โกฐสอ ช่วยแก้หลอดลมอักเสบ

0
1311
โกฐสอ
โกฐสอ ช่วยแก้หลอดลมอักเสบ เป็นไม้ล้มลุกสีม่วง ดอกสีขาวมีขนสั้น ใบเป็นรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม รากกลมยาวคล้ายหัวผักกาด สีน้ำตาลมีความแข็ง มีกลิ่นหอมฉุน นิยมใช้รากทำยา
โกฐสอ
เป็นไม้ล้มลุกสีม่วง ดอกสีขาวมีขนสั้น ใบเป็นรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม รากกลมยาวคล้ายหัวผักกาด สีน้ำตาลมีความแข็ง มีกลิ่นหอมฉุน นิยมใช้รากทำยา

โกฐสอ

ต้นโกฐสอ รากใช้เป็นยา ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ชอบอากาศอบอุ่น มักพบขึ้นตามภูเขาสูงและชื้น ชอบดินร่วนซุยหนาและลึก มีความอุดมสมบูรณ์ มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศรัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น และจีนชื่อสามัญ Dahurian angelica[5] ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Angelica dahurica (Hoffm.) Benth. & Hook.f. ex Franch. & Sav. อยู่ในวงศ์ผักชี(APIACEAE)[1] ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ไป๋จื่อ (จีนกลาง), แป๊ะลี้ แปะจี้(จีนแต้จิ๋ว)เป็นต้น[1],[3]

ลักษณะของโกฐสอ

  • ต้น เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุหลายปี มีสีม่วงแต้มเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลางของโคนต้นราวๆ 2-5 เซนติเมตรและมีความสูง 1-2.5 เมตร
  • ดอก ดอกออกบริเวณปลายกิ่งและง่ามใบ เป็นดอกช่อแบบซี่ร่มเชิงประกอบ มักมี 18-40 ช่อ มีขนอยู่สั้นๆ มีดอกขนาดเล็กสีขาว มีกลีบดอก 5 กลีบ เส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 10-30 เซนติเมตร มีใบประดับคล้ายกาบหุ้มช่อดอกอ่อนอยู่ มีใบประดับไม่เกิน 2 ใบ ดอกจะออกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม[5]
  • ใบ ใบเป็นรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม ประกอบกันแบบขนนก 2-3 ชั้น โคนใบเป็นกาบแผ่ออกมา ก้านใบยาว ใบมีขนาดกว้างประมาณ 40 เซนติเมตรและยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ใบย่อยเป็นรูปรีแคบจนถึงใบหอกแกมขอบขนาน กว้าง 1-4 เซนติเมตรและยาว 4-10 เซนติเมตร ใบย่อยไร้ก้าน โคนใบออกเป็นครีบ ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลม ตอนบนของใบจะลดรูปเป็นกาบ[5]
  • ผล ผลเป็นรูปรีกว้างเป็นผลแบบผลแห้งแยก สันด้านข้างแผ่ออกเป็นปีกกว้าง สันด้านล่างหนากว่าร่อง มีท่อน้ำมันอยู่ตามร่อง ด้านล่างแบนราบ ผลจะติดในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน[5]
  • ราก มีลักษณะกลมยาวคล้ายหัวผักกาด มีความแข็ง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร มีรอยย่นและมีสัน มีผิวรากสีน้ำตาล เนื้อในเป็นสีขาวนวล มีจุดเล็กๆ มีกลิ่นหอมฉุน นิยมนำรากมาใช้ทำเป็นยา [2],[5]

ประโยชน์ของโกฐสอ

  • มีการใส่โกฐลงไปในน้ำเลี่ยงจุ๊ยที่คนจีนทำขาย[5]
  • เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิวหน้า[3],[5]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของโกฐสอ

  • มีสาร Angelicotoxin ซึ่งเป็นสารพิษ แต่ถ้าหากใช้ในจำนวนที่น้อยจะสามารถกระตุ้นประสาทควบคุมการทำงานของเส้นเลือดในกระดูกสันหลังและประสาทกระดูกสันหลังส่วนกลาง ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หายใจได้ลึกขึ้น แต่ชีพจรเต้นช้าลง และหากใช้มากเกินไปจะกระตุกอย่างแรงเป็นพักๆ จนชาทั้งตัวในที่สุด[1]
  • มีสารที่เป็นองค์ประกอบทางเคมีในกลุ่ม coumarins ประเภท furacoumarins หลายชนิด ตัวอย่างเช่น phellopterin, isoimperatorin, oxypeucedanin, imperatorin, byak-angelicol, byak-angelicin สารกลุ่ม ferulic acid, polyacetylenic และมีสารscopoletin และmarmecin[4],[5]
    จากการวิจัยพบว่า สามารถใช้ป้องกันสมองเสื่อม ช่วยคลายกังวล ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ต้านการอักเสบ ปกป้องตับ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการเต้นผิดปกติของหัวใจหนู มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ฯลฯ[4]
    ใช้ในการต่อต้านเชื้ออะมีบาที่เป็นสาเหตุของโรคบิดได้ ช่วยยับยั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคไทฟอยด์และโรค
  • อหิวาตกโรค ต้านเชื้อ Columbacillus ในลำไส้ใหญ่และกระเพาะอาหารได้ และสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังได้ด้วยน้ำต้มของโกฐ[1]
  • พบสาร Angelicotoxin anomalin Byak-angelicin, Imperatorin, Oxypevcedanin ซึ่งสารเหล่านี้จะไปกระตุ้นกระดูกสันหลัง ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกหดตัว กระตุ้นประสาททางจมูกทำให้หายใจคล่อง แต่หากใช้ในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายบางส่วนมีความรู้สึกชา [1]

