โสก
โสก (Asoka) หรือเรียกกันอีกอย่างว่า “อโศกน้ำ” เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย มักจะพบตามริมลำธารในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น สามารถพบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย โสกมีดอกเป็นสีแสดไปจนถึงสีแดงทำให้ดูสดใสและสวยงามจึงนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ปลูกตามวัด ปลูกประดับอาคารสถานที่ ปลูกให้ร่มเงาตามสวนสาธารณะต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อม เป็นต้นที่มีดอกรสหอมเปรี้ยวและเป็นยาสมุนไพรของแพทย์พื้นบ้านในอินเดียด้วย
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของโสก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saraca indica L.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญว่า “Asoka” “Asoke tree” “Saraca”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคเหนือเรียกว่า “ส้มสุก” จังหวัดสุราษฎร์ธานีเรียกว่า “โสกน้ำ” จังหวัดยะลาเรียกว่า “ชุมแสงน้ำ” ชาวมลายูปัตตานีเรียกว่า “ตะโคลีเต๊าะ” ชาวมลายูยะลาเรียกว่า “กาแปะห์ไอย์” มีชื่ออื่น ๆ เรียกว่า “อโศก โศก อโศกน้ำ อโศกวัด”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE)
ชื่อพ้อง : Saraca bijuga Prain
ลักษณะของต้นโสก
โสก เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในประเทศอินเดีย มีเขตการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคอินโดจีน ลาว เวียดนามตอนใต้ คาบสมุทรมลายู สุมาตราและชวา สามารถพบได้ทุกภาคในประเทศไทย โดยจะขึ้นตามริมลำธารในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น
ต้น : เรือนยอดเป็นรูปทรงกลมพุ่มทึบ แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม ปลายกิ่งห้อยย้อยลู่ลง เปลือกต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือแตกเป็นร่องตื้นตามยาวและตามขวางของลำต้น
ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ออกเรียงสลับกัน มีใบย่อยเป็นรูปวงรี รูปไข่ รูปขอบขนานหรือรูปใบหอกประมาณ 1 – 7 คู่ ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบกลมเป็นรูปหัวใจหรือเป็นรูปลิ่ม แผ่นใบบางและเกลี้ยง ใบอ่อนเป็นสีเขียวอ่อนออกเหลือง
ดอก : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงหลั่นตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง ดอกเป็นสีแสดไปจนถึงสีแดง กลีบเลี้ยงเป็นหลอดเรียว บริเวณปลายแยกเป็น 4 แฉก ลักษณะของกลีบเป็นรูปไข่แกมรูปวงรีหรือรูปขอบขนาน โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อ ไม่มีกลีบดอก ดอกมีเกสรเพศผู้ 6 – 8 อัน เกสรเพศผู้ยาวพ้นจากปากหลอด รังไข่มีขนตามขอบ มักจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ผล : ผลมีลักษณะเป็นฝักทรงแบน รูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน ปลายฝักเป็นจะงอยสั้น เมื่อแก่ฝักจะแตกออกเป็น 2 ซีก ฝักจะเกิดจากดอกสมบูรณ์เพศเท่านั้น โดยจะติดผลในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม
เมล็ด : ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 1 – 3 เมล็ด เมล็ดโสกมีลักษณะเป็นรูปไข่แบน
สรรพคุณของโสก
- สรรพคุณจากดอก เป็นยาบำรุงธาตุ เป็นยาแก้ไอ เป็นยาขับเสมหะ
- สรรพคุณจากเปลือกและราก แพทย์พื้นบ้านในอินเดียนิยมใช้เปลือกและรากมาปรุงเป็นยาบำรุงโลหิต
ประโยชน์ของโสก
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร ใบอ่อนและดอกนำมาใช้ประกอบอาหารอย่างแกงส้ม ยำหรือรับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริกได้
2. ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ปลูกตามวัด ปลูกประดับอาคารสถานที่ ปลูกเป็นร่มเงาตามสวนสาธารณะต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อม ควรปลูกไว้ริมน้ำ
3. ใช้ในการเกษตร เป็นพืชล่อแมลง เช่น ผีเสื้อ เนื่องจากช่อดอกเป็นหลอดคล้ายดอกเข็มทำให้มีน้ำหวานมาก
4. ความเชื่อ ต้นโสกหรือ “อโศก” เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่โศกเศร้า เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งในทางพุทธศาสนาจะเรียกว่า “ความเมตตา”
คุณค่าทางโภชนาการของโสก
คุณค่าทางโภชนาการของส่วนที่รับประทานได้ ต่อ 100 กรัม
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ |
โปรตีน | 2.1 กรัม |
ไขมัน | 1.7 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 14 กรัม |
ใยอาหาร | 1.2 กรัม |
แคลเซียม | 46 มิลลิกรัม |
วิตามินซี | 14 มิลลิกรัม |
โสก เป็นชื่อที่เปลี่ยนมาจาก “โศก” เพราะความหมายของโศกนั้นคือความเศร้า ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนมาเรียกกันว่าโสกแทน เป็นต้นที่มีดอกสีแสดหรือสีแดงทำให้ดูสวยงามและนำมาใช้ปลูกประดับสถานที่ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการนำมารับประทานเป็นผักและเป็นพืชล่อแมลงได้ มีคุณค่าทางโภชนาการและยังเป็นยาสมุนไพรของแพทย์พื้นบ้านในอินเดียด้วย โสกมีสรรพคุณทางยาได้หลายส่วนจากต้นโดยเฉพาะส่วนของดอก มีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือ เป็นยาบำรุงธาตุ เป็นยาแก้ไอ เป็นยาขับเสมหะและเป็นยาบำรุงเลือด
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). “โสก”. หน้า 186.
สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “โสก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/botany/. [06 ต.ค. 2014].
หนังสือ Flora of Thailand Volume 4 Part 1. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). “โสกน้ำ”. หน้า 97.
ฐานข้อมูลพรรณไม้ที่ใช้ในงานภูมิสถาปัตยกรรม ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. “โสกน้ำ” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : agkc.lib.ku.ac.th. [06 ต.ค. 2014].
มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 310 คอลัมน์ : ต้นไม้ใบหญ้า. (เดชา ศิริภัทร). “โศก : สัญลักษณ์ของความรักจากตะวันออก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th. [06 ต.ค. 2014].
ผักพื้นบ้าน ในประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. “อโศกน้ำ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : area-based.lpru.ac.th/veg/. [06 ต.ค. 2014].
ข้อมูลอ้างอิง (Source) : https://medthai.com/