- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ( Endometrial Cancer ) สาเหตุ อาการ และการรักษา
- เชื้อพยาธิเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้จริงหรือ ?
- อาหารเสริม ทางการแพทย์ที่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อหัวใจ
- การฉายรังสีรักษามะเร็งมีผลข้างเคียงต่อการมองเห็นอย่างไร
- การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
- ผลกระทบจากการฉายรังสีรักษามะเร็งต่อระบบไหลเวียนโลหิต
- โครงสร้าง และ ส่วนประกอบของเต้านม
- การตรวจหามะเร็ง มีวิธีการตรวจอะไรบ้าง
- การพบแพทย์เพื่อประเมินผล และติดตามผลผู้ป่วยมะเร็ง
- มะเร็งดวงตา กับการรักษาด้วยการฉายรังสี มีผลกระทบอะไรบ้าง
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อกระดูก
- ผลข้างเคียงจากการฉายแสงรักษามะเร็งศีรษะ และ มะเร็งลำคอ
- ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งในเด็ก
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีที่มีต่อไขกระดูก
- ผลข้างเคียงของการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสี
- วิธีตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งและประเมินระยะของโรค
- ผลข้างเคียงจากการรักษาร่วมระหว่างการฉายรังสีและยาเคมีบำบัด
- มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากกรดไหลย้อนเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ( Lymphoma )
- ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือ คีโม
- ฉายแสงรักษามะเร็ง มีผลข้างเคียงอย่างไร
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ( Urinary Bladder Cancer )
- มะเร็งที่พบบ่อยทั้งในผู้หญิงและผู้ชายในประเทศไทย
- การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
- มะเร็งองคชาต ( Penile Cancer ) สาเหตุ อาการ และการรักษา
- มะเร็ง โรคที่คนไทยเป็นเยอะสุด
- มะเร็งหลอดอาหาร ( Esophageal Cancer ) มีสาเหตุและอาการของโรคอย่างไร
- มะเร็งตับอ่อน ( Pancreatic Cancer )
- มะเร็งไต ( Kidney Cancer ) อาการ สาเหตุ และการรักษา
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว ( Leukemia )
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ ( Colorectal Cancer )
- มะเร็งทวารหนัก ( Anal Cancer ) สาเหตุ อาการ และการรักษา
- มะเร็งอัณฑะ ( Testicular Cancer )
- มะเร็งรังไข่ อาการ สาเหตุ และการรักษา ( Ovarian Cancer )
- มะเร็งปากมดลูก ( Cervical Cancer ) สาเหตุ อาการ และการรักษา
- ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก
- กระบวนการรักษาโรคมะเร็งที่อยู่ในระหว่างการศึกษา
- เนื้องอกในสมอง มะเร็งสมอง ( Brain Cancer )
- มะเร็งตับ ( Liver Cancer )
- มะเร็งต่อมลูกหมาก ( Prostate Cancer )
- มะเร็งซาร์โคมามดลูก ( Sarcoma ) สาเหตุ อาการเบื้องต้นและวิธีการรักษา
- มะเร็งกรวยไต และ มะเร็งท่อไต
- มะเร็งปอด ( Lung Cancer ) สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา
- มะเร็งระยะสุดท้ายรักษาหายได้ไหม มีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน
- มะเร็งในเด็ก ( Pediatric Cancer )
- มะเร็งถุงน้ำดี ( Gallbladder Cancer )
- มะเร็งท่อน้ำดี ( Cholangiocarcinoma หรือ CCA )
- มะเร็งย้อนกลับเป็นซ้ำและโรคมะเร็งชนิดที่ 2
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ ( Thyroid Cancer )
- มะเร็งต่อมน้ำลาย ( Salivary Gland Cancer )
- มะเร็งช่องปาก โรคร้ายที่เกิดขึ้นภายในระบบศีรษะและลำคอ
- มะเร็งผิวหนัง ( Skin Cancer )
- มะเร็งโพรงไซนัส และ มะเร็งโพรงจมูก
- มะเร็งหลังโพรงจมูก สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา
- ถาม – ตอบ ปัญหาเกี่ยวกับมะเร็ง
- สารตรวจค่าเลือดเฟอร์ริติน ( Ferritin )
- การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง
- การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้ สัญญาณมะเร็ง
- สาเหตุของมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม และพันธุกรรม
- อาการมะเร็ง เบื้องต้น ฉบับล่าสุด 2020
- อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
- อาหารต้านมะเร็ง เลือกกินอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง
- มะเร็งเกิดจากอะไร ? ( Causes of Cancer )
- การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ( Cancer Care )
- การตรวจ และรักษามะเร็ง
- ถาม – ตอบ ปัญหาโรคมะเร็ง
- ระยะของมะเร็ง ( Stage of Cancer )
- จะรู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็ง?
- ชนิดของมะเร็งที่พบบ่อย
- มะเร็งเต้านม ( Breast Cancer ) มะเร็งอันดับ 1 ผู้หญิง
- อาหารเพิ่มเลือด สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับคีโม
- อัลตร้าซาวด์ตรวจหามะเร็ง
- การอ่านค่าผลตรวจสุขภาพ
- การตรวจหาสารมะเร็ง – Tumor Marker
- มะเร็ง ( cancer ) โรคที่ทุกคนต้องรู้
- โรคมะเร็ง โรคร้ายที่ใครๆก็เป็นได้
- สัญญาณมะเร็ง การตรวจวินิจฉัยมะเร็ง
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ( Endometrial Cancer ) คือ โรคมะเร็งที่เกิดกับเยื่อบุโพรงมดลูก โดยชนิดที่พบได้มากที่สุดก็คือชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา ซึ่งมีความรุนแรงในระดับปานกลาง ส่วนอาการของมะเร็งชนิดนี้ ยังไม่มีอาการที่บ่งชี้เฉพาะได้ แต่สามารถสังเกตได้จากอาการที่มักจะพบได้บ่อยๆ โดยมีความคล้ายคลึงกับการมีประจำเดือนผิดปกติ และมะเร็งปากมดลูกนั่นเอง
เยื่อบุโพรงมดลูก หรือเยื่อบุมดลูก ( Endometrium ) คือ เยื่อเมือกบุภายในโพรงของมดลูก ซึ่งในคนปกติเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาประมาณ 5-6.7 มิลลิเมตร เป็นผนังด้านในสุดของมดลูก ซึ่งในแต่ละรอบประจำเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกจะได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่ให้เจริญเติบโตหนาตัวขึ้น เพื่อช่วยปกป้องให้ทารกเจริญเติบโตอยู่ในครรภ์มารดาอย่างปลอดภัย แต่ถ้าไม่มีการฝังตัวของไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกออก เกิดเป็นประจำเดือน แต่ถ้ามีการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญกลายเป็นรก ซึ่งเป็นทางผ่านของออกซิเจน และอาหารจากเลือดของแม่สู่ทารก โดยเยื่อบุโพรงมดลูกจะเป็นเนื้อเยื่อที่มีการสร้างขึ้นใหม่และสลายไปอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือในทุกเดือนร่างกายจะมีการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นมา หากไม่มีประจำเดือน ก็จะสลายออกมาเป็นประจำเดือน และมีการสร้างใหม่เพื่อทดแทน
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งเติบโตจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน ดังนั้นเมื่อฮอร์โมนเหล่านี้มีมากผิดปกติก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชด้วยซึ่ง ได้แก่
1. ฮอร์โมนวัยทอง ฮอร์โมนวัยทองมีหลายชนิดและหลายส่วนประกอบ บางชนิดสามารถกระตุ้นมะเร็งได้มาก
2. สมุนไพร สมุนไพรกบางชนิดมีเอสโตรเจนปริมาณสูง เช่น กวาวเครือ และอีกหลายชนิดมีเอสโตรเจนแฝงอยู่โดยไม่รู้ อาจทำให้เลือดระดูออกผิดปกติหรือเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
3. ความอ้วนในชั้นไขมันของคนเราเป็นที่สะสมของเอสโตรเจน ดังนั้นยิ่งอ้วนมากยิ่งมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากขึ้น
4. ยารักษามะเร็งเต้านม ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมหลังผ่าตัด บางรายแพทย์แนะนำให้รับประทานยาป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ( ทามอกซิเฟน ) ซึ่งยานี้มีลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติได้ จึงสมควรได้รับการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด
5. ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เมื่อเป็นมากๆ อาจมีสิว ผิวมัน ขนดกร่วมด้วยกลุ่มนี้มีเอสโตรเจนสูงเช่นกัน
6. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้
7. ประวัติพันธุกรรม ญาติสายตรง เป็นมะเร็งสำไส้ใหญ่
8. ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน อาจส่งผลต่อการป่วยมะเร็งได้เช่นกัน
9. ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน เพราะโรคอ้วนมีผลต่อฮอร์โมน ทำให้การทำงานของมดลูกผิดปกติและอาจกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้
10. ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน รวมถึงผู้ที่มีประจำเดือนเร็วตั้งแต่อายุยังน้อย และผู้ที่หมดประจำเดือนช้าเกินจากอายุ 55 ปีขึ้นไป
อาการของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
1. เลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน
2. ตกขาวผิดปกติและมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ คล้ายกับโรคมะเร็งปากมดลูก
3. ประจำเดือนมาผิดปกติ ในคนที่ยังไม่พ้นวัยหมดประจำเดือน เช่น ประจำเดือนมามาก มาน้อย หรือมาครั้งละหลายวันนานกว่าปกติ
4. คลำเจอมดลูกโตบริเวณเหนือหัวหน่าวในอุ้งเชิงกรานหรือบริเวณช่องท้องน้อย
5. ปัสสาวะมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยเกินไป และมีอาการแสบขัด
6. อุจจาระมีอาการผิดปกติ เช่น ท้องผูกบ่อยๆ และมักจะปวดเบ่งเวลาอุจจาระ
7. มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ระยะของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
สำหรับการวินิจฉัยโรคหรือระยะของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกแพทย์จะทำการสอบถามประวัติอาการของผู้ป่วย ตรวจร่างกาย และทำการขูดมดลูกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และทราบด้วยว่ากำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะไหน โดยมี 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 เป็นระยะที่มะเร็งยังคงลุกลามอยู่ภายในตัวมดลูกเท่านั้น โดยหากพบในระยะนี้จะสามารถรักษาให้หายได้ง่าย
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่มะเร็งเริ่มลุกลามเข้าสู่ปากมดลูก
ระยะที่ 3 เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปมาก โดยส่วนใหญ่จะลุกลามเข้าสู่รังไข่ ช่องคลอด เยื่อหุ้มมดลูกและเนื้อเยื่อรอบมดลูกบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือท้องน้อย
ระยะที่ 4 เป็นระยะที่อันตรายที่สุด โดยมะเร็งได้ลุกลามเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะและทวารหนัก รวมถึงอวัยวะที่อยู่ไกลออกไป ด้วยการแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดและน้ำเหลือง โดยเฉพาะปอด
การรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
การรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกนิยมใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อประเมินการลุกลามของโรคและพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยอาจรักษาด้วยการใช้รังสีรักษาหรือการทำเคมีบำบัดร่วมกัน รวมถึงการให้ฮอร์โมน ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับระยะ ความรุนแรงของโรคและสุขภาพของผู้ป่วยเองด้วย ส่วนอีกวิธีหนึ่ง การให้ยารักษาตรงเป้ายังคงอยู่ในระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมโดยยังไม่แน่ชัดว่าจะมีประสิทธิภาพในการรักษามากแค่ไหน
การป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ปรึกษาแพทย์เมื่อมีความผิดปกติหลังวัยหมดประจำเดือน
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมน้ำหนัก
- ทานยาคุมกำเนิดอาจลดความเสี่ยงมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (ยาคุมกำเนิดมีผลข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม)
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ จึงต้องอาศัยการสังเกตความผิดปกติซึ่งโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมักมีอาการเตือนแต่แรกเริ่ม โดยจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน หรือประจำเดือนมาผิดปกติ ซึ่งการพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการผิดปกติจะช่วยให้รักษาได้ทันแต่เนิ่นๆ โดยผ่าตัดและทำให้มีโอกาสรักษาหายได้สูง
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[poll id=”20383″]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
Herzog T, Abu Shahin F (August 2014). “Endometrial cancer: A review and current management strategies: Part I”. Gynecologic Oncology. 134 (2): 385–392. PMID 24905773.
Reinbolt, “The Role of PARP Inhibitors in the Treatment of Gynecologic Malignancies”. Frontiers in Oncology. 3: 237.
Staley, H; McCallum, I; Bruce, J (17 October 2012). “Postoperative tamoxifen for ductal carcinoma in situ.”. The Cochrane database of systematic reviews.