นไม่แนะนำให้ทายายับยั้งกลไลการสร้างเม็ดสี เช่น อาร์บูติน ไฮโดรควิโนน ฯลฯ ที่มักใช้แก้ฝ้า แต่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อาจเกิดรอยแดง จุดด่างดำ อย.ไม่อนุญาตให้ขายยาประเภทนี้ ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น

อะไรก็ตามที่ช่วยให้ผลัดเซลล์ผิวหรือกำจัดขี้ไคลจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายและทำให้ดู ผิวขาว ใสปลอดภัยอย่างเป็นธรรมชาติ ควรใช้ในปริมาณ เวลา ความถี่ที่เหมาะสม แต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโครงสร้างเม็ดสีผิว ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมโดยแพทย์ เพราะไม่ปลอดภัย ผิวขาวขึ้นก็จริงแต่เกราะป้องกันผิวจะต่ำลง นำพาปัญหาผิวมาให้มากมายไม่รู้จบ 

ทำไงดี ผิวขาว จนผิวบาง?

ก่อนอื่นต้องเล่าถึง “ขี้ไคล” ก่อน ชั้นขี้ไคลจะอยู่บนผิวชั้นหนังกำพร้าหรือผิวชั้นนอกเกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วเนื่องจากไม่มีสารอาหารและเลือดไปเลี้ยงและจะหลุดลอกออกทุก ๆ 2 – 4 สัปดาห์เป็นเรื่องปกติ ขี้ไคลและน้ำมันเคลือบผิวจะทำหน้าที่ควบคู่กันเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวจากฝุ่นละออง เชื้อโรค สารเคมี ไม่ให้ซึมผ่านไปทำร้ายผิวชั้นที่ลึกลงไป ถ้าวันใดไม่มีชั้นขี้ไคลและน้ำมันเคลือบผิว ผิวของเราจะอ่อนแอและระคายเคืองง่ายสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ใช้ครีมผลัดเซลล์ผิวให้ดู ผิวขาว ขึ้น ขัดผิวบ่อย ฯลฯ จนเราอาจรู้สึกกว่าผิวบาง แสบเวลาโดนแดด แดงง่าย ใช้อะไรผื่นก็ขึ้น ซึ่งเกิดจากชั้นขี้ไคลที่บางลง

วิธีดูแลชั้นขี้ไคลที่ถูกทำให้บางลง

1.ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานชั้นขี้ไคลก็จะกลับมาใหม่ เพราะเป็นวัฏจักรตามปกติ
2.ทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น น้ำมันเคลือบผิวก็จะกลับมาเอง

แต่ถ้าผิวบางลงถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดอย่างล้มถลอก น้ำร้อนลวกคอลลาเจนน้อยเมื่ออายุมากขึ้น คุณหมอมีคำแนะนำดังนี้
1.รักษาแผลให้หายสนิท ทาครีมรักษารอยแผลเป็น เพื่อให้เนื้อเยื่อที่เสียไปสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่อย่างแข็งแรง
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยความร้อนจากเลเซอร์
3.กินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจนและอีลาสติน ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อปลา ขาไก่ กระดูกอ่อนและทางที่ดีควรกินอาหารที่มีวิตามินซีร่วมด้วย จะทำให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีขึ้น

ฝ้า กระ จุดด่างดำ

เกิดจากการที่เม็ดสีใต้ผิวหนังเฉพาะจุดสร้างตัวเองมากผิดปกติ ส่วนจะรักษาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เม็ดสีผิวสะสมตัวใต้ผิวหนัง

วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
1. ทาครีมกันแดดและไม่อยู่ใกล้ความร้อน ไม่มีสารกันแดดใดที่กันแดดได้ตลอดวันและบางครั้งพอโดนแดดมาก ๆ เข้า สารนั้นก็จะเสื่อมสภาพไป ภายหลังจึงมีผลิตภัณฑ์กันแดดบางยี่ห้อที่ใส่สารป้องกันความเสื่อมของสารกันแดดระหว่างวันลงไปด้วย จึงช่วยยืดอายุการป้องกันแสงแดดออกไปได้บ้าง

2. จิ้มด้วยกรด TCA สำหรับกระตื้น ๆ หรือถ้ามีหลุมสิวแต่ไม่ต้องการยิงเลเซอร์ราคาแพง แต่ต้องระวัง เนื่องจากกรดชนิดนี้อาจทำให้ผิวไหม้และเกิดแผลเป็นตามมาได้เช่นกัน

3. ทำเลเซอร์ เหมาะกับฝ้าหรือกระตื้น ๆ แต่หลังทำต้องหลบแดดอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์

4. ใช้เครื่องมือผลักยาไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ( ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งยา ) เพราะฝ้าลึกเกิดจากเมลานินที่อยู่ใต้ผิว การใช้ยาผลัดเซลล์ผิวด้านบนจึงไม่ช่วยอะไร แถมทำให้ผิวบาง โดนแดดเมื่อไรก็ทำให้ฝ้าและกระกลับมาได้ง่ายและเร็วขึ้น

เข่า ศอก ตาตุ่มดำด้าน

ปัจจุบันนี้เขาอาจจะฮิตอะไรที่เป็นสีดำด้านกัน เช่น รถ กระเป๋า แต่ถ้าเข่า ศอก ตาตุ่ม ดำและด้านนี่สิ จะทำยังไงดี ผิวบริเวณนี้ยิ่งแห้งง่ายอยู่ด้วย ยิ่งต้องบำรุงให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ใช้พวกครีมบำรุงผิวเพื่อความชุ่มชื้น เช่น ครีม Urea 20 % หาซื้อได้ตามร้านขายยา

1.ใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง เนื้อมะขามเปียกหรือเปลือกมะนาวมาพอกไว้ประมาณ 15 นาที ไม่ควรทิ้งไว้นานกว่านี้ เพราะอาจจะทำให้แสบหรือระคายเคืองได้แล้วค่อยล้างน้ำออกตามปกติ

2.สครับด้วยวาสลีนผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำผึ้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป หลังจากนั้นทาครีมบำรุงผิวตามปกติ

3.แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้รองพื้นที่มีสีเดียวกับสีผิว หรือจะใช้บีบีครีมหรือซีซีครีมทาตัวก็ได้

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

Stampfer, M., Hu, F., Manson, J., Rimm, E., Willett, W. (2000) Primary prevention of coronary heart disease in women through diet and lifestyle. The New England Journal of Medicine, 343 (1) , 16-23. Retrieved October 5, 2006, from ProQuest database.

Japsen, Bruce (15 June 2009). “AMA report questions science behind using hormones as anti-aging treatment”. The Chicago Tribune. Retrieved 17 July 2009