ปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก (Anchovy) หรือที่หลายคนอาจเคยได้ยินในชื่อ ปลาจิ้งจั้ง คือปลาขนาดเล็กที่มักถูกมองข้าม แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ปลากะตัก ประโยชน์ และ ปลาจิ้งจั้ง ประโยชน์ นั้นมีมากมายจนคุณอาจคาดไม่ถึง? หากมีคนถามว่า ปลาจิ้งจั้ง คือปลาอะไร หรือ ปลาจิ้งจั้ง คือ ปลาประเภทไหน คำตอบก็คือ ปลาชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งชื่อเรียกของปลากะตัก ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนคุณภาพสูง, กรดไขมันโอเมก้า-3, รวมถึงแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ปลากะตักจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครอบคลุม ตั้งแต่ช่วยบำรุงสุขภาพกระดูกและสมอง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากสารพิษต่าง ๆ เมื่อมองในภาพรวม ปลากะตักและปลาจิ้งจั้งจึงเป็นวัตถุดิบที่ไม่ควรพลาดในการเสริมสร้างสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายอย่างแท้จริง
ปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก ออกเสียงไม่เหมือนกันในแต่ละภาค บ้างก็เรียก ปลากะตะ ปลากระตัก คือ ปลาทะเลขนาดเล็กชนิดหนึ่ง มีขนาดตัวโตเต็มที่ประมาณ 6 นิ้ว เป็นปลาที่มีลักษณะรูปร่าง คล้ายคลึงกับปลาซาดีน แต่มีขนาดที่เล็กกว่า มีเกร็ดเป็นสีเงินส่องประกาย เป็นปลาที่อยู่ในสายพันธุ์เดียวกับปลาไส้ตัน ปลากะตักนี้สามารถพบได้ตามท้องทะเลทั่วโลก
ปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้งใช้ทำเป็นเมนูอะไรได้บ้าง?
ปลากะตัก เป็นปลาอีกหนึ่งชนิด ที่นำมาใช้ประกอบเป็นอาหาร นิยมนำมาหมักเค็มแล้วแช่ในน้ำมัน มีรสชาติออกเค็มและมีกลิ่นที่จัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปลาชนิดนี้ ปลาข้าวสาร คือชื่อเรียกลูกปลากะตักที่ยังไม่โตนั่นเอง ปลาข้างสาร มีประโยชน์มากมายสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น นำไปทานคู่กับสลัด ใช้ทำเป็นหน้าพิซซ่า ใช้ผัดกับสปาเก็ตตี้ และอื่นๆแล้วตามความชอบ ปลากะตักชนิดสดโดยมากชาวตะวันตกจะนิยมนำไปทำเป็นซุปทานกัน
กินปลากะตัก หรือ ปลาฉิ้งฉ้าง ( ปลาจิ้งจั้ง ) ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และยังช่วยลดระดับความดันในโลหิตได้
ประโยชน์ของปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 โปแทสเซียม ( Potassium ) และแคลเซียม ( Calcium ) ในปริมาณที่สูง การทานปลากะตัก ขนาด 3 ออนซ์ จะให้พลังงาน 10 แคลอรี แบ่งเป็น ไขมัน 4 กรัม โพแทสเซียมมากกว่า 300 มิลลิกรัม และแคลเซียม 125 มิลลิกรัม การทานปลากะตักในปริมาณที่เหมาะสม จะได้รับสรรพคุณที่ดี มีประโยชน์กับร่างกาย นอกจากปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้งแล้ว ปลาเล็กปลาน้อยก็มีประโยชน์ และให้แคลเซียมสูงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ปลากะตักยังสามารถนำไปดองน้ำปลาได้เหมือนกับปลาไส้ตัน
ข้อแนะนำในการทานปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง
1. ปลากะตักแบบกระป๋อง เรียกว่า ปลาแอนโชวี่กระป๋อง ควรเลือกซื้อชนิดที่อยู่ในน้ำมันปลา หรือในน้ำมันมะกอก มากว่าการเลือกชนิดที่อยู่ในน้ำมัน เนื่องจากชนิดที่อยู่ในน้ำมัน จะมีปริมาณของไขมัน คอเลสเตอรอล ( Cholesterol ) และโซเดียม ( Sodium ) ในระดับที่สูง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
2. การเลือกซื้อปลากะตักแบบสดมาปรุงอาหาร หากใช้ไม่หมด จะสามารถเก็บใส่ตู้เย็น เพื่อรักษาความสดของปลาไว้ได้ประมาณ 2 วัน แต่หากนานกว่านี้ ต้องนำไปแช่แข็งโดยหุ้มให้สนิทด้วยกระดาษห่อสำหรับช่องแช่แข็งโดยเฉพาะ เพื่อให้เนื้อปลายังคงความสดไว้ได้นาน
ปลากะตัก ถือว่าเป็นปลาทะเลที่มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ทั้งช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยลดระดับความดันโลหิต ผู้บริโภคควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และรู้จักเลือกประเภทให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกายอย่างสูงสุด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง
เอกสารอ้างอิง
“ทะเลไทย” โดย ภาคภูมิ วิธานติระวัฒน์ จากหนังสือ “ปลาหายไปไหน” และ รายงานการประมงในประเทศไทยโดย กรีนพีซ มิถุนายน พ.ศ. 2555.
สมโภชน์ อัคคะทวีวัฒน์, เกษตรและสหกรณ์,กระทรวง กรมประมง . ภาพปลาและสัตว์น้ำของไทย . พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา , 2535.
แอพเพิลเกต, ลิซ. 101 อาหารรักษาหัวใจ.–กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2547. 342 หน้า. 1. อาหารเพื่อสุขภาพ. 2.โภชนบำบัด. I.จงจิต อรรถยุกติ, ผู้แปล. II.ชื่อเรื่อง. 641.56311 ISBN 974-00-8692-6.
Nelson, Gareth (1998). Paxton, J.R.; Eschmeyer, W.N., eds. Encyclopedia of Fishes. San Diego: Academic Press. pp. 94–95. ISBN 0-12-547665-5.