มะละกอ ผลไม้ลดน้ำหนัก และดีต่อการขับถ่าย
มะละกอ คือ ผลไม้ที่สามารถนำมารับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารหรือนำมาแปรรูป และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

มะละกอ คือ

มะละกอ ( Papaya ) คือ มะละกอเป็นผลไม้มีเนื้อนุ่มสีเหลืองส้ม รสหวานสามารถกินได้ทั้งผลดิบ ผลสุก ผลไม้ชนิดนี้อยู่ในวงศ์ Caricaceae มีลักษณะทรงกลมอวบมีขนาดใหญ่ไปจนถึงเล็กเป็นผลไม้เมืองร้อนมะละกอมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อนโดยมีต้นกำเนิดในเม็กซิโกและอเมริกาใต้อุดมด้วยสารอาหารมากมาย การกินมะละกอช่วยลดน้ำหนักได้ให้วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่จำเป็นต่อการย่อยอาหาร เมื่อระบบย่อยอาหารเริ่มทำงานได้ดีขึ้นส่งผลดีต่ออัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นและช่วยในการเผาผลาญไขมันของร่างกาย   

10 สายพันธุ์มะละกอที่ควรรู้

1. มะละกอฮอลแลนด์
2. มะละกอแขกดํา
3. มะละกอแขกนวล
4. มะละกอเรดเลดี้
5. มะละกอแขกดำศรีสะเกษ
6. มะละกอโซโล
7. มะละกอซันไรซ์
8. มะละกอพันธุ์ครั่ง
9. มะละกอโกโก้
10. มะละกอสีทอง

มะละกอมีสารอาหารสำคัญอะไรบ้าง?

มะละกอเป็นแหล่งวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินอี วิตามินเค โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ วิตามินบี9 โพแทสเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม ไลโคปีน เบตาแคโรทีน ธาตุเหล็ก โซเดียม ลูทีนและซีแซนทีน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะละกอ

ลำต้น เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นตั้งตรง ด้านในกลวง ส่วนใหญ่จะไม่มีกิ่งก้าน ผิวเปลือกลำต้นสีเขียวอมเทาหากกรีดจะมียางสีขาว มีรอยแผลจากการหลุดของก้านใบตลอดลำต้น
ใบ เป็นใบเดี่ยว ก้านใบยาวเป็นท่อกลวง โคนใบเว้า ใบมีหลายแฉก ขอบใบแต่ละแฉกจะหยักลึก มีเส้นกลางใบและเส้นร่างแหของใบเห็นชัดเจนทุกแฉก ผิวใบสีเขียว ท้องใบสีเขียวเช่นกันแต่สีอ่อนกว่า
ดอก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลรบดอกสีขาวนวล กลิ่นหอม ด้านดอกยาว มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ผล มีลักษณะยาวเรียว ปลายแหลมกว่าหัว เปลือกบาง ผิวขรุขระ รอบผลอาจจะร่องตื้นๆเป็นระยะๆ ผลสดมีเนื้อสีขาว
เปลือกสีเขียว ผลสุก เปลือกจากมีสีเหลืองส้ม หรือเขียวอมเหลือง เนื้อด้านในสีส้มสด รสหวาน มีเมล็ดเป็นจำนวนมาก
เมล็ด รูปทรงกลมรี คล้ายไข่ เมล็ดอ่อนสีขาว เมล็ดแก่สีดำ มีเมือกหุ้ม

มะละกอ คือ ผลไม้ที่สามารถนำมารับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารหรือนำมาแปรรูป และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

มะละกอลดความอ้วนได้

มะละกอสุกมีเอนไซม์ปาเปน ( Papain ) และเส้นใยอาหารมากมายช่วยในเรื่องกายย่อยโปรตีนในร่างกาย ช่วยล้างสำไส้ให้สะอาดขจัดไขมันตามผนังของลำไส้ มะละกอสุกจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก

การลดความอ้วนด้วยผลไม้ ควรกินมะละกอช่วงไหนดีที่สุด

กินมะละกอเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ควรรับประทานมะละกอในช่วงอาหารเช้า เป็นของว่างระหว่างมื้อกลางวัน และมื้อเย็น เพราะในมะละกอมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย อีกทั้งมะละกอ อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารจะทำให้คุณอิ่มนานขึ้นช่วยลดการกินของว่างให้น้อยลงและสามารถรักษาน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ 10 ประการของมะละกอที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1.มะละกอมีประโยชน์ไม่ย่อย
มะละกอมีเอนไซม์ปาเปนซึ่งเป็นเอนไซม์ที่หลั่งจากตับอ่อนช่วยในการย่อยโปรตีนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การกินมะละกอยังสามารถป้องกันอาการท้องผูกเพราะมีไฟเบอร์สูงช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย

2. มะละกอมีประโยชน์ต่อหัวใจ
มะละกออุดมไปด้วยวิตามินต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ซึ่งวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอีมีส่วนป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดแดง นอกจากนี้มะละกอยังอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์คือกลุ่มสารอาหารที่ได้จากผัก ผลไม้ 5 สี ที่มีผลดีต่อสุขภาพมากมาย อาทิ

  • สีแดง ให้ไลโคปีน กรดเอลลาจิก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสุขภาพต่อมลูกหมาก สุขภาพดีเอ็นเอ เสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
  • สีเหลือง/ส้ม ให้เบต้าแคโรทีน เฮสเพอริดิน เสริมการทำงานระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสุขภาพดวงตา ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ รักษาความชุ่มชื้นของผิว ส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างสมบูรณ์แข็งแรง
  • สีเขียว ให้อีจีซีจี ลูทีน/ซีแซนทิน ไอโซฟลาโวน ไอโซไธโอไซยาเนท ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสุขภาพของเซลล์ ส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือดแดง ส่งเสริมการทำงานของตับ และปอด
  • สีม่วง/น้ำเงิน ให้แอนโธไซยานิน เรสเวอราทรอล สารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสุขภาพหัวใจ สนับสนุนการทำงานของหลอดเลือดแดง ช่วยระบบความจำ
  • สีขาว ให้อัลลิซิน เควอซิทิน ช่วยเสริมสุขภาพกระดูก เสริมสุขภาพการไหลเวียนโลหิต สนับสนุนการทำงานของหลอดเลือดแดง

3. มะละกอมีประโยชน์ต่อมะเร็ง
การศึกษาพบว่าเอนไซม์ปาเปนในมะละกอสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และมีอีกหนึ่งงานวิจัยในการแพทย์อินเดียพบว่าสารสกัดเฮกเซนของเมล็ดมะละกอมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างสารซูเปอร์ออกไซด์ และมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง ส่วนสารสกัดจากใบมะละกอเมื่อสัมผัสกับเซลล์มะเร็งบางชนิดผลการวิจัยพบว่าเซลล์แสดงการเติบโตของเนื้องอกที่ช้าลง

4. มะละกอมีประโยชน์ต่อประจำเดือน
ดื่มน้ำมะละกอในช่วงมีประจำเดือนจะช่วยในการกระตุ้นการไหลของประจำเดือน เนื่องจากน้ำมะละกอนั้นมีความร้อนสูงมะละกอสีเขียวหรือมะละกอที่ยังไม่สุกถือเป็นยาสามัญประจำบ้านใช้รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติได้

5. มะละกอมีประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ในเนื้อมะละกอมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย 

6. มะละกอมีประโยชน์ต่อโรคเบาหวาน
แม้ว่ามะละกอจะมีรสหวานอยู่บ้าง แต่มะละกอก็เหมาะสำหรับคนเป็นเบาหวานเพราะมะละกอมีปริมาณน้ำตาลต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

7. มะละกอมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก
หากคุณกำลังหาวิธีลดน้ำหนักที่ไม่ทำร้ายสุขภาพอยู่นั้น เราของแนะนำการรับประทานมะละกอมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย อีกทั้งมะละกออุดมไปด้วยเส้นใยอาหารจะทำให้คุณอิ่มนานขึ้นช่วยลดการกินของว่างให้น้อยลงและสามารถรักษาน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

8. มะละกอมีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ
เอนไซม์ปาเปน (Carica papaya) ที่พบในมะละกอมีประสิทธิภาพมากในการป้องกันโรคไขข้ออักเสบและโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้ปริมาณวิตามินซีในมะละกอยังช่วยป้องกันข้อเข่าเสื่อม

9. มะละกอมีประโยชน์ต่อดวงตา
อุดมไปด้วยวิตามินเอทำให้มะละกอมีประโยชน์ต่อดวงตาช่วยบำรุงสายตาในผู้สูงอายุทำให้ดวงตาแข็งแรง

10. มะละกอมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
อย่างที่ทราบกันดีมีผลิตภัณฑ์เพื่อความงามหลายยี่ห่อนิยมนำมะละกอซึ่งเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายและที่สำคัญมีประโยชน์ต่อผิวพรรณช่วยลดปัญหาสิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตาย ช่วยกระชับผิวลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย การทามะละกอดิบบดผสมกับน้ำผึ้งทิ้งไว้ 15 นาทีจะทำให้คุณมีผิวที่เปล่งปลั่ง

สรรพคุณของมะละกอ

  • มีฤทธิ์ต้านอักเสบ
  • ช่วยป้องกันโรคนิ่ว
  • ช่วยป้องกันไตเสื่อม
  • ช่วยในการย่อยอาหาร
  • ช่วยระบบทางเดินอาหาร
  • ช่วยบำรุงประสาทและสมอง
  • เมล็ดมะละกอใช้รักษามะเร็ง
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยรักษาแผลพุพอง แผลไฟไหม้
  • ช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน เท้าเปื่อย
  • ช่วยป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม
  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งอยู่เสมอ
  • ช่วยกระตุ้นในการผลิตน้ำนมในมารดาได้ดี
  • ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
  • ช่วยป้องกันโรคถุงลมปอดโป่งพอง และมะเร็งปอด
  • ใช้เป็นยาขับของเสียออกจากตับและบำรุงตับให้แข็งแรง

ตารางคุณค่าทางโภชนาการของมะละกอดิบ ต่อ 100 กรัม พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่

คาร์โบไฮเดรต 10.82 กรัม
น้ำตาล 7.82 กรัม
เส้นใย 1.7 กรัม
ไขมัน 0.26 กรัม
โปรตีน 0.47 กรัม
วิตามินเอ 47 ไมโครกรัม
เบตาแคโรทีน 274 ไมโครกรัม
ลูทีนและซีแซนทีน 89 ไมโครกรัม
วิตามินบี 10.023 มิลลิกรัม
วิตามินบี 20.027 มิลลิกรัม
วิตามินบี 30.357 มิลลิกรัม
วิตามินบี 50.191 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 0.038 มิลลิกรัม
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม
วิตามินซี 62 มิลลิกรัม
วิตามินอี 0.3 มิลลิกรัม
วิตามินเค 2.6 ไมโครกรัม
ธาตุแคลเซียม 20 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.25 มิลลิกรัม
ธาตุแมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 0.04 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 10 มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 182 มิลลิกรัม
ธาตุโซเดียม 8 มิลลิกรัม
ธาตุสังกะสี 0.08 มิลลิกรัม
ไลโคปีน 1,828 ไมโครกรัม

ตารางคุณค่าทางโภชนาการของมะละกอสุก ต่อ 100 กรัม

โปรตีน 0.5 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
วิตามินซี 70 มิลลิกรัม
วิตามินบี 10.04 มิลลิกรัม
วิตามินบี 20.04 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 0.4 มิลลิกรัม
ธาตุแคลเซียม 24 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม
ธาตุโซเดียม 4 มิลลิกรัม

ข้อควรระวัง

1. ไม่ควรรับประทานมะละกอสุกในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ผิวของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
2. สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานมะละกอ เพราะอาจส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดได้
3. หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับยางมะละกอ เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาต่อผิวหนังได้
4. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอเพราะสารปาเปนที่อยู่ในมะละกออาจเป็นพิษต่อทารกน้อยในครรภ์
5. ผู้ที่มีอาการแพ้สารปาเปน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอ
6. มะละกออาจเป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์เนื่องจากอากาศร้อนและอาจนำไปสู่การหดตัวของมดลูกซึ่งอาจทำให้แท้งได้

แม้ว่ามะละกอจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีอีกหลายคนที่กินแล้วมีอาการนั่นอาจเกิดจากยางของมะละกอ เมื่อผู้ที่มีอาการแพ้น้ำยางสัมผัสโดยตรงอาจเกิดอาการแพ้ ได้แก่ คัน ลมพิษ คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล บางรายที่แพ้มากๆ อาจทำให้เกิดอาการหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก และหายใจลำบาก ส่วนใหญ่อาการจะเริ่มภายในไม่กี่นาทีหลังจากสัมผัสกับน้ำยางของมะละกอ แต่พบได้น้อยมาก

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เอกสารอ้างอิง

14 สรรพคุณ…ประโยชน์ของมะละกอ แคลอรี่ต่ำ ประโยชน์สูง (ออนไลน์). สืบค้นจาก : https://sukkaphap-d.com [26 กรกฎาคม 2562].

มะละกอ ต้านอนุมูลอิสระ (ออนไลน์). สืบค้นจาก : https://www.doctor.or.th [26 กรกฎาคม 2562].
สรรพคุณและประโยชน์ของมะละกอ (ออนไลน์). สืบค้นจาก : https://sites.google.com [26 กรกฎาคม 2562].

อย่าทิ้งเด็ดขาด!!! ประโยชน์ของเมล็ดมะละกอ ของดีที่เรามองข้าม น่าเสียดายที่ทิ้งไปตั้งเยอะ!!! https://www.tnews.co.th [26 กรกฎาคม 2562].