เปปิโนเมล่อน อุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามิน ช่วยลดความเครียดสะสมและป้องกันโรคอัมพาต
เปปิโนเมล่อน เป็นผลไม้ที่มีผิวเรียบผลทรงก้นแหลมมน ผลสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองหรือม่วง รสชาติหวาน น้ำฉ่ำ อุดมไปด้วยใยอาหาร

เปปิโนเมลอน

เปปิโนเมลอน (Pepino Melon) เป็นผลไม้ที่มีผิวเรียบผลทรงก้นแหลมมนมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองเมื่อสุกบางสายพันธุ์จะผลสีม่วง เนื้อในนุ่มคล้ายลูกแพร์ รสชาติหวานสามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกและเมล็ดอุดมไปด้วยใยอาหารตระกูลเดียวกับมะเขือ

รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum muricatum
ชื่อสามัญ : เปปิโน (pepino, melon pear) แคนตาลูปต้น
ตระกูล : Solanaceae

ลักษณะทั่วไปของเปปิโนเมลอน

ลำต้น : ไม้ยืนต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร
ใบ : สีเขียวเข้มผิวใบมันวาว ใบยาวคล้ายกับต้นพริก แต่มีขนาดใหญ่กว่า
ดอก : ดอกเปปิโนเมลอนคล้ายดอกมะเขือ ดอกมี 5 กลีบ ออกเป็นกลุ่ม 10-15 ดอก เกสรสีเหลือง 1 อันอยู่ตรงกลาง ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอมม่วง
ผล : ผลทรงรียาวประมาณ 2-4 นิ้ว เปลี่อกผิวเรียบ เมื่อสุกจะเปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีเหลืองซีดมีลายริ้วสีม่วง เนื้อสีขาวไปจนถึงเหลืองซีด และมีรสหวานเล็กน้อย

คุณค่าทางโภชนาการของเปปิโนเมล่อน

คุณค่าทางโภชนาการของเปปิโนเมล่อนต่อปริมาณ 100 กรัม (ทั้งผลสุก – ผลดิบ) ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี

สารอาหาร ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ
เส้นใยอาหาร 1 กรัม
โซเดียม 15 มิลลิกรัม
คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม
โปรตีน 1 กรัม
ไขมันทั้งหมด 0 กรัม
น้ำตาล 6 กรัม
แคลเซียม 3 มิลลิกรัม
เหล็ก 2 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของเปปิโนเมลอนต่อสุขภาพ

เป็นแหล่งผลิตสารต้านอนุมูลอิสระทั้งในผลดิบและผลสุก ซึ่งประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ ฟีนอลสูงกว่า และยังมีไฟเบอร์ในเปปิโนเมลอนช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

  • ช่วยลดความเสี่ยงจากความเครียด
  • ช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง และควบคุมความดันโลหิตสูง
  • ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
  • ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล
  • ช่วยป้องกันโรคอัมพาต
  • บำรุงตับ
  • บำรุงกระดูก
  • ช่วยลดน้ำหนัก
  • ช่วยป้องกันโรคไตเรื้อรัง
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ช่วยบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร

เนื้อคล้ายเมล่อนคือมีความกรอบ รสชาติคล้ายแตงไทยที่ยังไม่สุกคือจืด มีกลิ่นหอมหวาน เนื้อฉ่ำน้ำ เป็นแหล่งผลิตสารต้านอนุมูลอิสระทั้งในผลดิบและผลสุก เปลือกมีความเหนียวเล็กน้อย ถ้าคนสูงอายุรับประทานแนะนำให้ลอกเปลือกออกก่อน

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม