ขมิ้น สมุนไพรพื้นบ้านที่มากไปด้วยประโยชน์
ขมิ้น เป็นพืชสมุนไพรที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อของเหง้ามีสีเหลืองเข้มไปจนถึงสีแสด

ขมิ้น หรือขมิ้นชัน

ขมิ้น ( turmeric ) เป็น พืชสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชีย ใช้ทั้งปรุงรสอาหารและเป็นวัตถุดิบในตำรับยาหลายขนาน ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความเผ็ดร้อนที่กำลังดี ไม่แสบเหมือนพริก ผสมกับความขมอีกเล็กน้อยตามแบบของพืชจำพวกเหง้า พร้อมให้สีสันเหลืองนวลเด่นชัด ขมิ้น จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในการทำเครื่องแกง นอกจากนี้ก็มีการนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เครื่องประทินโฉม และยารักษาโรค 

สมุนไพรพื้นบ้าน ขมิ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า ขมิ้นชัน มีลำต้นสูงราวๆ 50-60 เซนติเมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินแล้วแตกใบโผล่เหนือดินขึ้นมา ลักษณะใบเป็นใบกว้างรูปร่างคล้ายหอกปลายแหลมสีเขียวเข้ม บริเวณก้านเป็นสีน้ำตาลอมเขียว ดอกมีลักษณะเป็นช่อใหญ่ปลายสีชมพูอ่อน สามารถเพาะปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน และเก็บเกี่ยวเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี

องค์ประกอบสำคัญในขมิ้นสมุนไพรพื้นบ้าน

สมุนไพรพื้นบ้านที่สารออกฤทธิ์สำคัญสีเหลืองที่ทำให้ ขมิ้น มีเอกลักษณ์ชัดเจนก็คือ เคอร์คูมิน ( curcumin ) เป็นสารกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ ( curcuminoid ) ที่พบมากในพืชวงศ์ขิง อย่างเช่น ขิง ขมิ้น ว่านนางคำ เป็นต้น อันที่จริงในขมิ้นชันจะมีอยู่ 3 ตัวหลักได้แก่ เคอร์คูมิน ( curcumin ) ดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน ( demethoxycurcumin ) และบิสดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน ( bisdemethoxycurcumin ) ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบที่ดีทั้งหมด แต่ตัวที่โดดเด่นมากกว่าเพื่อนก็คือ เคอร์คูมิน ( curcumin ) ซึ่งเป็นสารประเภทโพลีฟีนอล ( polyphenolic phytochemical ) มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการของกรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี ช่วยเรื่องอาหารไม่ย่อย ต้านการเกิดมะเร็ง แก้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง และต้านปรสิตบางกลุ่มได้ นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนช่วยในการคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งจากอาการปวดต่างๆ ได้ด้วย

สมุนไพรพื้นบ้านคุณค่าทางโภชนาการของขมิ้น

ขมิ้นชันยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี เกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก  เส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรต และไขมัน

ขมิ้นกับการรักษาโรค

โรคผิวหนัง : อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเคอร์คูมิน ( curcumin ) มีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังด้วย โดยออกฤทธิ์ดีเยี่ยมกับผู้ป่วยที่เกิดอาการคันตามผิวหนัง กระบวนการคือช่วยยับยั้งการอักเสบทั้งภายในร่างกายและบริเวณผิวหนังภายนอก ในผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเรื้อรัง เมื่อทดสอบด้วยการทาน ขมิ้น พบว่ามีอาการคันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงผู้ป่วยที่ผิวหนังคันเพราะสัมผัสสารพิษบางประเภทมาก่อนหน้านี้ ก็ช่วยให้ความระคายเคืองที่ผิวลดลงได้ แต่ยังไม่มีการยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ขมิ้นชันเพื่อรักษาโรคผิวหนังในระยะยาว

โรคอัลไซเมอร์ ( Alzheimer’s Disease ) : อัลไซเมอร์คือภาวะผิดปกติที่เกี่ยวกับสมอง เป็นจุดเริ่มต้นที่เชื่อมโยงไปถึงการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มักเป็นผู้สูงอายุและคนวัยทำงาน อาการเด่นชัดคือหลงลืม อารมณ์แปรปรวนและสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป มีหลายงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ขมิ้น อาจมีประโยชน์ต่อการรักษาอัลไซเมอร์ โดยเจาะจงไปยังกลุ่มที่มีปัญหาด้านพฤติกรรมและความจำเสื่อม ส่วนในกลุ่มอาการแบบอื่นยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนัก ยังต้องมีการศึกษาเพื่อขยายผลกันต่อไปอีก

อาการจุกเสียดแน่นท้อง : เมื่อไรที่มีอาการแน่นท้อง มีลมในท้องมากจนอึดอัด หรือจุกเสียดโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ขมิ้นชัน จะเป็นสมุนไพรตัวแรกๆ ที่นึกถึง บ้างก็เอามาทานสดๆ บ้างก็เลือกทานแบบที่เป็นยาแคปซูล หากไม่ได้เป็นโรคอื่นที่ร้ายแรงก็พบว่าขมิ้นชันช่วยได้ทุกครั้งไป สมุนไพรพื้นบ้านขมิ้นมีสารเคอร์คูมิน ( curcumin ) มีคุณสมบัติในการยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการจุกเสียดในระบบทางเดินอาหารได้

โรคตาอักเสบ : ในเมื่อลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของขมิ้นก็คือต้านการอักเสบ ดังนั้นไม่ว่าอาการอักเสบเกิดขึ้นที่ส่วนใดของร่างกาย ขมิ้นก็ย่อมช่วยบรรเทาหรือรักษาให้หายขาดได้แน่นอน โรคตาอักเสบก็เช่นเดียวกัน เคยมีการทดสอบกับผู้ป่วยโรครูเวียอักเสบ เป็นโรคที่ส่วนของม่านตา เนื้อเยื่อคอรอยด์และเนื่อเยื่อ Ciliary body เกิดการอักเสบ โดยทำการทดสอบกับผู้ป่วยถึง 30 กว่าคน ได้ผลว่ามีอาการดีขึ้นในช่วงสองสัปดาห์แรก นอกจากนี้ ขมิ้น ยังช่วยบรรเทาความระคายเคืองหรือความไม่สบายตาจากโรคตากลุ่มอื่น ๆ ได้ด้วย

ภาวะซึมเศร้า : โรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนไม่น้อยเลย ภาวะซึมเศร้าคือลักษณะของอารมณ์ที่เศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจ ร้องไห้ง่าย ท้อแท้ง่าย เรื่องที่เคยเป็นเรื่องเล็กน้อยก็กลายเรื่องใหญ่โตและดูอ่อนไหวไปหมด ซึ่งโรคนี้ต้องได้รับการบำบัดและรักษาอย่างถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ในส่วนของ ขมิ้น นั้นก็ช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ด้วยเหมือนกัน โดยมีการทดสอบการใช้สารเคอร์คูมิน ( curcumin ) ในขมิ้นกับผู้ป่วยภาวะซึมเศร้า ด้วยการทานในรูปของสารสกัดปริมาณ 1000 มิลลิกรัมต่อวัน ต่อเนื่องเป็นเวลารวมประมาณ 8 สัปดาห์ พบว่าในช่วงแรกของการใช้สารเคอร์คูมิน ( curcumin ) ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างของอารมณ์มากนักเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้ใช้ แต่พอผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังกลับพบว่าผู้ป่วยมีภาวะอารมณ์ที่ดีขึ้นมาก จึงสรุปได้ว่าสารออกฤทธิ์ที่สำคัญในขมิ้นช่วยลดภาวะซึมเศร้าลงได้จริง อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีการทดสอบหรือทำงานวิจัยในลักษณะที่ยาวนานกว่านี้ หรือมีการใช้สารเคอร์คูมิน ( curcumin )ในปริมาณอื่น ๆ

แก้อาการตกขาว : อาการตกขาวในผู้หญิงมีทั้งแบบที่ปกติและผิดปกติ หลายคนตกขาวเป็นประจำก่อนการมีรอบเดือน แต่จะต้องไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีสีคล้ำ ไม่คัน ไม่แสบ และไม่มีสิ่งผิดปกติอื่นๆ ถึงจะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่ต้องหาทางแก้หรือรักษาแต่อย่างใด ในทางกลับกันถ้าตกขาวนั้นผิดปกติหรือแม้แต่มีปริมาณมากเกินไปจนเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ก็สามารถใช้ ขมิ้น สมุนไพรพื้นบ้านช่วยบรรเทาอาการได้ด้วย ว่ากันว่าการทานขมิ้นสดจะช่วยแก้ที่ต้นเหตุของอาการตกขาวที่เกิดขึ้นได้ แต่เป็นเพียงความผิดปกติที่ไม่รุนแรงมากนักเท่านั้น หากเกิดจากมะเร็งปากมดลูกหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ก็ต้องเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจรักษาดีกว่า

ช่วยลดคลอเรสเตอรอล : ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไขมันหรือมีระดับคลอเรสเตอรอลสูง บางส่วนแพทย์ก็ให้ทาน ขมิ้น แบบแคปซูลช่วยเพื่อลดการใช้ยาเกินความจำเป็น ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี ด้วยขมิ้นสมุนไพรพื้นบ้านมีส่วนสำคัญในการลดไขมันคลอเรสเตอรอลที่ไม่ดี ( LDL ) หรือไม่มันที่ไม่ดีออกไปได้ แถมยังเพิ่มไขมันส่วนดี HDL ได้อีกด้วย ดังนั้นระดับคลอเรสเตอรอลจึงลดลงและอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เรื่องนี้ไม่ใช้แค่ความรู้สึกนึกคิดไปเองเท่านั้น แต่มีงานวิจัยรับรองจากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยทดลองใช้สารสกัดน้ำมันจากหัวขมิ้นกับสัตว์ทดลองเป็นเวลา 45 วัน พบว่ามีอัตราการลดลงของ LDL พร้อมกับอัตราการเพิ่มขึ้นของ HDL อย่างน่าสนใจ

ช่วยป้องกันมะเร็ง : สมุนไพรพื้นบ้านคุณสมบัติที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งของ ขมิ้น ก็คือมีองค์ประกอบสำคัญที่ออกฤทธิ์ยับบั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์เนื้อร้ายได้ด้วย กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กลุ่มที่ขึ้นชื่ออย่างมากในการนำสมุนไพรไทยมาประยุกต์ใช้และต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ทำงานวิจัยมกมายเกี่ยวกับผลของการใช้ขมิ้นชันต่อความเปลี่ยนแปลงของโรคมะเร็ง พบว่าสารออกฤทธิ์สำคัญในขมิ้นชันมีศักยภาพในการป้องกันกระบวนการของการเกิดมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยยับยั้งการเติบโต ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ทั้งยังช่วยปรับระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้สมบูรณ์ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ร่างกายต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ดีขึ้น ประเภทของมะเร็งที่ทดลองแล้วว่าขมิ้นมีช่วยในการช่วยลดอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งก็คือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งกระดูก

ขมิ้น หรือ ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคที่หลากหลายอย่างแล้ว ยังสามารถใช้กับผิวพรรณด้านความสวยความงามได้อีกด้วย

แนะนำเมนูเด็ดจากขมิ้น

1. ไก่ผัดขมิ้น
2. ปลาช้อนต้มขมิ้น
3. ไก่บ้านต้มชมิ้น
4. หมูสะเต๊ะหมักขมิ้น
5. ข้าวหมกไก่ ใส่ขมิ้น
6. ไก่ย่าง ไก่ทอดขมิ้น
7. ผักกระเพรากึ๋นไก่
8. แกงเหลืองปลากะพง
9. แกงขมิ้นลูกชิ้นปลากราย
10. แกงกะหรี่ขมิ้น

ขมิ้นสมุนไพรพื้นบ้านกับเรื่องความสวยความงาม

นอกจากจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคที่หลากหลายอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ขมิ้น ก็ยังมีอิทธิพลต่อประเด็นของความสวยความงามอีกด้วย มีการใช้งานกับผิวพรรณมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยที่ยังไม่ได้มีผลการทดลองหรืองานวิจัยใดๆ แต่พิสูจน์กันด้วยผลลัพธ์ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ต่อไปนี้คือตัวอย่างของการใช้ขมิ้นชันกับวงการความงาม

บำรุงผิวให้นวลเนียนและดูผุดผ่อง : ด้วยสีเหลืองนวลของขมิ้นโดยเฉพาะขมิ้นสดและสารออกฤทธิ์บางอย่าง เมื่อนำมาพอกและขัดผิวเป็นประจำจึงช่วยผลัดเซลล์ผิวและขับผิวให้ดูผ่องขึ้น สมัยก่อนจะมีการเอาหัวขมิ้นสดมาฝนจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด ผสมกับมะขามเปียกแล้วใช้ขัดผิว แต่เดี๋ยวนี้มีแบบที่เป็นผงขมิ้นสำเร็จรูปให้เลือกใช้กันแล้ว ขมิ้นถือเป็นสมุนไพรอันดับต้นๆ ที่คนจะนึกถึงหากอยากได้ผิวสวยใส เพราะผิวดีขึ้นแน่นอนและถาวร แม้จะใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผลชัด แต่ก็ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

ช่วยรักษาสิวหัวเล็ก : จุดเด่นข้อหนึ่งของ ขมิ้น ก็คือช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ดังนั้นเมื่อนำขมิ้นสมุนไพรพื้นบ้านมาพอกที่หัวสิวทิ้งไว้ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม จึงช่วยลดการอักเสบและเร่งให้สิวหายเร็วขึ้นได้ นอกจากนี้ก็ยังใช้พอกหน้าเพื่อขับสิวเสี้ยนได้ด้วย

ลดความมันบนใบหน้า : กลไกการลดความมันบนใบหน้าของขมิ้นก็คือ มีสารออกฤทธิ์ที่ไปลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันบริเวณผิวชั้นนอกให้น้อยลง หน้าที่เคยมันเยิ้มระหว่างวันจึงหายไป แต่ต้องระวังในการใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเพราะผิวหน้าอาจจะแห้งเกินไป และสำหรับใครที่มีผิวหน้าแห้งอยู่แล้ว คงต้องใช้ส่วนประกอบอื่นๆ ร่วมด้วยในเรื่องของความชุ่มชื้น เช่น น้ำผึ้ง น้ำนม น้ำมันบำรุงผิวบางชนิด เป็นต้น

ช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ : ขมิ้น สมุนไพรพื้นบ้านมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และขึ้นชื่อในเรื่องการลดเลือนริ้วรอยด้วยเหมือนกัน ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ริ้วรอยที่เคยมีจึงแลดูจางลง

ถึงแม้ว่า ขมิ้น สมุนไพรพื้นบ้านจะเป็นพืชสมุนไพรที่เราคุ้นเคยกันมายาวนาน และก็มีสรรพคุณแทบจะครอบจักรวาล แต่การใช้งานขมิ้นในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสด ทานแบบสารสกัด ใช้พอกผิว ใช้ขัดตัว เป็นต้น ล้วนมีวิธีการและอัตราการใช้ที่เหมาะสมอยู่ หากใช้น้อยไปก็ไม่ได้ผล ใช้มากไปก็อาจเป็นอันตรายได้ในบางกรณี ยิ่งถ้าใช้ผิดวิธีก็เสียทั้งวัตถุดิบและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน ที่สำคัญถ้าเลือกใช้ขมิ้นในรูปของผลิตภัณฑ์สำเร็จ ต้องดูรายละเอียดของส่วนประกอบ แหล่งผลิต วันเดือนปีที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ตลอดจนข้อห้ามหรือข้อควรระวังต่างๆ ด้วย เพราะผลิตภัณฑ์สำเร็จนั้นมีกระบวนการบางอย่างที่แตกต่างไปจากการทานหัว ขมิ้น สดๆ เราจึงต้องใส่ใจเลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยจริงๆ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

กองบรรณาธิการ. ขมิ้นชันกับมะเร็ง : กรุงเทพฯ : แบงค์คอกบุ๊คส์.

ขมิ้นกับสรรพคุณทางยา (ออนไลน์).สืบค้นจาก : www.pobpad.com [17 มีนาคม 2561].

Turmeric, Curcumin (Curcuma longa) (ออนไลน์).สืบค้นจาก : www.sigmaaldrich.com [17 มีนาคม 2561].