เล็บที่เป็นคลื่น (Wavy Nails)
เล็บที่เป็นคลื่น หรือที่เรียกว่า “wavy nails” คือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อผิวเล็บมีลักษณะคล้ายคลื่นหรือไม่เรียบ ซึ่งสามารถเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การขยายจากหนังกำพร้า (cuticle) ที่ส่งผลให้เล็บมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้าง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ภายในเนื้อเล็บยังสามารถทำให้เกิดลักษณะนี้ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่เล็บ ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็งแรงและรูปลักษณ์ของเล็บในระยะยาว
อาการและสาเหตุที่เล็บเกิดเป็นคลื่น
สาเหตุหลัก ๆ ของการเป็นคลื่น คือ ขาดความชุ่มชื้น ขาดสารอาหารประเภทโปรตีน แคลเซียม สังกะสี วิตามิน A หรืออาจเกิดจากภาวะด้านสุขภาพที่ทำให้เกิดเป็นคลื่นได้พบบ่อยที่สุดคือ ปลายเล็บร่น เล็บที่มีความหนาหรือบางผิดปกติ เล็บเปลี่ยนสี ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง บางคนมีอาการรุนแรงอาจพบเล็บเกิดคลื่นนูนสูง และเล็บเป็นร่องลึกตามแนวนอน แนวตั้งจากการสร้างเล็บผิดปกติ
เส้นคลื่นแนวตั้ง
เล็บเกิดคลื่นมีลักษณะเป็นเส้นที่ลากจากปลายเล็บมายังโคนเล็บ ซึ่งเกิดจากโรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอักเสบ ผื่นแพ้ มีพยาธิปากขอ หรือขาดแคลเซียมพบบ่อยในผู้สูงอายุ
เส้นคลื่นแนวนอน
เล็บเกิดคลื่นมีลักษณะเป็นเส้นแนวขวางลากจากซ้ายไปขวา มักจะเป็นอาการของโรคที่ร้ายแรงอาจจะทำให้เล็บของคุณหยุดการเจริญเติบโตได้ รวมถึงโรคเบาหวาน โรคตับ และโรคเรื้อรัง
เล็บที่มีสุขภาพดี จะมีสีออกชมพูจาง ๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ มีพื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรง
การวินิจฉัย
หากมีเปลี่ยนแปลงบนเล็บหรือเล็บได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เช่น เล็บฉีกขาด เล็บหลุด ใต้เล็บมีเลือดออกควรไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
การดูแลรักษา
1. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บ และนวดเบา ๆ
2. ตัดและทำความสะอาดเล็บอย่างสม่ำเสมอ
3. ห้ามกัดเล็บ
4. ควรเช็ดมือให้แห้งทุกครั้งหลังล้างมือ
5. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
6. ควรตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
เล็บเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม หากเล็บของเราสุขภาพดีนั่นรวมถึงร่างกายของเราก็จะดีไปด้วย หากเล็บได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการรุนแรงของโรคควรไปพบแพทย์
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม