มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คือ การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่ผิดปกไม่สามารถควบคุมได้และมีการแพร่กระจายอย่างรวมเร็วในกระเพาะปัสสาวะและรุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกระเพาะปัสสาวะมีหน้าที่กักเก็บปัสสาวะที่ระบายออกจากไตผ่านไปยังท่อไตจากไตทั้ง 2 ข้างสามารถเก็บของปัสสาวะได้ประมาณ 400 – 600 มิลลิลิตร กระเพาะปัสสาวะของคนเราจะประกอบไปด้วยเซลล์หลายชนิด ซึ่งได้แก่ เซลล์ต่อมน้ำเหลือง กล้ามเนื้อ เยื่อเมือกบุ เส้นเลือดและกล้ามเนื้อ โดยเซลล์เหล่านี้ล้วนสามารถเกิดเป็นมะเร็งได้ทั้งสิ้น แต่ที่พบได้บ่อยมากที่สุดก็คือโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง และมักจะเกิดจากเซลล์ของเยื่อเมือกบุภายในกระเพาะปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่
อาการของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีอะไรบ้าง
- ปวดหลัง
- น้ำหนักลด
- เท้าบวม
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ปัสสาวะบ่อย
- ปวดขณะปัสสาวะ
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ปวดกระดูกเชิงกราน
สาเหตุของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ไม่พบสาเหตุที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากหลายปัจจัยเสี่ยงรวมกัน ซึ่งได้แก่
- ครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- การกลายพันธุ์ของยีนบางชนิด
- การสัมผัสกับสารเคมีในสถานที่ทำงานมากเกินไป
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง
- เป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
- การสูบบุหรี่จัด หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ
การวินิจฉัยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
แพทย์จะวินิจฉัยอาการเบื้องต้นโดยรวม ซักประวัติผู้ป่วยและซักประวัติของคนในครอบครัวรวมทั้ง
- การตรวจภายใน โดยนิ้วสอดเข้าไปทางทวารหนักหรือช่องคลอดเพื่อคลำหาสิ่งผิดปกติ
- การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- การตรวจปัสสาวะ เพื่อวิเคราะห์ปัสสาวะหากมีเลือดปนในปัสสาวะ อาจต้องส่งตัวอย่างปัสสาวะไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาเชื้อมะเร็ง
- การสแกนอัลตร้าซาวด์ เพื่อหาว่ามีก้อนมะเร็งหรือไม่ และถ้ามีก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่เพียงใด
- การส่องกล้อง เพื่อตรวจดูเยื่อบุ ซีส ก้อนเนื้องอก หรือเซลล์มะเร็งด้านในของกระเพาะปัสสาวะ
- การเอกซเรย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อถ่ายภาพภายในร่างกายที่มีความผิดปกติ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีกี่ระยะ
โรคมะเร็งชนิดนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะเช่นเดียวกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ โดยได้แก่
ระยะที่ 1 เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไม่มาก โดยจะลุกลามไปเฉพาะที่ชั้นเยื่อบุภายในของกระเพาะปัสสาวะเท่านั้น
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่มะเร็งได้ลุกลามไปยังชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ
ระยะที่ 3 เป็นระยะที่มีความรุนแรงในระดับหนึ่ง ซึ่งระยะนี้มะเร็งได้ลุกลามออกไปนอกกระเพาะปัสสาวะเข้าเนื้อ เยื่อรอบ ๆ กระเพาะปัสสาวะแล้วนั่นเอง
ระยะที่ 4 เป็นระยะที่รุนแรงที่สุด โดยมะเร็งได้ลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย และแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและเส้นเลือด ซึ่งก็อยู่ในระยะที่รักษาให้หายได้ยาก
การรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
สำหรับการรักษาจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด ใช้รังสีรังษาและทำเคมีบำบัด ซึ่งยังไม่มียารักษาที่ตรงเป้า โดยในปัจจุบันก็กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัยยาอยู่นั่นเอง
การป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
การป้องกันโรคมะเร็งชนิดนี้ ก็ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจนเช่นกัน ดังนั้นต้องอาศัยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งแทน หากหลีกเลี่ยงได้ ก็จะลดโอกาสการเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะไปได้เยอะ
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคมะเร็งมักไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นได้ชัดเจนในช่วงเริ่มต้น แต่จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะแล้วเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ หากสังเกตเห็นความผิดปกติของสีปัสสาวะ ปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะมีเลือดปนออกมา ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมกับวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำตรงจุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนก่อนและหลังการรักษาได้นั่นเอง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง
เอกสารอ้างอิง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.
พยาบาลสาร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. “การดูแลผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหลังผ่าตัดเปลี่ยนช่องทางขับถ่ายปัสสาวะ”. (พัชรินทร์ ไชยสุรินทร์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.tci-thaijo.org. [05 พ.ค. 2017].
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว. “มะเร็งตับกระเพาะปัสสาวะ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.moderncancerthai.com. [04 พ.ค. 2017].