พรีไบโอติก
พรีไบโอติก ( Prebiotic ) คือ อาหารสำหรับโปรไบโอติกมีเส้นใยจากธรรมชาติที่ไม่สามารถย่อยได้ จากงานวิจัยพบว่าพรีไบโอติกและโปรไบโอติกมีประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้ ทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์และแบคทีเรียดีในระบบทางเดินอาหาร เส้นใยเหล่านี้สามารถป้องกันเชื้อโรคที่ไม่พึงประสงค์ และที่สำคัญช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบลำไส้ได้อย่างสมบูรณ์ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงอีกด้วย
อาหารที่มี Prebiotic สูงจากแหล่งธรรมชาติ
พบได้ทั้งผัก ผลไม้ และธัญพืช โดยเฉพาะอาหารดิบมีไฟเบอร์ Prebiotic มากกว่าอาหารปรุงสุก ได้แก่
- กล้วย มีเส้นใย 2.6 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- กระเทียม มีเส้นใย 1.8 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ข้าวโอ๊ตดิบ มีเส้นใย 15.4 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ถั่วเหลือง มีเส้นใย 4.9 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- หอมแดง มีเส้นใย 3.2 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- กะหล่ำปลี มีเส้นใย 3.1 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ถั่วพิสตาชิโอ มีเส้นใย 10.3 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ถั่วแดง มีเส้นใย 15.2 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- อาร์ติโชค มีเส้นใย 1.6 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ข้าวบาร์เลย์ดิบ มีเส้นใย 15.6 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- อัลมอลด์ มีเส้นใย 12.5 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
- ต้นชิกโครี มีเส้นใย 3 กรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
ประโยชน์ของ Prebiotic
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
- ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
- ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ช่วยลดและรักษาความดันโลหิตสูง
- การป้องกันโรคลำไส้อักเสบ
- ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้
- ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีในระบบลำไส้
- ช่วยลดการติดเชื้อในลำไส้
- ช่วยลดการอักเสบในเยื่อผนังลำไส้
- ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนสุขภาพ
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารอย่างเหมาะสม
- เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
- ช่วยป้องกันผมร่วง
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ช่วยควมคุมน้ำหนัก
- เพิ่มความอยากอาหาร
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
พรีไบโอติกแม้จะไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง แนะนำให้ทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่น้อยกว่า 2.5 – 10 กรัม ต่อวัน จะสามารถช่วยให้อาการท้องผูกและช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปตั้งแต่ 40 – 50 กรัมต่อวัน อาจทำให้ท้องอืดและท้องเสียได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม