ฟักเขียว หรือฟักที่คนไทยนิยม ช่วยบำรุงร่างกาย ดีต่อระบบขับถ่ายและระบบเลือด
ฟักเขียว ผลกลมยาวรูปไข่ขอบขนานค่อนข้างยาว ผลอ่อนมีขน ผลแก่ผิวนอกมีนวลเป็นแป้งสีขาว เนื้อด้านในมีสีขาวปนเขียวอ่อนและฉ่ำน้ำ เนื้อแน่นหนา

ฟักเขียว

ฟักเขียว (Water melon) หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ฟัก” คนไทยนิยมนำมาใส่ในแกงจนกลายเป็นเมนู “แกงฟัก” อย่างที่ใครหลายคนรู้จักและชอบทาน เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าฟักเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถหาซื้อและรับประทานได้ง่าย นอกจากผลฟักแล้วส่วนประกอบอื่น ๆ ของต้นยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาไม่แพ้ผล นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายด้วย

รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของฟักเขียว

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Benincasa hispida (Thunb.) Cogn.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญว่า “Chinese Watermelon” “Wax gourd” “White gourd”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคกลางเรียกว่า “ฟัก ฟักขาว ฟักเขียว ฟักเหลือง ฟักจีน แฟง ฟักแฟง ฟักหอม ฟักขม” ภาคเหนือเรียกว่า “ฟักขี้หมู ฟักจิง มะฟักขม มะฟักหม่น มะฟักหม่นขม” ภาคอีสานเรียกว่า “บักฟัก” ภาคใต้เรียกว่า “ขี้พร้า” จังหวัดแม่ฮ่องสอนเรียกว่า “มะฟักหอม” ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า “ดีหมือ ลุ่เค้ส่า” ชาวกะเหรี่ยงเชียงใหม่เรียกว่า “หลู่ซะ” ชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอนเรียกว่า “หลู่สะ” ชาวกะเหรี่ยงแดงเรียกว่า “หลึกเส่” ชาวเมี่ยนเรียกว่า “สบแมง” คนเมืองล้านนาเรียกว่า “ฟักหม่น ผักข้าว” ประเทศจีนเรียกว่า “ตังกวย”
ชื่อวงศ์ : วงศ์แตง (CUCURBITACEAE)

ลักษณะของฟักเขียว

ฟักเขียว เป็นพืชล้มลุกจำพวกไม้เถาที่คาดว่ามีถิ่นกำเนิดระหว่างทวีปเอเชีย แอฟริกาและอเมริกา มีการเพาะปลูกกันมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้
ลำต้น : ลำต้นยาวสีเขียว มีขนหยาบขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งต้น เป็นพืชที่แตกกิ่งก้านสาขามาก
ใบ : ขอบใบหยักเป็นเหลี่ยมแบบซี่ฟัน แยกออกเป็น 5 – 11 แฉกคล้ายฝ่ามือ ปลายใบแหลม โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจกว้าง ๆ ใบออกเรียงสลับกันตามข้อต้น ผิวใบหยาบ มีขนปกคลุมทั้งสองด้าน ใบมีสีเขียวเข้ม
ดอก : ออกดอกตามง่าม เป็นดอกเดี่ยวสีเหลือง ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่ต้นเดียวกัน
ผล : ลักษณะของผลเป็นรูปกลมยาวหรือเป็นรูปไข่แกมขอบขนานหรือขอบขนานค่อนข้างยาว ผลอ่อนมีขน ผลแก่ผิวนอกมีนวลเป็นแป้งสีขาวเคลือบอยู่ เปลือกแข็งมีสีเขียว เนื้อด้านในมีสีขาวปนเขียวอ่อนและฉ่ำน้ำ เนื้อแน่นหนา เนื้อตรงกลางฟูหรือพรุนและมีเมล็ดสีขาวอยู่ภายในจำนวนมาก
เมล็ด : ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไข่ เมล็ดแบน มีผิวเรียบสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน

พันธุ์ของฟัก

1. ฟัก ฟักจะมีสีเขียวแก่
2. แฟงหรือฟักแฟง เป็นพันธุ์เล็กที่มีผิวสีเขียวอ่อน ๆ
3. ฟักหอม พันธุ์ที่มีผลค่อนข้างกลมสีเขียวแก่ ๆ
4. ฟักขม เป็นพันธุ์ที่มีรสขม

