โรคในห้องแอร์
การอยู่ในห้องแอร์นานแล้วแอร์ไม่สะอาด หรือไม่เคยล้างเป็นเวลานาน ๆ ก็สามารถก่อโรคร้ายได้

โรคในห้องแอร์

ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้หลาย ๆ บ้านต้องติดตั้งแอร์เพื่อให้บ้านเย็น แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งอยู่ในห้องแอร์นานแล้วแอร์ไม่สะอาด หรือไม่เคยล้างเป็นเวลานาน ๆ ก็สามารถก่อโรคร้ายให้กับตัวคุณได้

โรคที่เกิดจากการอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ

1. โรคทางเดินหายใจ: เช่น โรคปอดจากเครื่องปรับอากาศ (Air-conditioner Lung), ภาวะระคายเคืองที่เกิดจากอากาศแห้ง, โรคไซนัส, และการติดเชื้อทางเดินหายใจ
2. ปัญหาผิวหนัง: ผิวแห้งและแตก การระคายเคือง หรือผิวหนังอักเสบ เนื่องจากการสูญเสียความชื้นในอากาศ
3. อาการภูมิแพ้: การระคายเคืองที่เกิดจากฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในตัวกรองเครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ
4. อาการเหน็บชาและกล้ามเนื้อตึง: จากการที่ร่างกายต้องปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
5. ปัญหาการนอนหลับ: อุณหภูมิที่เย็นเกินไปอาจทำให้การนอนหลับถูกรบกวน และมีผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
6. ภาวะโรคเลือดออกในจมูก: อากาศที่แห้งมากอาจทำให้เยื่อบุจมูกแห้งและเกิดการเลือดออกได้ง่ายขึ้น
7. โรคจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา: เมื่อเปิดแอร์จะต้องปิดหน้าต่างและประตู ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทและมีเชื้อโรคสะสมอยู่เป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้เกิดโรค เช่น วัณโรค อีสุกอีใส หืดหอบ ปอดบวม หรือหัดเยอรมัน ซึ่งต่างก็เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากอากาศที่ผ่านช่องแอร์

การป้องกันโรคในห้องแอร์เหล่านี้สามารถทำได้โดยการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศให้สะอาด, การตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม, การใช้เครื่องทำความชื้นเพื่อเพิ่มความชื้นในห้อง, และการป้องกันร่างกายไม่ให้ถูกลมเย็นโดยตรง

ข้อควรปฏิบัติในการนอนในห้องแอร์

1. การตั้งอุณหภูมิ: ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม ไม่เย็นจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต้องปรับตัวหนักเกินไป และเพื่อส่งเสริมการนอนหลับที่ดี
2. การบำรุงรักษา: ทำความสะอาดและบำรุงรักษาแอร์บ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแอลเลอร์เจน
3. การกรองอากาศ: ใช้ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศภายในห้อง.
4. การใช้เครื่องทำความชื้น: อาจพิจารณาใช้เครื่องทำความชื้นในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อรักษาความชื้นในอากาศที่เหมาะสมและป้องกันการแห้งของเยื่อเมือก
5. การระบายอากาศ: ให้อากาศภายในห้องถูกระบายสลับกับอากาศภายนอกอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเข้มข้นของสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคภายในห้อง
6. การหยุดพักเครื่องปรับอากาศ: หากใช้เครื่องปรับอากาศตลอดทั้งคืน ควรมีการตั้งเวลาให้เครื่องหยุดพักบ้าง เพื่อไม่ให้อากาศหนาวเย็นตลอดเวลา
7. การป้องกันร่างกาย: หมั่นใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเย็นจนเกินไปขณะนอนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
8. การตรวจสอบสุขภาพ: หากมีอาการผิดปกติเช่นไอ หายใจไม่สะดวก หรือมีอาการทางผิวหนัง ควรหยุดใช้เครื่องปรับอากาศและปรึกษาแพทย์
9. ควรปิดแอร์ในช่วงกลางคืน หรือตั้งเวลาปิดหลังเที่ยงคืน: จะช่วยให้นอนหลับได้โดยไม่เย็นเกินไป และช่วยให้หลับสบายไม่มีเสียงรบกวนการหลับ

อย่างไรก็ตามการปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การนอนในห้องแอร์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งห้องแอร์ควรทำความสะอาดโดยการล้างแอร์บ้านอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และควรเลือกใช้น้ำยาแอร์บ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำยาแอร์ R22 R32 R410a หากเลือกซื้อน้ำยาแอร์คุณภาพดี ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และน้ำยาแอร์ราคาถูกเราขอแนะนำสามารถสั่งซื้อได้ที่ www.fillkool.com หรือแอดไลน์ : @520gemhc