มะม่วงหาวมะนาวโห่ ผลไม้รสเปรี้ยวฆ่ามะเร็งและเนื้องอก
มะม่วงหาวมะนาวโห่ หรือ หนามแดงจัดเป็นผลไม้พื้นเมืองคล้ายเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี และธาตุเหล็ก

มะม่วงหาวมะนาวโห่

มะม่วงหาวมะนาวโห่ ( Karanda ) คือ ผลไม้ของชาวอินเดีย ซึ่งพบได้ทั่วไปในพื้นที่แห้งแล้งของประเทศอินเดีย มีการเพาะปลูกเป็นผลไม้มักนำผลมะม่วงหาวมะนาวโห่มาแปรรูปในเมนูต่างๆ เช่น มะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่ม มะม่วงหาวมะนาวโห่ปั่น แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ น้ำผลไม้จากม่วงหาวมะนาวโห่ หรือไวน์ เป็นต้น

มะม่วงหาวมะนาวโห่ สรรพคุณ

มะม่วงหาวมะนาวโห่ คือ ผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยาอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี และธาตุเหล็ก ช่วยต้านอนุมูลอิสระและป้องกันรักษาภาวะโลหิตจางได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มะม่วงหาวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย โดยเฉพาะฟีนอลิก แอนโทไซยานิน ฟลาโวนอยด์ กรดไตรเตอพีนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ลดไข้
  • ต้านการอักเสบ
  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • ยับยั้งการเกิดมะเร็งและเนื้องอก
  • ยับยั้งการเกิดโรคเบาหวาน
  • บรรเทาอาการโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ต่อต้านไวรัส
  • ต่อต้านจุลินทรีย์
  • ใช้เป็นยาระบาย
  • รักษาอาการท้องร่วง ท้องเสีย
  • ใช้รักษาริดสีดวงทวาร
  • ขับไล่หนอนออกจากร่างกาย
  • ป้องกันรักษาเลือดคั่งในตับ
  • กระตุ้นความอยากอาหาร
  • ขับน้ำเหลืองเสีย
  • ใช้เป็นยาสมานแผล
  • รักษากรดไหลย้อน
  • สามารถรักษาโรคมาลาเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ รักษาแผลในปาก
  • ป้องกันหรือรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

แหล่งกำเนิดของมะม่วงหาวมะนาวโห่

พบในประเทศอินเดีย มาเลเซีย ศรีลังกา พม่า จีน อินโดนีเซีย และไทย มีชื่อสามัญ Bengal Currants, Carandas plum, Karanda ชื่อท้องถิ่น มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ หนามแดง ( ภาคกลาง ) หนามขี้แฮด ( เชียงใหม่ ) มะนาวโห่ ( ภาคใต้ ) มะม่วงหาว มะนาวโห่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas L. นิยมนำมารับประทานกันอย่างแพร่หลายทั้งกินดิบ และนำมาแปรรูป

ชื่อพื้นเมืองในภาษาอื่นของมะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือ คารานด้า

มะม่วงหาว ชื่อภาษาอังกฤษ Karanda ( คารานด้า )
อังกฤษ : Benga l- currants, Carandas – plum, Karanda, Christ thorn, Christ’s thorn, Jasmine flowered carrisa, Karaunda, Karanda, black currants
อินเดีย: Korjatenga, Korja tenga, Karenja, karja tenga
เบงกาลี : Koromcha
จีน : Cu Huang Guo ( 刺黄果 )
เยอรมัน : Karandang, Karanda Wachsbaum
อินเดีย : karaunda ( करौदा ) garinga, gotho, karonda
อินโดนีเซีย : Karandan, Karendang
มาเลย์ : karaunda, keranda
เนปาล : Karodha
ปากีสถาน : Gerna, Karanda, Kakranda
โปรตุเกส : Carandeira
สเปน : Caranda

คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงหาวมะนาวโห่

มะม่วงหาว ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 75 แคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม
โปรตีน 0.5 กรัม
วิตามินเอ 40 IU
น้ำตาล 14 กรัม
วิตามินซี 38 มิลลิกรัม
ไรโบฟลาวิน 1.0 มิลลิกรัม
ไนอาซิน 2.0 มิลลิกรัม
เหล็ก 1.3 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 16 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม
ทองแดง 2.0 มิลลิกรัม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ ม่วงหาว มะนาวโห่

มะม่วงหาวมะนาวโห่หรือหนามแดงผลไม้พื้นเมืองมีลักษณะคล้ายเบอร์รี่เป็นผลไม้ทรงพุ่มมีความสูงประมาณ 3-5 เมตร แหล่งกำเนิดแถบเทือกเขาหิมาลัยที่ระดับความสูง 300 ถึง 1800 เมตร

ลำต้น : ม่วงหาว มะนาวโห่เป็นไม้พุ่งทรงกลมลำต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร แตกกิ่งจำนวนมากทุก
ส่วนมียางสีขาวเหมือนน้ำนม ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว 2-5 เซนติเมตร ปลายหนามมีสีแดง
ใบ : ใบเดี่ยวเป็นไม้พุ่มผลัดใบ เรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ ปลายใบมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อยของต้นหนามแดง ใบมีก้านใบสั้นสีเขียวสดเรียงตรงข้ามรูปไข่หรือรูปไข่ยาว 4 ถึง 7.5 เซนติเมตรกว้าง 2.5 ถึง 4 เซนติเมตร สีเขียวเข้มผิวมันวาวที่ผิวด้านบนสีเขียวเข้ม และผิวใบด้านล่างสีเขียวออกขาว
ดอก : เป็นดอกขนาดเล็กออกเป็นช่อสั้นๆ ที่ปลายกิ่งมีขน ลักษณะดอกเป็นท่อยาวโคนกลีบเชื่อม
ติดกันสีชมพูแกมแดง กลีบดอกสีขาวมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ หอมตลอดวัน ออก
ดอกทั้งปี
ผล : มะม่วงหาวเป็นผลเดี่ยวออกรวมกันเป็นช่อ ผลรูปกลมรีหรือรูปไข่ ผลอ่อนที่ยังไม่สุกมีรสเปรี้ยว ผลมีสีขาวอมชมพูเนื้อข้างในสีขาว ผลดิบมีน้ำยางสีขาวเหนียวๆจำนวนมาก เรียกว่า “มะนาวโห่” หลังจากนั้นผลจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงเข้มขึ้น เรียกว่า “ มะม่วงหาว ” รสชาติของผลสุกจะออกหวาน เมล็ดมี 1 เมล็ด ติดอยู่ที่ส่วนปลายรูปไต ยาว 2.5-3 เซนติเมตร สีน้ำตาลอมเทา มีเปลือกแข็งหุ้ม
หนาม : ม่วงหาว มะนาวโห่มีหนามแหลมสีแดงจำนวนมาก หรือที่รู้จักต้นหนามแดงนั้นเอง
เมล็ดพันธุ์ : เมล็ดมีขนาดเล็กแบบทรงหยดน้ำสีน้ำตาลในหนึ่งผลจะมีประมาณ 5 – 10 เมล็ด ให้ผลผลผลิตช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่งเจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อนพบได้ทั่วไปในที่ราบและป่าละเมาะริมฝั่งแม่น้ำ ชอบดินที่ลึกอุดสมบูรณ์และมีการระบายน้ำได้ดี แต่ถ้าดินแฉะเกินไปจะมีการเจริญเติบโตของพืชมากเกินไปและให้ผลผลิตน้อยลง

ประโยชน์ของ มะม่วงหาว มะนาวโห่

  • ช่วยยับยั้งการเติบโตของโรคมะเร็งและเซลล์เนื้องอก
  • ช่วยลดความตื่นเต้นและลดความวิตกกังวล
  • ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
  • ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอล
  • ช่วยปกป้องหัวใจโดยทำให้การไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ
  • ช่วยลดอาการเลือดออกภายในร่างกาย
  • ช่วยป้องกันโรคตับและโรคไต
  • เป็นยาแก้พิษของยาบางชนิด
  • ช่วยลดความเมื่อยล้า
  • ช่วยให้เจริญอาหาร
  • ช่วยลดน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน
  • ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบ
  • ช่วยในการบรรเทาอาการปวดศีรษะโรคไมเกรน
  • ช่วยรักษาหูด
  • ช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย
  • วิตามินเอมีประโยชน์ต่อดวงตา
  • ช่วยบำรุงกำลัง
  • ช่วยป้องกันโรคเครียด
  • ช่วยขับพยาธิ
  • ช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ
  • ช่วยให้ผิวดีและช่วยป้องกันโรค
  • วิตามินซีที่อยู่ในมะม่วงหาวมะนาวโห่ช่วยปกป้องฟันและเหงือก
  • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • ช่วยยับยั้งการก่อตัวของสารพิษในร่างกาย
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอย
  • ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร กระชับกระเพาะอาหาร
  • ช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้
  • ช่วยบรรเทาอาการคันตามผิวหนัง กลากเกลื้อน
  • ช่วยรักษาแผลจากโรคเบาหวาน
  • ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่นขึ้น
  • ช่วยรักษาตาปลา
  • ช่วยรักษาแผลเนื้องอก
  • ช่วยรักษาโรคเท้าช้าง
  • ช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากเลือด
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  • ช่วยให้ร่างกายกระปรีกระเปร่า และทำให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น
  • ช่วยป้องกันพิษที่เกิดจากการใช้ยาพาราเซตามอล
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
  • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันผมร่วง
  • ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน

องค์ประกอบทางเคมีมะม่วงหาว มะนาวโห่

จากการศึกษาพบว่าในมะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือหนามแดง มีสารสำคัญประกอบด้วยฟีนอลิก แอนโทไซยานิน ฟลาโวนอยด์ กรดไตรเตอพีนอยด์ และวิตามินซี เนื่องจากเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง และมะนาวโห่ยังอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน เป็นสารสีม่วงแดงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าวิตามินซีหลายพันเท่า และที่สำคัญยังพบว่าในเนื้อมะม่วงหาวมะนาวโห่ยังมีสารในกลุ่มของ amorphous water – soluble polyglycoside ที่มีฤทธิ์ในการบำรุงหัวใจ ป้องกันตับอักเสบ และช่วยลดความดันโลหิตได้

การขยายพันธุ์มะม่วงหาวมะนาวโห่

โดยปกติการขยายพันธุ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1)ใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์ 2)การตอนกิ่งเมื่อต้นกล้าใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี จะเริ่มติดดอกออกผลแต่ยังไม่มาก

ข้อควรระวัง และ ผลข้างเคียงจากการใช้มะม่วงหาว มะนาวโห

  • ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงจากการใช้มะม่วงหาว มะนาวโห่สำหรับคนปกติ
    ข้อควรระวังหากกินมะม่วงหาว มะนาวโห่ผลดิบมากเกินไป เนื่องจากมีรสเปรี้ยวทำให้เกิดความเป็นกรดในกระเพาะรู้สึกแสบร้อน และอาจมีเลือดออกผิดปกติในกระเพาะได้
  • มะม่วงหาวมะนาวโห่คนท้องกินได้ไหม ข้อควรระวังผลข้างเคียงสำหรับคนท้องหรือมีอาการแพ้ท้อง ไม่ควรกินมะม่วงหาวมะนาวโห่ เพราะมีคุณสมบัติช่วยขับเลือดอาจทำให้เสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้

อย่างไรก็ตามแม้มะม่วงหาวมะนาวโห่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรมากมาย ส่วนที่ใช้คือทั้งต้นหนามแดง ใบสด ราก ผล แก่น เนื้อไม้ เมล็ด เปลือก ยอดอ่อน น้ำมันหอมระเหย และน้ำยาง มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรใช้รักษาโรคต่าง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม