เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ เป็นเห็ดที่ดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน หายากมีคุณค่าสูง เป็นเทพเจ้าแห่งชีวิตที่มีพลังมหัศจรรย์ ใช้ทำเป็นยาเพื่อรักษาทางการแพทย์ของจีนมานานกว่า 2,000 ปี ใช้ตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา ตามธรรมชาติมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สายพันธุ์ที่นิยมและมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดคือสายพันธุ์สีแดง หรือเห็ดหลินจือแดง หรือกาโนเดอร์มา ลูซิดัม (Ganoderma lucidum) ชื่อสามัญ คือ Lingzhi mushroom, Reishi mushroom ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ganoderma lucidum (Curtis) P. Karst จัดอยู่ในวงศ์ GANODERMATACEAE ชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า เห็ดหมื่นปี, เห็ดอมตะ
ลักษณะของเห็ดหลินจือ
- ดอก เป็นรูปไตหรือรูปครึ่งวงกลม กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 8-20 เซนติเมตร หนา 1-3 เซนติเมตร ดอกอ่อนมีขอบสีขาว ถัดเข้าไปมีสีเหลืองอ่อน กลางดอกมีสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง ผิวเป็นมันคล้ายทาด้วยแลคเกอร์ มีริ้วหรือหยักเป็นคลื่น ขอบหมวกงุ้มลงเล็กน้อยและหนา ด้านล่างเป็นรูกลมเล็ก ๆ เชื่อมติดกัน
- ต้น มีลักษณะเป็นก้านสั้นหรืออาจไม่มีก้าน ถ้ามีก้านมักมีสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลดำ ยาว 2-10 เซนติเมตร อยู่เยื้องไปข้างใดข้างหนึ่งหรือติดขอบหมวก ทำให้ดอกมีรูปร่างคล้ายไต ผิวก้านเป็นเงา เนื้อในเห็ดมีสีน้ำตาลอ่อน
- สปอร์ เป็นตัวช่วยในการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ถูกสร้างออกมาจากผนังของรูที่อยู่ใต้หมวกเห็ด ลักษณะเป็นรูปวงรีสีน้ำตาล ปลายด้านหนึ่งตัดตรง ผิวเรียบ มีผนังหนาสองชั้น ระหว่างผนังมีลายหนามยอดเรียวไปจรดผนังชั้นนอก
- สืบพันธุ์ สปอร์จะหลุดออกจากรูใต้หมวกแล้วปลิวไปเกาะบนผิวดอก ทำให้เรามองเห็นดอกเห็ดเป็นมันเงาสีน้ำตาลคล้ายฝุ่นเกาะ เมื่อสปอร์กระจายออกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมจึงจะเจริญเติบโตเป็นเห็ดดอกใหม่
การเลือกซื้อเห็ดหลินจือ
– ควรศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก
– ต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งความชื้น แสงสว่าง รวมไปถึงสารอาหารที่ได้รับ
– สิ่งที่ต้องดูอีกอย่างนั้นคือขั้นตอนการแปรรูป
– เนื่องจากเป็นกระบวนการที่จะต้องสารสกัดพอลิแซ็กคาไรด์จากเห็ดออกมาให้ได้มากที่สุด
– ต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้เป็นอย่างดี เพราะเห็ดชนิดนี้จะไวต่อความชื้นเป็นพิเศษ และความชื้นจะทำให้ขึ้นราได้
คำแนะนำ
- เหมาะกับโรคของผู้สูงอายุ
– เพราะเห็ดชนิดนี้มีสามารถป้องกันและบำบัดรักษาโรคเป็นส่วนใหญ่ - รูปแบบในการรับประทาน
– ยาต้มแบบโบราณ โดยการนำที่แห้งนำมาต้มและเคี่ยว แต่เป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยากและไม่ค่อยจะสะดวก
– เนื้อบดเป็นผงบรรจุแคปซูล อาจจะทำให้มีเชื้อราได้หากไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ รูปแบบนี้จะมีความเข้มน้อยและดูดซึมได้ยาก
– สกัดหรือแคปซูล เป็นแบบที่จะได้สารสกัดที่เข้มข้นมาก มีสรรพคุณที่ดีกว่า และดูดซึมและออกฤทธิ์ได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย - เวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน
– ควรรับประทานในตอนเช้าขณะที่ท้องว่าง
– ควรดื่มน้ำตามให้มาก ๆ
– หากทานร่วมกับวิตามินซีจะมีผลที่ดีขึ้น เนื่องจากจะช่วยเสริมสรรพคุณ
– สำหรับผู้ที่ต้องกินยากดภูมิต้านทานหรือผู้ที่เป็นโรค SLE หรือผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะไม่ควรรับประทาน
ผลข้างเคียงของผู้ทาน
- อาการของผู้ที่เริ่มรับประทานใหม่ ๆ คือ
– รู้สึกเวียนศีรษะ
– อาเจียน
– ง่วงนอน
– ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ
– เกิดอาการท้องผูก ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย
– ผิวหนังเกิดอาการคัน - เมื่อตัวยาเข้าไปในร่างกายจะเข้าไปชำระล้างสารพิษต่าง ๆ ให้สลายไป
- อาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2-7 วันก็จะกลับสู่สภาวะปกติ
- หากมีอาการตามนี้ก็สามารถรับประทานต่อได้
- หากมีอาการมากก็ควรลดปริมาณลงจนกว่าอาการจะเป็นปกติ
- สำหรับผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง สามารถรับประทานเห็ดชนิดนี้ควบคู่ไปได้
สรรพคุณของเห็ดหลินจือ
- ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน
- ช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก
- ช่วยป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วยรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน
- ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด
- ช่วยรักษาโรคลูปัส อีริทีมาโตซัสทั่วร่าง (SLE)
- ช่วยสลายใยแผลเป็นหรือพังผืดหดยืด
- ช่วยทำให้ใยแผลเป็นอ่อนนิ่มและหดตัวเล็กลง
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ
- ช่วยรักษาโรคเกาต์
- ช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู
- ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ
- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น
- ช่วยรักษาโรคประสาท
- ช่วยบำรุงตับและรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน
- ช่วยลดไขมันในเลือด
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคหมอนรองกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทให้เบาลง
- ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำให้สมดุล
- ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน
- ช่วยป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ช่วยลดไขมันในเลือด
- ช่วยแก้พิษจากรังสี คีโม เช่น เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม อาการปวดจากพิษบาดแผล
- ช่วยแก้อาการท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี
- ช่วยทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ดีขึ้น
- ช่วยรักษาและต่อต้านมะเร็งโดยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
- ช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง
- ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น
- ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับได้สนิท
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
- ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น
- ช่วยส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยชะลอแก่ ชะลอวัย
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยทำให้อายุยืนยาว
- ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีหน้าแจ่มใส
- ช่วยบำรุงร่างกาย
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา
- สารในกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) มีฤทธิ์เสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด ลดอาการอักเสบ ซึ่งในแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป
- สารในกลุ่มไตรเทอร์พีน (Triterpene) ช่วยกำจัดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับ ป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- สารในกลุ่มนิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) ออกฤทธิ์บรรเทาอาการเจ็บปวด ป้องกันลิ่มเลือดแข็งตัวในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส
- สารประกอบเจอมาเนียม (Gemanium) เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย บำรุงประสาท สมอง หัวใจ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
- นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเห็ดชนิดนี้มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 250 ชนิด ปลอดภัยไม่มีสารพิษ
สั่งซื้อ อาหารเสริม สำหรับผู้ป่วย เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
แหล่งอ้างอิง
นพ.นิวัฒน์ ศิตวัฒน์, รศ.พญ.นริสา ฟูตระกูล, นพ.บรรเจิด ตันติวิท
อ้างอิงรูปจาก
1. https://hifasdaterra.it/blog/funghi/reishi-ganoderma-lucidum/
2. https://medthai.com/