สรรพคุณของฟักเขียว

  • สรรพคุณจากผล ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ ช่วยลดขนาดของเซลล์ไขมัน รักษาโรคเบาหวาน ช่วยเพิ่มกำลัง แก้ธาตุพิการ รักษาโรคเส้นประสาท ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตสูงและช่วยรักษาอาการอักเสบ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ แก้โลหิตเป็นพิษ แก้อาการครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ ช่วยรักษาโรคปอด ช่วยรักษาโรคหอบหืด แก้อาการไอ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้อาการร้อนใน แก้อาการกระหายน้ำและช่วยให้คอชุ่มชื้น ช่วยแก้ท้องเสีย ช่วยแก้โรคบิด ช่วยแก้อาการอืดแน่นท้อง เป็นยาระบาย ช่วยขับปัสสาวะ แก้พิษจากเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา ช่วยแก้อาการบวมน้ำ ช่วยแก้อาการบวมและมีหนอง
    – รักษาอาการโรคชัก ด้วยการนำฟักเขียวปอกเปลือกออกแล้วเอาแต่เนื้อมาคั้นเอาน้ำสด ๆ เพื่อดื่มเป็นประจำ
    – รักษาอาการขัดเบา ด้วยการใช้ฟักเขียวไปตุ๋นกับปลาเพื่อใช้รับประทาน
  • สรรพคุณจากเมล็ด ช่วยเพิ่มกำลัง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตสูงและช่วยรักษาอาการอักเสบ ช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์ ช่วยสร้างหลอดเลือดชนิดที่ต้องการสร้างสารกระตุ้นการเจริญจากไฟโบรบลาสต์ซึ่งเป็นสารที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง รักษาวัณโรค ช่วยบำรุงปอด ช่วยลดไข้ แก้อาการไอ ช่วยละลายเสมหะ แก้อาการกระหายน้ำและช่วยให้คอชุ่มชื้น ช่วยรักษาลำไส้อักเสบ เป็นยาระบาย ช่วยขับพยาธิ ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยหล่อลื่นอวัยวะเมือก แก้ไตอักเสบ ช่วยแก้อาการบวมน้ำ ช่วยลดอาการอักเสบ
    – ช่วยรักษาแผลมีหนองตกสะเก็ด ด้วยการใช้เมล็ดที่ตากแห้งและล้างสะอาดแล้วประมาณ 9 – 30 กรัม มาบดเป็นผงหรือต้มกับน้ำแล้วใช้ทาหรือชะล้าง
  • สรรพคุณจากเปลือก รักษาโรคความดันโลหิตสูงและช่วยรักษาอาการอักเสบ ช่วยแก้ท้องเสีย แก้อาการอักเสบและมีหนอง
    – ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำบัดอาการบวมน้ำ ช่วยแก้อาการบวม ด้วยการนำเปลือกชั้นนอกของผลฟักไปตากแดดให้แห้งแล้วนำมาผสมรวมกับเยื่อหุ้มถั่วแระ ดอกต้นกก (เต็งซัมฮวย) น้ำตาลกรวด แล้วนำมาล้างรอให้สะเด็ดน้ำจนแห้ง จากนั้นใส่ในหม้อดินแล้วเติมน้ำพอประมาณ ทำการต้มด้วยไฟแรงประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วกรองเอาแต่น้ำมาแช่ในตู้เย็นเก็บไว้ดื่มเป็นยาแก้อาการ
  • สรรพคุณจากราก ช่วยแก้ไข้ แก้อาการกระหายน้ำและช่วยให้คอชุ่มชื้น ช่วยในการถอนพิษ
    – รักษาโรคหนองใน ด้วยการนำรากมาต้ม
  • สรรพคุณจากเถาสด ช่วยรักษาหากมีอาการไข้สูง ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร
  • สรรพคุณจากใบ ช่วยแก้อาการร้อนใน แก้อาการกระหายน้ำและช่วยให้คอชุ่มชื้น ช่วยแก้โรคบิด แก้อาการฟกช้ำ รักษาบาดแผล ช่วยแก้อาการบวม แก้อาการอักเสบและมีหนอง แก้พิษจากการถูกผึ้งต่อย
  • สรรพคุณจากไส้ในผล ช่วยแก้อาการร้อนใน แก้อาการกระหายน้ำและช่วยให้คอชุ่มชื้น ช่วยแก้อาการบวม แก้อาการอักเสบและมีหนอง
    – ลบเลือนรอยด่างดำบนในหน้า ด้วยการนำไส้ในผลสด 30 – 60 กรัม มาต้มหรือคั้นเอาแต่น้ำ
  • สรรพคุณจากผลและเปลือก
    – ช่วยลดน้ำหนักและไขมันในเส้นเลือด ด้วยการใช้เนื้อในผลฟักและเปลือกมาต้มเป็นชาดื่มแทนน้ำเป็นประจำ
  • สรรพคุณจากเถ้าเปลือก ใช้ใส่แผล

ประโยชน์ของฟัก

1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร นำผลมาทำเป็นอาหารคาวและหวานด้วยการนำมาต้ม ผัด แกงหรือทำเป็นขนมหวานในช่วงเทศกาล เช่น เมนูแกงฟัก ฟักเขียวผัดไข่ ฟักเชื่อม ฟักเขียวแช่อิ่มแห้ง ขนมฟักเขียว ขนมจันอับสำหรับไหว้ตรุษจีน เป็นต้น ยอดอ่อนนำมาลวกหรือต้มกับกะทิแล้วทานคู่กับน้ำพริก ใบอ่อนและตาดอกฟักเขียวนำไปนึ่งหรือใส่ในแกงจืดเพื่อเพิ่มรสชาติได้ เมล็ดนำมาทำให้สุกใช้รับประทานได้
2. ใช้ในอุตสาหกรรม ขี้ผึ้งที่หุ้มผลสามารถนำมาใช้ทำเทียนได้

วิธีการเลือกซื้อและเก็บรักษาฟักเขียว

  • การเลือกซื้อฟักเขียว ควรเลือกฟักที่มีเนื้อแข็ง ภายในฟักต้องมีขอบของเยื่อเป็นสีเขียวเข้มแล้วค่อย ๆ จางเป็นสีขาวจนถึงตรงกลาง
  • การเก็บรักษาฟักเขียว ใช้การแว็กซ์หรือใช้ขี้ผึ้งเคลือบผิวภายนอกทำให้เก็บรักษาได้เป็นเดือน ๆ ส่วนผลที่ผ่าแล้วเหลือใช้ให้นำส่วนที่เหลือมาทาปูนแดงที่กินกับหมาก โดยทาตรงรอยผ่าฟักชิ้นนั้นจะทำให้เก็บรักษาได้นานหลายวัน

คุณค่าทางโภชนาการของฟักเขียวสด

คุณค่าทางโภชนาการของฟักเขียวสด ต่อ 100 กรัม โดยคิดเป็น % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ ให้พลังงาน 13 กิโลแคลอรี

สารอาหาร ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ
คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม
เส้นใย 2.9 กรัม
ไขมัน 0.2 กรัม
โปรตีน 0.4 กรัม
วิตามินบี1 0.04 มิลลิกรัม (3%)
วิตามินบี2 0.011 มิลลิกรัม (9%)
วิตามินบี3 0.4 มิลลิกรัม (3%) 
วิตามินบี5 0.133 มิลลิกรัม (3%)
วิตามินบี6 0.035 มิลลิกรัม (3%)
วิตามินซี 13 มิลลิกรัม (16%)
แคลเซียม 19 มิลลิกรัม (2%)
เหล็ก 0.4 มิลลิกรัม (3%)
แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม (3%)
แมงกานีส 0.058 มิลลิกรัม (3%)
ฟอสฟอรัส 19 มิลลิกรัม (3%)
โซเดียม 111 มิลลิกรัม (7%) 
สังกะสี 0.61 มิลลิกรัม (6%)

ฟักเขียวเป็นพืชอายุสั้น มีฤทธิ์เป็นยาเย็นจึงเหมาะที่จะรับประทานในช่วงอากาศร้อน เถาสดของฟักเขียวมีรสขมเย็น ถือเป็นผักที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารมากกว่าใช้ในด้านอื่น ๆ มีสารอาหารมากมายและสามารถนำทุกส่วนของต้นมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้ มีสรรพคุณที่โดดเด่นหลากหลายทั้งดีต่อระบบขับถ่ายและระบบเลือด ช่วยแก้ไข้และแก้อาการร้อนใน แก้พิษและแก้อาการอักเสบ และยังช่วยเพิ่มกำลังให้ร่างกายอีกด้วย เป็นพืชที่มีสรรพคุณจนนับไม่ถ้วนและยังหาง่าย นำมาปรุงรสได้ง่ายอีกด้วย ฟักเขียวเป็นผักที่คู่ควรแก่การนำมารับประทานเป็นเมนูประจำอย่างยิ่ง

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม