อาหารที่เหมาะสมเมื่อเป็นโรคปลายประสาทเสื่อม

0
21496
อาหารที่เหมาะสมเมื่อเป็นโรคปลายประสาทเสื่อม
วิตามินบี 6 พบได้มากในข้าวซ้อมมือ แคนตาลูปช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง
อาหารที่เหมาะสมเมื่อเป็นโรคปลายประสาทเสื่อม
ปลาทะเลน้ำจืด มีโอเมก้า 3 ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองที่มีความไวต่อการรับสัญญาณประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปลายประสาทเสื่อมหรืออักเสบ

เมื่อระบบประสาทเกิดการอักเสบ หรือเสื่อม จะทำให้ความสามารถในการนำกระแสประสาทไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเสื่อมไปด้วย ซึ่งในผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาปลายประสาทเสื่อม ก็พบว่าเกิดจากการที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไปจนไม่สามารถจำกัดได้นั่นเอง โดยสำหรับความผิดปกติที่สังเกตได้ก็คือ ในระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยจะมีอาการชาและปวดเจ็บบริเวณปลายเท้าทั้งสองข้างก่อน จากนั้นจึงเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ และมี  อาการชาปลายนิ้วตามมา โดยหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็จะนำไปสู่ความผิดปกติในการทำงานของไต หัวใจ ระบบปัสสาวะและการย่อยอาหารอีกด้วย และนอกจากนี้ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น

  • การได้รับโลหะหนักมากเกินไป ซึ่งโลหะหนักเหล่านี้อาจมาจากสารหนู ยาฆ่าแมลงและสารตะกั่ว เป็นต้น
  • การได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินบี
  • การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เพราะแอลกอฮอล์จะไปทำลายวิตามินบีในร่างกายได้นั่นเอง

การรักษาระบบปลายประสาทเสื่อม

สำหรับการรักษาระบบปลายประสาทเสื่อมสามารถทำได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทานยากลุ่มวิตามินบีที่มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบปลายประสาท ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบลงได้ และหากมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วยก็จะต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อเป็นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อนั่นเอง และที่สำคัญก็คือการหลีกเลี่ยงทุกสาเหตุที่จะทำให้ระบบปลายประสาทเสื่อมได้ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุรา การทานอาหารหรือทำกิจกรรมบางอย่างที่ทำให้ร่างกายได้รับโลหะหนักและอื่นๆ เป็นต้น

เมื่อระบบประสาทเกิดการอักเสบหรือเสื่อมลงไป จะทำให้ความสามารถในการนำกระแสประสาทไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเสื่อมไปด้วย ซึ่งในผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาปลายประสาทเสื่อม ก็พบว่าเกิดจากการที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไปจนไม่สามารถจำกัดได้นั่นเอง

1.การรักษาด้วยยากลุ่มวิตามินบี

กลุ่มวิตามินบีก็ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 และกรดโฟลิกนั่นเอง โดยวิตามินบีกลุ่มนี้จะมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทโดยตรง พร้อมสร้างสารสื่อประสาทและซ่อมแซมเส้นประสาทในส่วนที่สึกหรออีกด้วย จึงช่วยลดอาการชาตามปลายมือปลายเท้าได้ดีนั่นเอง

  • วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่พบมากในเม็ดธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ขนมปัง ข้าวโอ๊ต เนื้อหมู และข้าวสาลีไม่ขัดขาว เป็นต้น โดยมีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ประสาทให้แข็งแรง
  • วิตามินบี 5 พบได้มากในเนื้อวัว ผลไม้ นม กระถิน ปลา ไก่ ถั่วและสัตว์ปีก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างโคเอนไซม์ที่จะใช้ถ่ายทอดสัญญาณประสาทนั่นเอง
  • วิตามินบี 6 พบได้มากในข้าวซ้อมมือ แคนตาลูป นม ไข่ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว เมล็ดถั่วธัญพืช เครื่องในสัตว์และปลา โดยมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง
  • วิตามินบี 12 พบได้มากในไข่ ปลา เนื้อสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิตามินบี 12 ในรูปของเมทิลโคบาลามีน โดยจะทำหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดแดงและช่วยซ่อมแซมปลอกเยื่อหุ้มประสาท โดยทั้งนี้ควรได้รับวิตามินบี 12 ที่วันละ 1,500 ไมโครกรัม อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 สัปดาห์
  • กรดโฟลิก เป็นวิตามินบีอีกชนิดหนึ่งที่พบได้มากใน ตับ ไข่แดง น้ำส้ม กล้วย มะนาว ผักใบเขียวจัด ฟักทอง ถั่วเหลือง ถั่วลันเตาและถั่วลิสง เป็นต้น ซึ่งจะทำหน้าที่ในการชะลอปัญหาระบบประสาท จึงลดการเสื่อมของระบบประสาทและบรรเทาอาการชาตามปลายมือปลายเท้าได้ดี

2.การรักษาด้วยกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ

กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระก็ได้แก่ ทองแดง วิตามินอี สังกะสี วิตามินเอ โครเมียมและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั่นเอง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระแบบนี้อาจจะทานในรูปแบบของอาหารหรือในรูปแบบของเม็ดยาก็ได้ โดยสำหรับแหล่งอาหารที่พบสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้สูง ก็ได้แก่

  • น้ำมันอีฟนิงพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมาลิโนเลนิก โดยเป็นกรดที่จะช่วยในการบรรเทาอาการประสาทเสื่อมได้
  • ปลาทะเลน้ำจืด โดยจะพบโอเมก้า 3 ได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเซลล์สมองที่มีความไวต่อการรับสัญญาณประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • ข้าวกล้อง ข้าวโพดและผักใบเขียวต่างๆ จะพบโคลีนได้มาก ซึ่งจะช่วยบำรุงปลายประสาท เสริมสร้างความจำและลดอาการเศร้าหมองหรือจิตใจหดหู่ได้ 
  • เนื้อสัตว์ ปลา กล้วย ถั่วลิสง นมและอินทผลัม จะพบทริปโตเฟนได้มาก ซึ่งก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยบำรุงปลายประสาทได้ดีเช่นกัน
  • ข้าวกล้องงอก จะพบสารกาบาได้สูง โดยเป็นสารที่จะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างสารสื่อประสาทนั่นเอง
  • อาหารทะเล ผักใบเขียว มะม่วง แอปเปิ้ลและตับหมู จะพบแมงกานีสได้สูง
  • ผลไม้ ธัญพืชและผักใบเขียวเข้ม สามารถพบแคลเซียม แมกนีเซียมและโพแทสเซียมได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบประสาท แต่สำหรับโพแทสเซียมจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่เป็นโรคไตมากนัก
  • เมล็ดฟักทอง นม ไข่ จมูกข้าว มัสตาร์ดผงและบริวเวอร์ยีสต์ จะพบสังกะสีได้มากที่สุด

เคล็ดลับการดูแลผู้ป่วยปลายประสาทเสื่อม

1.นอกจากการทานอาหารและยาเพื่อบำรุงระบบปลายประสาทแล้ว ก็ควรยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ เพื่อให้เลือดและน้ำเหลืองมาหล่อเลี้ยงปลายมือปลายเท้าและเส้นประสาทอย่างเพียงพอด้วย

2.อย่าอยู่ในท่าเดียวเป็นเวลานานเกินไป เพราะจะทำให้ประสาทตึงและเกิดการอักเสบได้ในที่สุด

3.ทาเจลพริกหรือขี้ผึ้งพริก เพราะเจลเหล่านี้มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวดเส้นประสาทได้ แต่ก็ไม่ควรทามากเกินไป หรือทาเฉพาะเมื่อมีอาการปวดและชาตามปลายมือปลายเท้าก็พอ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

ศัลยา คงสมบูรณ์เวช. บำบัดเบาหวานด้วยอาหาร. พิมพ์ครั้งที่ 4 (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ : อัมรินทร์เฮลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2559. (12), 311 หน้า. (ชุดชีวิตและสุขภาพ ลำดับที่ 113) 1.เบาหวาน 2.โภชนบำบัด 3.การปรุงอาหารสำหรับผู้ป่วย 4.การดูแลสุขภาพตนเอง. 616.462 ศ7บ6 2559. ISBN 978-616-18-7741-9.

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). กินเท่าไหร่ กินแค่ไหน ไม่เสี่ยงอ้วน. ใน: ธิดารัตน์ มูลลา.ชีวิตใหม่ไร้พุง. กรุงเทพฯ : บริษัทศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำกัด, 2557.