ผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่ง (culantro) เป็น พืชที่อยู่ในวงศ์ผักชี เป็นผักที่มีการเพาะปลูกทั่วโลกและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ขึ้นชื่อว่าผักชีแล้วนั้นเป็นที่รู้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายแน่นอน ทั้งนี้ผักชีฝรั่งถือว่าเป็นที่รู้จักพอสมควรแต่ก็ไม่ใช่ผักยอดนิยมเหมือนผักชีปกติทั่วไป แต่กลับมีสรรพคุณมากมายและสามารถนำมาใช้เป็นยาได้ทั้งราก ใบ และลำต้น นับว่ามีประโยชน์หลากหลายโดยเฉพาะสรรพคุณในการแก้หวัด ผักชีฝรั่งจะมีรสชาติที่ติดซ่า ๆ เย็น ๆ ต่างจากผักชีลาวหรือผักชีทั่วไป
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของผักชีฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eryngium foetidum L.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญ 3 ชื่อ คือ “Culantro” “Long coriander” และ “Sawtooth coriander”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่เรียกว่า “ผักชีดอย ผักจีดอย ผักจีฝรั่ง หอมป้อมกุลา หอมป้อมกูลวา ห้อมป้อมเป้อ” จังหวัดแม่ฮ่องสอนเรียกว่า “มะและเด๊าะ” จังหวัดขอนแก่นและพิจิตรเรียกว่า “ผักชีใบเลื่อย” จังหวัดเลยและขอนแก่นเรียกว่า “ผักหอมเทศหรือผักหอมเป” จังหวัดชัยภูมิเรียกว่า “หอมป้อมหรือหอมเป” จังหวัดอุตรดิตถ์เรียกว่า “หอมน้อยฮ้อ” จังหวัดกำแพงเพชรเรียกว่า “หอมป้อมเปอะ”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ผักชี (APIACEAE)
ลักษณะของผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่ง เป็นไม้ล้มลุกเมืองร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและทวีปอเมริกาใต้ มีกลิ่นหอมทั้งต้นและใบ
ใบ : ใบออกรอบโคนต้น เป็นใบรูปหอกยาวรี โคนใบสอบลง มีลักษณะเด่นอยู่ที่ขอบใบจักรแบบฟันเลื่อยและที่ปลายจักรมีหนามอ่อน ๆ
ดอก : ดอกมีก้านชูสูง เป็นกระจุกกลมสีขาวอมเขียว ตรงโคนช่อดอกมีใบประดับรูปดาว
การนำไปใช้ประโยชน์ของผักชีฝรั่ง
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร นิยมนำใบมารับประทานเป็นผักสดหรือนำมาจิ้มกับน้ำพริก ลาบก้อย และยำต่าง ๆ ใช้เพิ่มรสชาติและดับกลิ่นคาวให้อาหาร
ประโยชน์ของผักชีฝรั่ง
- สรรพคุณจากใบ ต่อต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคมะเร็ง รักษาสมดุลในร่างกายด้วยการชงดื่มวันละ 3 ถ้วย มีฤทธิ์แก้ไข้หวัด ช่วยระบายท้องด้วยการนำใบไปต้มดื่ม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ รักษาแผลเรื้อรังและแก้บวมด้วยการใช้ใบมาตำแล้วพอก ทำให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น ช่วยทดแทนการเสียธาตุเหล็กสำหรับหญิงให้นมบุตร ดับกลิ่นปาก
- สรรพคุณจากลำต้น ลดระดับความดันโลหิต ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้อย่างเป็นปกติ บำรุงผิวพรรณ บำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง แก้ไข้มาลาเรียและเป็นยาถ่ายด้วยการต้มกับน้ำแล้วดื่ม ขับลมในกระเพาะอาหาร ฆ่าเชื้อโรค แก้พิษงูด้วยการนำมาตำแล้วพอก แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกายด้วยการตำผสมกับน้ำมันงาแล้วนำไปหมกไฟให้สุกแล้วค่อยมาประคบแก้อาการปวดเมื่อย
- สรรพคุณจากน้ำต้มจากราก ขับเหงื่อและกระตุ้นร่างกาย ช่วยแก้ไข้ ช่วยขับปัสสาวะ
- สรรพคุณจากทั้งต้น บรรเทาอาการปวดศีรษะ แก้อาการอาหารเป็นพิษ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ส่วนของน้ำต้มทั้งต้นช่วยบำรุงกำหนัดและเสริมสร้างความต้องการทางเพศ
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของผักชีฝรั่ง 100 กรัม ให้พลังงาน 32 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ |
โปรตีน | 24 กรัม |
ไขมัน | 0.4 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 4.6 กรัม |
แคลเซียม | 21 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | 22 มิลลิกรัม |
เหล็ก | 2.9 มิลลิกรัม |
วิตามินบี1 | 0.31 มิลลิกรัม |
วิตามินบี2 | 0.21 มิลลิกรัม |
วิตามินซี | 38 มิลลิกรัม |
ไนอาซิน | 0.7 มิลลิกรัม |
เบต้าแคโรทีน | 876.12 RE |
สารอาหารเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) เป็นสารที่ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระและเป็นสารที่สำคัญในการต้านเซลล์มะเร็ง
ข้อควรระวัง
1. ผักชีฝรั่งมีกรดออกซาลิกสูงมากซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดนิ่วในไต ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง ปวดเอว ปัสสาวะติดขัด เป็นต้น
2. สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักชีฝรั่งเพราะอาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้
ผักชีฝรั่ง มักจะอยู่ในส่วนประกอบของอาหาร เป็นผักที่มีกลิ่นหอมเหมาะสำหรับนำมาดับกลิ่นต่าง ๆ ได้ดี เป็นผักที่มีลักษณะใบโดดเด่น เมื่อเห็นเพียงครั้งแรกก็สามารถรู้ได้ว่าคือผักชีฝรั่ง สรรพคุณที่โดดเด่นของผักชีฝรั่งเลยก็คือ ป้องกันมะเร็ง ดับกลิ่นปาก ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์และแก้อาการปวดต่าง ๆ
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม