เผือก
เผือก (Taro) เป็นพืชหัวที่นิยมนำมารับประทานในประเทศไทยมากชนิดหนึ่ง มีรสหวานมันอร่อยและมักจะพบในรูปแบบขนมหรืออาหารคาวหวานทั่วไป เป็นพืชที่กินง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลาย เผือกมีหลายชนิดแต่ในประเทศไทยนิยมเผือกหอมเป็นหลักเพราะมีหัวขนาดใหญ่และมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากหัวที่นำมารับประทานแล้วใบและยอดของต้นยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้เช่นกัน
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของเผือก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Colocasia esculenta (L.) Schott
ชื่อสามัญ : มีชื่อสามัญว่า “Taro”
ชื่อท้องถิ่น : ภาคเหนือเรียกว่า “บอนหรือตุน” ภาคอีสานเรียกว่า “บอน” ภาคใต้เรียกว่า “บอนเขียว บอนจีนดำ บอนท่า บอนน้ำ” ชาวจีนเรียกว่า “โอ่วไน โอ่วถึง โทวจือ”
ชื่อวงศ์ : วงศ์บอน (ARACEAE)
ลักษณะของเผือก
เผือก เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเอดโด (eddoe) เป็นเผือกที่มีหัวขนาดเล็ก และประเภทแดชีน (dasheen) เป็นเผือกที่มีหัวขนาดใหญ่ ในประเทศไทยนิยมเผือกหอมซึ่งเป็นเผือกชนิดหนึ่งในประเภทแดชีน
ลำต้น : ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน
หัว : หัวเป็นรูปลูกข่างกลมสีน้ำตาลและมีขนาดใหญ่ มีหัวเล็ก ๆ อยู่ล้อมรอบ หัวจะมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป
ใบ : เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่เรียงเวียนสลับกัน ใบเป็นรูปหัวใจหรือเป็นรูปลูกศรแกมรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบแต่ละด้านกลมหรือเป็นเหลี่ยม สามารถเห็นเส้นใบได้ชัดเจน
ดอก : ออกดอกเป็นช่อเชิงลดมีกาบ ออกเดี่ยวหรือหลายช่อ
ผล : ผลเป็นสีเขียวเปลือกบาง
เมล็ด : ไม่ค่อยมีเมล็ดแต่บางสายพันธุ์ก็ติดเมล็ดได้
สรรพคุณของเผือก
- สรรพคุณจากหัว ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ป้องกันฟันผุและช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง บำรุงลำไส้และแก้อาการท้องเสีย บำรุงไต แก้อาการอักเสบ ระงับอาการปวด
– บำรุงร่างกายให้แข็งแรง เป็นยาลดไข้ ด้วยการใช้หัวเผือก 100 กรัม มาต้มใส่กับข้าวสวย 100 กรัม แล้วต้มให้เป็นโจ๊ก
– เป็นยาทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย เป็นยาทาบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย ปวดเมื่อยเส้นเอ็น ปวดกระดูก ด้วยการใช้หัวเผือกสดมาโขลกให้ละเอียด ทำการผสมกับน้ำมันงาแล้วคลุกจนเข้ากันเพื่อนำมาใช้ทา
– รักษาโรคเรื้อนกวาง ด้วยการใช้ต้นกระเทียม 100 กรัม นำมาโขลกกับเผือกสด 100 กรัม โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นเรื้อนกวาง - สรรพคุณจากน้ำยาง ถอนพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ประโยชน์ของเผือก
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร ใบและยอดของต้นเผือกนำมารับประทานเป็นผักได้ ก้านใบนำมาใช้ประกอบอาหารในการทำแกงหรือนำไปทำเป็นผักดอง หัวเผือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นอาหารคาวหวานอย่างพวกเผือกเชื่อมหรือเผือกทอด สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้
2. ทำเป็นแป้ง ทำเป็นแป้งเผือกเพื่อใช้ทำขนมปัง ทำอาหารทารก เป็นอาหารเพื่อป้องกันโรคแพ้บางอย่างของเด็กทารกและใช้แทนธัญพืชในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะลำไส้
3. ใช้ในการเกษตร ชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอนนำใยมาต้มให้หมูกิน
ข้อควรระวังในการรับประทานเผือก
1. ไม่ควรรับประทานแบบดิบเพราะหัวและทั้งต้นของเผือกมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้คันได้
2. ผู้ที่มีอาการแพ้อย่างอาการคันในช่องปากหรือทำให้ลิ้นชาควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเผือก
3. ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปเพราะจะทำให้ม้ามทำงานผิดปกติได้
คุณค่าทางโภชนาการของเผือก
คุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกดิบ
คุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกดิบต่อ 100 กรัม โดยคิดเป็น % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ ให้พลังงาน 112 กิโลแคลอรี (7%)
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ |
คาร์โบไฮเดรต | 26.46 กรัม (20%) |
น้ำตาล | 0.40 กรัม |
เส้นใยอาหาร | 4.1 กรัม (11%) |
ไขมัน | 0.20 กรัม มากกว่า (1%) |
โปรตีน | 1.5 กรัม (3%) |
น้ำ | 70.64 กรัม |
วิตามินเอ | 76 หน่วยสากล (2.5%) |
วิตามินบี1 | 0.095 มิลลิกรัม (8%) |
วิตามินบี2 | 0.025 มิลลิกรัม (2%) |
วิตามินบี3 | 0.600 มิลลิกรัม (4%) |
วิตามินบี5 | 0.303 มิลลิกรัม (6%) |
วิตามินบี6 | 0.283 มิลลิกรัม (23%) |
วิตามินบี9 | 22 ไมโครกรัม (5.5%) |
วิตามินซี | 4.5 มิลลิกรัม (7%) |
วิตามินอี | 2.38 มิลลิกรัม (20%) |
วิตามินเค | 1.0 ไมโครกรัม (1%) |
แคลเซียม | 43 มิลลิกรัม (4%) |
เหล็ก | 0.55 มิลลิกรัม (7%) |
แมกนีเซียม | 33 มิลลิกรัม (8%) |
แมงกานีส | 0.383 มิลลิกรัม (1.5%) |
ฟอสฟอรัส | 84 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 591 มิลลิกรัม (12.5%) |
โซเดียม | 11 มิลลิกรัม มากกว่า (1%) |
สังกะสี | 0.23 มิลลิกรัม (2%) |
ทองแดง | 0.172 มิลลิกรัม (19%) |
ซีลีเนียม | 0.7 ไมโครกรัม (1%) |
คุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกเฉพาะส่วนที่กินได้
คุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกเฉพาะส่วนที่กินได้ต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 117 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ |
คาร์โบไฮเดรต | 26.8 กรัม |
โปรตีน | 2.1 กรัม |
ไขมัน | 0.1 กรัม |
วิตามินบี1 | 0.15 มิลลิกรัม |
วิตามินบี2 | 0.04 มิลลิกรัม |
วิตามินบี3 | 1 มิลลิกรัม |
วิตามินซี | 2 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 84 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | 54 มิลลิกรัม |
คุณค่าทางโภชนาการของใบเผือกดิบต่อ 100 กรัม
คุณค่าทางโภชนาการของใบเผือกดิบต่อ 100 กรัม โดยคิดเป็น % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ ให้พลังงาน 42 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ |
คาร์โบไฮเดรต | 6.7 กรัม |
น้ำตาล | 3 กรัม |
เส้นใยอาหาร | 3.7 กรัม |
ไขมัน | 0.74 กรัม |
โปรตีน | 5 กรัม |
วิตามินเอ | 241 ไมโครกรัม (30%) |
เบตาแคโรทีน | 2,895 ไมโครกรัม (27%) |
ลูทีนและซีแซนทีน | 1,932 ไมโครกรัม |
วิตามินบี1 | 0.209 มิลลิกรัม (18%) |
วิตามินบี2 | 0.456 มิลลิกรัม (38%) |
วิตามินบี3 | 1.513 มิลลิกรัม (10%) |
วิตามินบี6 | 0.146 มิลลิกรัม (11%) |
วิตามินบี9 | 129 ไมโครกรัม (32%) |
วิตามินซี | 52 มิลลิกรัม (63%) |
วิตามินอี | 2.02 มิลลิกรัม (13%) |
วิตามินเค | 108.6 ไมโครกรัม (103%) |
แคลเซียม | 107 มิลลิกรัม (11%) |
เหล็ก | 2.25 มิลลิกรัม (17%) |
แมกนีเซียม | 45 มิลลิกรัม (13%) |
แมงกานีส | 0.714 มิลลิกรัม (34%) |
ฟอสฟอรัส | 60 มิลลิกรัม (9%) |
โพแทสเซียม | 648 มิลลิกรัม (14%) |
สังกะสี | 0.41 มิลลิกรัม (4%) |
คุณค่าทางโภชนาการของใบต่อ 100 กรัม
คุณค่าทางโภชนาการของใบต่อ 100 กรัม มีวิตามินเอ 20,885 หน่วยสากล และวิตามินซี 142 มิลลิกรัม
คุณค่าทางโภชนาการของยอดต่อ 100 กรัม
คุณค่าทางโภชนาการของยอดต่อ 100 กรัม มีวิตามินเอ 335 หน่วยสากล และวิตามินซี 8 มิลลิกรัม
เผือก เป็นพืชที่มีสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่งและดีต่อร่างกายหากรับประทานอย่างถูกวิธี อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานและบำรุงสุขภาพได้ดีเยี่ยม เป็นพืชที่ช่วยทำให้อิ่มได้เหมือนกับรับประทานข้าว มีรสหวานมันอร่อยเมื่อนำมาปรุงหรือนำมาทำเป็นอาหารคาวหวาน มีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง เป็นยาทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย บำรุงไต บำรุงลำไส้และแก้อาการท้องเสียได้
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
กลุ่มสื่อส่งเสริมเสริมการเกษตร สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร. “อาหารจากเผือก”.
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. “เผือก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: kanchanapisek.or.th/kp6/. [31 มี.ค. 2014].
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. กรีนไฮเปอร์มาร์ท สารานุกรมผลิตผลและผลิตภัณฑ์จากพืชในซุปเปอร์มาร์เก็ต ฉบับคอมพิวเตอร์. “เผือก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.sc.mahidol.ac.th. [31 มี.ค. 2014].
โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์การมหาชน). “เผือก”. อ้างอิงใน: หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์), สมุนไพรใกล้ตัว เล่ม 6 : สมุนไพรที่เป็นพิษ (สมพร ภูติยานันต์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: eherb.hrdi.or.th. [31 มี.ค. 2014].
Food for Health – อาหารเพื่อสุขภาพ, คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. “สมุนไพรจีนและอาหารจีน”. (วงศ์ตะวัน เอื้อธีรศรัณย์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: pirun.ku.ac.th/~b5310850368/. [31 มี.ค. 2014].