มาเริ่มเรียนรู้ มะเร็งแบบ มืออาชีพกันได้แล้ว

0
3534
มาเริ่มเรียนรู้ มะเร็งแบบ มืออาชีพกันได้แล้ว
มะเร็ง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติชองเซลล์ มีการเจริญเติบโตแบบหยุดยั้งและเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นไม่มีวันตาย
มาเริ่มเรียนรู้ มะเร็งแบบ มืออาชีพกันได้แล้ว
มะเร็ง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติชองเซลล์ มีการเจริญเติบโตแบบหยุดยั้งและเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นไม่มีวันตาย

มาเริ่มเรียนรู้ มะเร็งแบบ มืออาชีพกันได้แล้ว

คุณกลัวเป็น มะเร็ง ไหม? ดิฉันกลัวค่ะ ไม่ได้กลัวตายจากโรคมะเร็งนะคะ แต่ว่ากลัวการเจ็บปวดที่เกิดจากมะเร็งมากกว่าค่ะ ถ้าเรากลัวที่จะเป็นมะเร็งเราก็ต้องทำความรู้จักกับเจ้ามะเร็งแบบมืออาชีพกันค่ะ ตามคำโบราณที่ว่า “ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ” ถ้าเรารู้จักมะเร็ง เราก็ชนะมะเร็งได้จริงมั้ยคะ มะเร็งดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ที่จริงแล้วมะเร็งมันอยู่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คุณคิด สารก่อมะเร็งนั้นอาศัยอยู่รอบๆ ตัวเรารอจังหวะเข้าไปอยู่ในตัวเรา วันนี้ดิฉันจะมาบอกเกี่ยวกับมะเร็งร้ายให้คุณได้รู้กันว่าเจ้ามะเร็งร้ายมันน่ากลัวอย่างที่คิดหรือไม่

มะเร็ง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติชองเซลล์ มีการเจริญเติบโตแบบหยุดยั้งและเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นไม่มีวันตาย เซลล์มะเร็งยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อใกล้เคียงหรืออวัยวะที่อยู่ห่างออกไป โดยการแพร่กระจายไปในกระแสเลือดและน้ำเหลือง เซลล์มะเร็งจะมีการแบ่งตัวได้แม้ร่างกายจะไม่มีสัญญาณบ่งบอกให้มีการสร้างหรือแม้จะมีคำสั่งให้หยุดแบ่งเซลล์ก็ตาม เซลล์จะมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้างสร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อของอวัยวะที่มีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อเกิดมะเร็ง คือ สารก่อมะเร็งและอนุมูลอิสระที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ เหล้า อาหารหมักดอง การกินเนื้อสัตว์ที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงและสารเร่งโตมากว่าการกินผักผลไม้สด การโดนรังสี การกินอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แป้งจนเป็นโรคอ้วน การไม่ออกกำลัง เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ทั้งสิ้น

กลุ่มของมะเร็งชนิดต่างๆ

1. มะเร็งคาร์ซิโนมา ( Carcinoma ) เป็นมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุผิว
2. มะเร็งซาร์โคมา ( Sarcoma ) คือมะเร็งที่เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่ออ่อน ( Soft Tissue ) เซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ( Connective Tissue ) หรือเซลล์เนื้อเยื่อเสริม ( Supportive Tissue )
3. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ( Lymphoma ) คือมะเร็งที่เกิดจากการที่เม็ดเลือดขาวที่อยู่ในต่อมน้ำหลืองหรือเนื้อเยื่อของน้ำเหลือง
4. มะเร็งเม็ดเลือดขาว ( Leukemias ) หรือลูคีเมีย คือมะเร็งที่เกิดจากไขกระดูกทำการผลิตตัวอ่อนเม็ดเลือดขาวออกมามากผิดปกติ
5. มะเร็งผิวหนัง (Melanoma) คือเป็นมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีผิว ( Melanocyte )

ระยะของเชื้อมะเร็งที่ตรวจพบ

เชื้อมะเร็งที่พบอยู่ในตัวเรานี่ ได้มีการแบ่งออกเป็น 4 ระยะด้วยกัน ซึ่งการแบ่งระยะของมะเร็งนี้ เราจะทำการวัดการแพร่กระจายและขนาดของเซลล์มะเร็งที่ตรวจพบ โดยมีการแบ่งระยะดังนี้

ระยะที่ 1 (Stage 1) เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง ขนาดของก้อนเนื้อที่พบมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตรและยังไม่มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้น มีแต่การแบ่งตัวเป็นก้อนเนื้อกลุ่มเล็กๆ อยู่ภายในอวัยวะเท่านั้น มะเร็งที่ตรวจพบในระยะที่ 1 นี้เป็นมะเร็งที่มีโอกาสรักษาให้หายมากที่สุด คือมากถึง 90%
ระยะที่ 2 (Stage 2) เซลล์มะเร็งมีขนาดโตอยู่ระหว่าง 2-5 เซนติเมตร มีการแพร่กระจายอยู่ในอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่เป็นต้นกำเนิดของเซลล์มะเร็ง เช่น เซลล์มะเร็งปอดที่ยังมีการแพร่กระจายอยู่ที่ปอดเท่านั้น เป็นต้น เมื่อตรวจพบมะเร็งในระยะนี้สามารถรักษาหายได้ถึง 80%
ระยะที่ 3 (Stage 3) เซลล์มะเร็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร มีการแพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง และมีการแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ชิดกับอวัยวะที่เกิดมะเร็ง มะเร็งที่ตรวจพบในระยะนี้สามารถโอกาสที่ได้อยู่ที่ 50%
ระยะที่ 4 (Stage 4) เป็นระยะสุดท้ายของมะเร็ง ระยะนี้เซลล์มะเร็งจะมีขนาดใหญ่มาก และมีการแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดและต่อมน้ำเหลือง เป็นผลให้ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ผ่านทางกรแสเลือด กระแสน้ำเหลือง มะเร็งระระสุดท้ายนี้มีโอกาสที่จะรักษาหายได้น้อยมาก ผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งระยะนี้จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากถึง 85% เลยที่เดียว

นอกจากมะเร็งทั้ง 4 ระยะข้างต้นแล้ว บางครั้งยังมีการแบ่งระยะของมะเร็งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระยะคือ ระยะที่ 0 มะเร็งระยะนี้เป็นมะเร็งที่เซลล์เริ่มมีความผิดปกติบนผิวด้านนอกของเซลล์หรือมีสารบ่งชี้มะเร็งเท่านั้น ยังไม่มีการแบ่งตัวของเซลล์เกิดขึ้น ซึ่งเซลล์ที่แบ่งตัวออกมานั้นอาจจะเป็นแค่เนื้องอกธรรมดาหรือกลายเป็นเซลล์มะเร็งก็ได้ จึงไม่ได้จัดเป็นระยะของมะเร็งที่วัดจากขนาดและการแพร่ขยายของก้อนมะเร็ง

เราจะเห็นยิ่งเราตรวจพบเชื้อมะเร็งเร็วเท่าไหร่ เราก็มีโอกาสที่จะรักษามะเร็งให้หายได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเราควรทำการตรวจสุขภาพหรือทำการตรวจคัดกรองมะเร็งทุกปี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามไปในระยะที่อันตรายและยากต่อการรักษา ถ้าเราตรวจเจอสารบ่งชี้มะเร็งก่อนที่จะเป็นก้อนเนื้อร้ายได้แล้วล่ะก็ รับรองว่ามะเร็งที่เกิดขึ้นรักษาหายชัวร์ 100% ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการตรวจคัดกรองที่มีความแม่นยำมาก เช่น การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) เพื่อตรวจหามะเร็งเต้านม การส่องกล้องในลำไส้ใหญ่เพื่อตรวจหามะเร็งลำไส้ การตรวจหาค่า PSA (Prostate specific antigen) เพื่อตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น ซึ่งการตรวจคัดกรองนี้เป็นเพียงหาสารบ่งชี้ที่อาจจจะก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งคนที่ตรวจพบสารบ่งชี้นี้อาจจะเป็นหรือไม่เป็นมะเร็งก็ได้ แต่ถ้ามีสารพวกนี้เกิดขึ้นมาในร่างกายของเราแล้ว เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีอยู่ให้ห่างกับปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็ง ถ้าจะให้ได้ผลที่แม่นยำและแน่นอนว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เราต้องทำการตรวจเลือด ตรวจปัสาวะ ตรวจอุจจาระ ฉายรังสี ส่องกล่อง เอ็กซเรย์และทำการตัดชิ้นเนื้อที่ต้องสงสัยไปตรวจอีกด้วย เพื่อช่วยยืนยันได้ว่าคุณเป็นมะเร็งแล้วหรือยัง

หลักการรักาษามะเร็ง

เมื่อคุณตรวจพบว่ามีเชื้อ มะเร็ง เกิดขึ้นแล้ว การรักษามะเร็งจะทำการรักษาตามระยะของมะเร็งที่ตรวจพบซึ่งการรักษามะเร็งก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่จะมีขั้นตอนหลักๆ ในการรักษาคือ

1. การผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาชิ้นเนื้อร้ายออกมาจากร่างกายเป็นการป้องกันไม่ให้ชิ้นเนื้อแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเพิ่มขึ้น และป้องกันไม่ให้มะเร็งทำลายอวัยวะที่มันเกาะอยู่ด้วย
2. การฉายรังสี คือการฉายรังสีโฟตอนหรืออนุภาคแอลฟาจากแร่เรเดียม ก๊าซเรดอน อนุภาคเบตาจากแร่สตรอนเดี่ยว 90 แร่ฟอสฟอรัส 32 การฉายรังสีก็เพื่อที่จะหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งไม่ให้ลุกลามต่อไปอีกหลังจากที่ตัดชิ้นเนื้อออกมาแล้ว
3. การใช้สารเคมีบำบัด ( Chemotherapy ) หรือการทำคีโม คือ การให้ยาเพื่อต้านเชื้อมะเร็งและหยุดการแพร่กระจาย รวมถึงการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่อาจจะหลงเหลืออยู่ในร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นมะเร็งซ้ำได้อีก
การรักษามะเร็งอาจจะให้ร่วมกันทั้ง 3 วิธีหรือใช้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียในการรักษาก็ได้ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงและระยะของมะเร็งแต่ส่วนมากแล้วมักจะทำการรักษาทั้ง 3 วิธีควบคู่กันไป เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีกนั่นเอง

มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นจำนวนมากก็จริง แต่ก็เป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ วันนี้ดิฉันได้เผยทุกแง่ทุกมุมเกี่ยวกับมะเร็งให้คุณได้รับรู้ ดิฉันเชื่อว่าทุกสิ่งที่ได้บอกไปนั้นจะช่วยให้คุณเข้าใจมะเร็งมากยิ่งขึ้น มะเร็งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะคุณมีทั้งทางป้องกันและรักษา เพียงคุณใส่ใจตัวเองสักนิดชีวิตคุณก็ห่างไกลมะเร็งแล้ว

Content by Amprohealth

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม