ชะพลู
ชะพลู (Chaplu) เป็น พืชที่หาได้ง่าย มักจะนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารมากมายหลายเมนูโดยเฉพาะ “หมูย่างใบชะพลู” ซึ่งเป็นเมนูที่โด่งดังอย่างมาก อย่างไรก็ตามพืชสีเขียวบนโลกนี้มีมากมายจนนับไม่ถ้วน บางคนอาจจะรู้จักชื่อแต่ไม่รู้ว่าชะพลูมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านไหน ชะพลูถือเป็นพืชที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเป็นอย่างมากเพราะมีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนซ์สูง ทั้งนี้บุคคลทั่วไปก็จะได้รับคุณประโยชน์จากชะพลูมากมายเช่นกัน
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของชะพลู
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb. หรือ Piper lolot C.DC.
ชื่อสามัญ : Wildbetal leafbush
ชื่อท้องถิ่น : ภาคกลางเรียกว่า “ช้าพลู” ภาคใต้เรียกว่า “นมวา” ภาคเหนือเรียกว่า “ผักพลูนก พลูลิง ปูลิง ปูลิงนก ผักปูนา” ภาคอีสานเรียกว่า “ผักแค ผักอีเลิด ผักนางเลิด”
ชื่อวงศ์ : วงศ์พริกไทย (PIPERACEAE)
ลักษณะของชะพลู
ชะพลู เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน
ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกัน แผ่นใบบาง ที่ผิวใบเรียบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ
ดอก : ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอัดแน่นอยู่บนแกนช่อดอก
ผล : เป็นผลสดลักษณะกลม อัดแน่นอยู่บนแกน
การนำไปใช้ประโยชน์ของชะพลู
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร เป็นส่วนประกอบในเมนูต่าง ๆ เช่น หมูห่อใบชะพลู แกงคั่วไก่ใบชะพลู ยำตะไคร้ใบชะพลู เป็นต้น
2. เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร รากชะพลูเป็นส่วนผสมของตำรับสมุนไพรพิกัดยาตรีสาร
ประโยชน์ของใบชะพลู
1. สรรพคุณจากใบ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น ช่วยบำรุงและรักษาสายตาและช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืน และแก้โรคตาฟาง ยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยขับเสมหะบริเวณทรวงอกและลำคอ ช่วยในการขับถ่าย
2. สรรพคุณจากราก ช่วยบำรุงธาตุและแก้ธาตุพิการ (ระบบน้ำเหลืองหรือระบบโลหิตเสีย) ช่วยทำให้เสมหะงวดและแห้ง ขับเสมหะบริเวณทรวงอกและลำคอ ช่วยในการขับอุจจาระ
- แก้อาการบิด ด้วยการใช้รากประมาณครึ่งกำมือ ใช้ผลประมาณ 3 หยิบมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ 1 ถ้วยแก้ว แล้วนำมาดื่มครั้งละ 1/4 ของถ้วยแก้ว
- แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อและจุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการใช้รากประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ 3/4 ถ้วยแก้วแล้วรับประทานครั้งละ 1/4 ของถ้วยแก้ว
- ช่วยขับลมในลำไส้ ด้วยการใช้รากประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ 3/4 ถ้วยแก้วแล้วรับประทานครั้งละ 1/4 ของถ้วยแก้ว
สรรพคุณจากทั้งต้น - ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้ชะพลูสดทั้งต้นประมาณ 7 ต้น นำมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้ำพอท่วมแล้วต้มให้เดือดสักพักแล้วนำมาดื่มเป็นชา
- แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อและจุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการใช้รากประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ 3/4 ถ้วยแก้วแล้วรับประทานครั้งละ 1/4 ของถ้วยแก้ว
ชะพลู คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของใบชะพลู 100 กรัม ให้พลังงานแก่ร่างกาย 101 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหาร |
เส้นใยหรือไฟเบอร์ | 4.6 กรัม |
แคลเซียม | 601 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | 30 มิลลิกรัม |
เหล็ก | 7.6 มิลลิกรัม |
วิตามินเอ | 21255 iu |
วิตามินบี1 | 0.13 มิลลิกรัม |
วิตามินบี2 | 0.11 มิลลิกรัม |
วิตามินซี | 10 มิลลิกรัม |
ข้อควรระวัง
1. ไม่ควรรับประทานใบชะพลูเป็นเวลาติดต่อกันนาน ๆ เพราะแคลเซียมที่สูงมากในใบชะพลูจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมออกซาเลต (Oxalate) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนิ่วในไตได้ ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตไม่ควรรับประทานมากเกินควรเพราะจะไปสะสมที่ไตและทำให้ไตทำงานหนักขึ้น
2. แคลเซียมออกซาเลต (Oxalate) ทำให้เวียนศีรษะ
ชะพลู เป็นพืชที่นิยมรับประทานทั้งในอาหารเวียดนามและในอาหารไทย เป็นพืชที่มีลักษณะของใบเด่นเหมือนรูปหัวใจ ตัวใบมีธาตุแคลเซียมสูงมาก ถือเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแต่ก็เป็นโทษเช่นกัน หากรับประทานมากเกินควร สรรพคุณที่โดดเด่นของชะพลูเลยก็คือช่วยรักษาโรคเบาหวาน ขับลมและแก้อาหารท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็งและช่วยในการขับเสมหะ ใบชะพลูเหมาะอย่างมากที่จะนำมาประกอบอาหารทานในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักจะเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นโรคนิยมของคนไทยในปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม