สะตอ กลิ่นแรงแต่เป็นยาระบายชั้นดี แถมป้องกันเบาหวานได้ด้วย!

0
1877
สะตอ กลิ่นแรงแต่เป็นยาระบายชั้นดี แถมป้องกันเบาหวานได้ด้วย!
สะตอ ผักยืนต้นที่มีลักษณะฝักแบนยาว เมล็ดรีเกือบกลมสีเขียว มีกลิ่นฉุน
สะตอ กลิ่นแรงแต่เป็นยาระบายชั้นดี แถมป้องกันเบาหวานได้ด้วย!
สะตอ ผักยืนต้นที่มีลักษณะฝักแบนยาว เมล็ดรีเกือบกลมสีเขียว มีกลิ่นฉุน

สะตอ

สะตอ ( Bitter bean ) เป็นผักสมุนไพรที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย แต่สะตอจะมีกลิ่นเหม็นเขียวอย่างรุนแรง คนไทยบางคนชอบทานสะตอกันเป็นอย่างมาก และเป็นที่รู้กันว่าผักชนิดนี้จะช่วยให้การขับถ่ายคล่องมากขึ้นในวันถัดมา แต่ก็จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย แต่สรรพคุณของสะตอนั้นมีมากกว่าเรื่องของการขับถ่าย ใครที่ชอบรับประทานเป็นทุนเดิมก็อาจจะรักสะตอมากขึ้นเมื่อได้รู้ถึงประโยชน์ที่ลึกลงไป

รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของสะตอ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Parkia speciosa Hassk.
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญ 3 ชื่อ คือ “Bitter bean” “Twisted cluster bean” และ “Stink bean”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคกลางเรียกว่า “กะตอ สะตอ ตอดาน ตอข้าว” ภาคใต้และจังหวัดระนองเรียกว่า “ตอหรือลูกตอ” จังหวัดปัตตานี ยะลาและมลายูเรียกว่า “ปะตา ปัตเต๊าะ” จังหวัดสตูลและมลายูเรียกว่า “ปาไต”
ชื่อวงศ์ : วงศ์ถั่ว (Fabaceae)
ชื่อพ้อง : Parkia macropoda Miq.

ลักษณะของสะตอ

ต้นสะตอ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ พบทั่วไปในภาคใต้และภาคตะวันออก มักจะขึ้นตามเชิงเขาที่มีสภาพป่าสมบูรณ์
ใบ : ใบประกอบเป็นรูปคล้ายขนนก
ดอก : ดอกมักจะออกเป็นช่อรวมกัน เป็นกระจุกคล้ายดอกกระถินขนาดเล็กจำนวนมากติดเป็นช่อกลม ช่อดอกห้อย แต่ละดอกมีก้านดอกและมีใบประดับรองดอก
ผล : เป็นฝักที่บิดเป็นเกลียวห่าง ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่สีดำ
เมล็ด : เป็นรูปรีเกือบกลมเรียงตามขวางกับฝัก

สรรพคุณของสะตอ

  • สรรพคุณด้านเลือดในร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดอุดตันและลดความดันโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะตัวของเม็ดเลือดแดง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโลหิตจาง
  • สรรพคุณด้านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ช่วยบำรุงสายตา
  • สรรพคุณด้านระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยทำให้เจริญอาหาร มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้และขับลมในลำไส้ ช่วยในการขับปัสสาวะและการขับถ่าย แก้ปัสสาวะผิดปกติ
  • สรรพคุณด้านป้องกันโรค ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ ช่วยแก้ไตพิการหรือแก้ไตผิดปกติ
  • สรรพคุณด้านเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
  • สรรพคุณต่อเซลล์ในร่างกาย มีผลต่อการแบ่งตัวของเซลล์
  • สรรพคุณด้านการคลายเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า

สะตอคุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการของสะตอ 100 กรัม ให้พลังงาน 124 กิโลแคลอรี

สารอาหาร ปริมาณสารอาหาร
คาร์โบไฮเดรต 16.9 กรัม
โปรตีน 10 กรัม
ไขมัน 1.8 กรัม
ไฟเบอร์ 1 กรัม 
ธาตุเหล็ก 3.4 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 376 มิลลิกรัม
แคลเซียม 126 มิลลิกรัม
โซเดียม 11 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 3 มิลลิกรัม
วิตามินซี 32.7 มิลลิกรัม
วิตามินบี1  0.15 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 0.5 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของสะตอ

1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร ใช้ประกอบอาหารในแถบภาคใต้และในประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว พม่า และสิงคโปร์ เป็นต้น ใช้ประกอบอาหารจำพวกสะตอผัดกุ้ง ผัดสะตอ หรือนำมาแปรรูปเป็นสะตอดอง
2. เป็นปุ๋ยบำรุงดิน ใบของสะตอสามารถบำรุงดินได้
3. เป็นส่วนประกอบในการทำเฟอร์นิเจอร์ ลำต้นของสะตอใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้

ข้อควรระวังในการกินสะตอ

1. ผู้ที่เป็นโรคเกาต์หรือผู้ที่มีกรดยูริกในร่างกายสูงเกินค่ามาตรฐานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสะตอ
2. ไม่ควรรับประทานสะตอในปริมาณมากเพราะอาจทำให้กรดยูริกในร่างกายสูง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่ว โรคไตอักเสบ รวมถึงมีอาการหูอื้ออีกด้วย
3. ผู้ที่มีความดันเลือดค่อนข้างต่ำไม่ควรรับประทานสะตอ อาจทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะได้ เนื่องจากสะตอมีฤทธิ์ช่วยลดความดันเลือด

สะตอ เป็นอาหารของชาวปักษ์ใต้ที่มีกลิ่นแรง มักจะรับประทานในเมนูอาหารเผ็ดทั้งหลาย คนไทยส่วนมากรู้จักสะตอไม่ว่าจะในรูปแบบผักหรือในการเล่นคำที่มักจะใช้เป็นคำคำสแลงในการแซะคน ทั้งนี้สะตอมีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือเป็นยาระบายชั้นดี รับประทานแล้วคลายเครียดเหมือนได้ปลดปล่อย ป้องกันเลือดอุดตันและลดความดันโลหิต แถมยังป้องกันโรคเบาหวานได้ด้วย เป็นผักที่นำมาประกอบอาหารแล้วอร่อยเลิศแถมยังเป็นผลดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพราะสะตอมีฤทธิ์แรงต่อเลือดในร่างกาย บางคนมักจะมีอาการเวียนหัวเมื่อรับประทานเข้าไป แต่สิ่งที่สำคัญคือรสชาติของสะตอนั้นเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกสะใจจริง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม