ทับทิม
ทับทิม มีต้นกำเนิดที่ประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ชอบอากาศหนาว ถ้าหนาวมาก เนื้อมีสีแดงเข้มขึ้น เป็นผลไม้มงคลของคนจีน เพราะมีเมล็ดมาก สื่อถึงการมีลูกชายมาก กิ่งใบสามารถนำมาใช้ในพิธีการที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือใช้พรมน้ำมนต์ เชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายได้ และเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ ประโยชน์และสรรพคุณของมีมาก มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำมีวิตามินซีสูงและเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ และมีสรรพคุณที่เป็นยารักษาโรคได้ เช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ลดสภาวะการแข็งตัวของเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด ชื่อสามัญ Pomegranate ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. ชื่อท้องถิ่น เซี๊ยะลิ้ว, พิลา, พิลาขาว, มะก่องแก้ว, มะเก๊าะ, หมากจัง อยู่ในวงศ์ตะแบก
ประโยชน์ของทับทิม
- ช่วยต่อต้านการเกิดของโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด จะช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น อย่างเช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้
- ลดปัญหาผมร่วง โดยนำยาพอกที่ได้จากใบใช้พอกหนังศีรษะ
- ดอกช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบได้
- เปลือกต้นกับเปลือกรากสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดกับพยาธิตัวกลมได้ โดยนำเปลือกของรากกับต้นที่ยังสดประมาณครึ่งกำมือ และเติมกานพลูไปนิดหน่อยเพื่อแต่งรส มาต้มน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง ใช้ทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงให้ทานยาถ่าย เช่น ดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะไปอีกครั้งหนึ่ง
- เปลือกต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้ ลดการอักเสบ
- ช่วยในการบำรุงและช่วยต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- แก้อาการระดูขาว และตกเลือดได้
- สามารถลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูงได้
- ส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
- ส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันการเกิดของโรคกระดูกพรุน
- สามารถป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้
- น้ำที่ได้จากการต้มเปลือกบรรเทาอาการเจ็บคอได้
- สามารถช่วยบำบัดอาการของโรคเบาหวานได้
- สามารถช่วยปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือนได้
- ใบนำมาใช้ในการประกอบพิธีต่างที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
- สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้
- สามารถระงับกลิ่นปากได้
- น้ำมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง โดยนำน้ำประมาณ 1 ช้อนชา ทาบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- สามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
- ชาวอินเดียนำน้ำที่คั้นจากผลกับดอกมาใช้ปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
- นำใบมาใช้อมกลั้วคอหรือนำมาใช้ทำเป็นยาล้างตาได้
- สามารถใช้ดอกห้ามเลือดได้ โดยนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียด ใช้ทาหรือโรยใส่ที่บาดแผล
- เปลือกต้มช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ จะช่วยลดจำนวนในการขับถ่ายและช่วยทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานมากขึ้น
- เปลือกของผลสามารถรักษาแผลหิด และกลากเกลื้อนได้
- เปลือกช่วยรักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เนื่องจากมีสารในกลุ่มแทนนินปริมาณมาก
- สามารถบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรงได้
- มีฤทธิ์ที่ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้
- ช่วยฟอกไตกับท่อปัสสาวะ
- สามารถช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
- บำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
- สามารถบรรเทาอาการของโรคหัวใจได้ โดยจะช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดีขึ้น
- สามารถบำรุงสายตา และช่วยแก้อาการตาอักเสบได้
- สามารถป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุได้
- สามารถบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงที่ตั้งครรภ์ได้
- มีวิตามินซีสูง และมีวิตามินเอ วิตามินอี กรดโฟลิก
- สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และบรรเทาอาการหวัดได้
- น้ำช่วยเพิ่มความสดชื่น และแก้กระหาย คลายร้อนได้
- สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และช่วยชะลอวัยได้
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการ 100 กรัม ของเนื้อทับทิมให้พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารที่ได้รับ |
วิตามินบี 1 | 0.067 มิลลิกรัม 6% |
วิตามินบี 2 | 0.053 มิลลิกรัม 4% |
วิตามินบี 3 | 0.293 มิลลิกรัม 2% |
วิตามินบี 5 | 0.377 มิลลิกรัม 8% |
วิตามินบี 6 | 0.075 มิลลิกรัม 6% |
วิตามินบี 9 | 38 ไมโครกรัม 10% |
วิตามินซี | 10.2 มิลลิกรัม 12% |
วิตามินอี | 0.6 มิลลิกรัม 4% |
วิตามินเค | 16.4 ไมโครกรัม 4% |
คาร์โบไฮเดรต | 18.7 กรัม |
เส้นใย | 4 กรัม |
โปรตีน | 1.67 กรัม |
น้ำตาล | 13.67 กรัม |
ไขมัน | 1.17 กรัม |
โคลีน | 7.6 มิลลิกรัม 2% |
ธาตุเหล็ก | 0.3 มิลลิกรัม 2% |
ธาตุแมงกานีส | 0.119 มิลลิกรัม 6% |
ธาตุโพแทสเซียม | 236 มิลลิกรัม 5% |
ธาตุสังกะสี | 0.35 มิลลิกรัม 4% |
ธาตุแคลเซียม | 10 มิลลิกรัม 1% |
ธาตุแมกนีเซียม | 12 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุฟอสฟอรัส | 36 มิลลิกรัม 5% |
ธาตุโซเดียม | 3 มิลลิกรัม 0% |
ข้อมูลจาก USDA Nutrient database
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
แหล่งอ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล
อ้างอิงรูปจาก
1.https://www.gardenersworld.com/how-to/grow-plants/how-to-grow-pomegranate-tree/