โรคงูสวัด คือ
โรคงูสวัด ( Herpes Zoster ) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสสาริเซลลา ( varicella virus ) เป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งการสูดดมอากาศจาการหายใจ หรือการสัมผัสตุ่มน้ำใสโดยตรง เชื้อไวรัสสาริเซลลาสามารถแฝงตัวอยู่ได้เป็นเวลานานรอจนกว่าผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำลง หรือผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานานๆ โรคนี้ก็จะแสดงอาการออกมาหลังจากมีไข้ 2-3 วัน
อาการของโรคงูสวัด
-
- มีไข้ต่ำๆ
- อ่อนเพลีย
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- มีอาการปวดแสบรอนบริเวณผิวหนังประมาณ 2-3 วัน
- มีผื่นแดงขึ้นและกลายเป็นตุ่มนูนใส ( ผื่นมักเรียงกันเป็นกลุ่ม หรือเป็นแถวยาวตามแนวเส้นประสาท )
อาการแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
กลุ่มผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัด
-
- พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่
การรักษาโรคงูสวัด
-
- รักษาตามอาการ เชน รับประทานยาแกปวด เนื่องจากสามารถหายไดเอง
- ผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ แพทย์จะให้ยาต้านไวรัสเพื่อลดความรุนแรงของโรค
- ประคบแผลด้วยน้ำเกลือจะช่วยทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น
- บางคนที่ติดเชื้อแบคทีเรียแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง
การป้องกันโรคงูสวัด
-
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
- แยกข้าวของเครื่องใช้ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ที่นอน
- ควรแยกผู้ป่วยไม่ให้ใกล้ชิดกับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรค เช่น เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ เพราะเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้โดยการหายใจรดกัน
- หากมีอาการปากเปื่อย ลิ้นเปื่อยให้ใช้น้ำเกลือกลั้วปาก
- ตัดเล็บสั้น ไม่แกะเกา
- อาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม
- ไม่พ่นยาสมุนไพรหรือยาพื้นบ้านลงไปที่แผล เพราะอาจทำให้แผลเกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ แผลหายช้า และกลายเป็นแผลเป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
โรคงูสวัด (ออนไลน์). สืบค้นจาก : https://www.si.mahidol.ac.th [16 พฤษภาคม 2562].