สรรพคุณของโกฐสอ

1. สามารถนำมารักษาโรคเลือดเป็นพิษ หัด สุกใสและแก้ร้อนในได้ โดยทำตามตำรับ “ยาเม็ดขี้กระต่าย” ของล้านนาซึ่งประกอบด้วยโกฐสอและสมุนไพรอื่นๆ(ราก)[4]
2. มีปรากฏใช้ในหลายตำรับยา เช่น ตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” ที่สามารถใช้ในการบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อุจจาระธาตุพิการ ท้องเสียชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และมีปรากฏในตำรับ “ยาหอมนวโกฐ” และ “ยาหอมเทพจิตร”ซึ่งมีสรรพคุณในการแก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น แก้ลมวิงเวียน แก้ไข้ แก้ลมจุกแน่นท้อง และตำรับ “ยาประสะกานพลู” ซึ่งช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ และแก้อาการปวดท้อง(ราก)[4]
3. ราก สามารถทำเป็นยาแก้ปวด บวมแดง(ราก)[1],[3]
4. นำราก มาทำเป็นยาแก้อาการทางผิวหนังต่างๆได้(ราก)[1],[3],[5]
5. ที่จีนมีการใช้มาทำเป็นยาเกี่ยวกับระดู เช่น ใช้เป็นยาแก้ตกขาวของสตรี (ราก)[1],[3],[5]
6. ช่วยทำให้หัวใจชุ่มชื่นได้ เป็นยาบำรุงหัวใจ(ราก)[2],[3],[5]
7. ในจีนมักใช้ราก เป็นยาแก้ไข้หวัดคัดจมูก และตำราไทยก็ใช้เป็นยาแก้อาการไอ แก้หืด แก้ไข้ แก้ไข้จับสั่น(ราก)[2],[3],[5]
8. ข้อมูลจากตำรายารักษาไซนัส ระบุว่าโกฐสอ 10 กรัม, ซิงอี๊ 10 กรัม, อึ่งงิ้ม 10 กรัม, กัวกึ้งอีก 20 กรัมและซังหยือจี้ 8 กรัม มาต้มกับน้ำทานเช้าเย็น 3-5 เทียบจะช่วยในการรักษาได้(ราก)[1],[3],[5]
9. ใช้ทำเป็นยาขับลมชื้นในร่างกายได้ ด้วยการนำรากมาทำโดยจะออกฤทธิ์ต่อธาตุ ม้าม และปอด(ราก)[1]
10. มีการนำมาใช้ในเครื่องยา “พิกัดโกฐ” สามารถใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้หืดไอ แก้หอบ แก้ลมในกองธาตุ แก้ไข้ร่วมกับมีเสมหะ บำรุงกระดูก บำรุงเลือด ช่วยชูกำลัง และขับลมได้(ราก)[4]
11. อยู่ในตำรับ “ยาจิตรการิยพิจรูญ” ใช้เป็นยาแก้หืด ไอ อาการม้ามโต แก้ลมอัมพาต แก้ริดสีดวงผอมเหลืองได้(ราก)[4]
12. พบว่าการใช้โกฐสอ 30 กรัม ต้มกับน้ำทานวันละ 2 ครั้งสามารถเป็นยาแก้ปวดกระดูกสันหลังขึ้นหัวได้(ราก)[1]
13. ราก มีสรรพคุณช่วยสร้างเนื้อเยื่อให้แผลหายเร็ว และยังใช้เป็นยาขับฝีมีหนอง ทำให้หนองแห้งได้(ราก)[1]
14. ช่วยแก้ริดสีดวงทวารมีเลือด หรือเป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนักได้ (ราก)[1],[3]
15. ใช้รากเป็นยาขับลมได้[1]
16. ราก ช่วยในการแก้เสมหะเป็นพิษ แก้หลอดลมอักเสบ แก้สะอึกได้[3]
17. ราก สามารถนำมาทำเป็นยาแก้ริดสีดวงจมูกได้[3]
18. ราก ใช้แก้อาการปวดฟันและทำเป็นยาแก้ปวดศีรษะได้[1],[3],[5]

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. (วิทยา บุญวรพัฒน์). “โกฐสอ”. หน้า 110.
2. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “โกฐสอ”. หน้า 216.
3. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “โกฐสอ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.thaicrudedrug.com. [09 มิ.ย. 2015].
4. บทที่ 3 ศักยภาพการปลูกพืชสมุนไพรจีนในประเทศไทย. (สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร). “โกฐสอ”. หน้า 42-46.
5. https://medthai.com

อ้างอิงรูปจาก
1. https://alchetron.com/