มะเร็งระยะสุดท้าย หรือที่เรียกกันว่า มะเร็งระยะแพร่กระจาย (Stage IV) คือภาวะที่เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ปอด กระดูก สมอง หรือระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นการส่งผลให้ระบบสำคัญของร่างกายหยุดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าเป็นแค่ “ก้อนมะเร็ง” ในจุดเดียวเท่านั้น
มะเร็งระยะสุดท้ายคืออะไร?
มะเร็งระยะสุดท้าย หรือ Distant Metastasis (Stage IV) หมายถึงมะเร็งที่ไม่ใช่เฉพาะในท่อน้ำดี ผิวหนัง หรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเพียงแห่งเดียว แต่ลุกลามเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือดหรือเยื่อหุ้มท่อน้ำเหลือง และถูกลำเลียงไปยังอวัยวะอื่นตั้งแต่หนึ่งแห่งขึ้นไป เช่น
- 
ปอด
 - 
ตับ
 - 
กระดูก
 - 
สมอง
 - 
ไขสันหลัง
 
เมื่อถึงระยะนี้ เนื้อมะเร็งมีนัยสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีเดิม เช่น ผ่าตัด หรือการทำรังสีรักษาแบบที่ใช้ในระยะเริ่มต้น การรักษาที่เหมาะสมจึงเปลี่ยนเป็นการ ควบคุมอาการเพื่อคุณภาพชีวิต (Palliative Care)
อาการเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้าย
ระยะที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายแล้ว มักปรากฏความผิดปกติที่หลากหลายตามอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้:
| ระบาดของมะเร็ง | อาการที่พบ | 
|---|---|
| ตับ | ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านขวา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด | 
| ปอด | ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก มีเสมหะหรือเลือดปน | 
| กระดูก | ปวดกระดูกรุนแรง เคลื่อนไหวเจ็บ กรณีกระดูกหักจากโรค | 
| สมอง | ปวดศีรษะ วิงเวียน พูดลำบาก ร่างกายอ่อนแรง ซึม | 
| ระบบน้ำเหลือง | ต่อมน้ำเหลืองบวม เจ็บหรือคลำก้อน | 
| ทั่วร่างกาย | คลื่นไส้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไข้เรื้อรัง เหนื่อยง่าย ซีด | 
นอกจากนี้อาจพบปัญหาเรื่อง อารมณ์และจิตใจ ได้แก่ เครียด ซึมเศร้า เพิ่มความกังวลเรื่องความเจ็บปวด การแยกจาก และอนาคตข้างหน้า
มะเร็งระยะสุดท้ายรักษาหายได้หรือไม่?
— แพทย์มักยืนยันได้ว่า “ไม่สามารถหายขาดได้” โดยเฉพาะกรณีที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปมากกว่า 1 อวัยวะ
อย่างไรก็ตาม!!
มีชนิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งอัณฑะบางประเภท ที่ตอบสนองต่อการรักษาเคมี ยังคงมีอัตรารักษาได้ หากมาถึงการรักษาที่ถูกวิธีและรวดเร็ว
แต่ในภาพรวม สำหรับมะเร็งระยะ IV จะไม่สามารถ “หายขาด” ได้ แต่ ควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะสงบ (stable disease) หรือ ควบคุมการแพร่กระจายได้อย่างมีนัยสำคัญ ก็ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษา
ปัจจัยที่มีผลต่อการคาดการณ์อายุขัย
อายุขัยในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแตกต่างกันตามปัจจัยดังนี้:
ปัจจัยสำคัญส่งผลต่ออายุขัยได้แก่:
- 
ชนิดมะเร็ง
- 
บางชนิดตอบสนองต่อเคมีและ Targeted Therapy ได้ดี เช่น มะเร็งเต้านมกับ HER2+ หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์
 
 - 
 - 
อวัยวะที่มีการแพร่กระจาย
- 
สมอง, ตับ, ปอด เป็นอวัยวะสำคัญทำงานร่วมกัน เมื่อมีการสูญเสียการทำงานอาจมีผลรุนแรง
 
 - 
 - 
จำนวนแห่งที่แพร่กระจาย
- 
แพร่กระจายน้อยแห่ง (oligo-metastasis) อาจควบคุมได้ดีขึ้น
 
 - 
 - 
การตอบสนองต่อการรักษา
- 
หากตอบดีทั้งการผ่าตัด รังสี หรือยาเฉพาะเจาะจง สามารถยืดเวลาควบคุมโรคได้
 
 - 
 - 
สภาพร่างกายทั่วไป (ECOG Performance Status)
- 
สุขภาพแข็งแรง ยิ่งส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพ
 
 - 
 - 
ความร่วมมือกับทีมรักษา
- 
การดูแลเรื่องอาหาร ระดับน้ำตาล ความเครียด การออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญในการยืดอายุ
 
 - 
 
ตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ
จากงานวิจัยและสถิติทั่วโลก พบว่า:
- 
ผู้ใหญ่ สุขภาพดี → มีชีวิตได้อีก 1–2 ปี
 - 
ผู้สูงอายุ หรือสุขภาพไม่ดี → มีชีวิตได้ประมาณ 3–9 เดือน
 
ข้อแม้สำคัญ:
ตัวเลขเฉลี่ยขึ้นกับสถานการณ์จริงของผู้ป่วยแต่ละคน และเน้นว่าเป็น “ค่าเฉลี่ย” ไม่ใช่คาดการณ์เฉพาะ
แนวทางการรักษาและควบคุมอาการ
เมื่อไม่สามารถรักษาให้หายขาด แพทย์จะใช้แนวทาง “ประคับประคองอาการ” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด
กลยุทธ์ที่ใช้บ่อย:
- 
เคมีบำบัด (Chemotherapy)
- 
ลดก้อนมะเร็ง ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์
 - 
เลือกใช้ยาที่เหมาะกับชนิดมะเร็งและสุขภาพผู้ป่วย
 
 - 
 - 
รังสีรักษา (Radiotherapy)
- 
ใช้เพื่อบรรเทาอาการ เช่น ปวดกระดูก หรือสมอง
 - 
สามารถใช้แบบรักษาเฉพาะจุดไม่ใช่ทั้งร่างกาย
 
 - 
 - 
ผ่าตัด (Surgery)
- 
ใช้เฉพาะในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยมีแหล่งแพร่กระจายน้อย และสุขภาพพร้อม
 
 - 
 - 
Targeted Therapy & Immunotherapy
- 
รักษาแบบเจาะจงเซลล์มะเร็งเฉพาะชนิด ตามโปรตีนหรือยีน
 - 
ช่วยลดผลกระทบต่อเซลล์ปกติ และเพิ่มโอกาสควบคุมโรคได้นานขึ้น
 
 - 
 - 
ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy)
- 
ใช้กับมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น เต้านม ต่อมลูกหมาก
 
 - 
 - 
ยาเพื่อลดอาการ (Symptom Management)
- 
บรรเทาอาการปวด คลื่นไส้ซึมเศร้า เบื่ออาหาร ฯลฯ เพื่อคุณภาพชีวิต
 
 - 
 - 
ดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)
- 
ทีมนักรพิสัชพยาบาล แพทย์นักจิตนักสังคม ร่วมดูแลความเจ็บปวดและจิตใจ
 
 - 
 
ตัวอย่างชีวิตกับมะเร็งระยะสุดท้าย
กรณีศึกษา (อ้างอิงจริง):
- 
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปกระดูก ตับ และปอด
- 
รับเคมี+Targeted Therapy แล้วมีชีวิตยืดออกไปเกิน 2 ปี
 
 - 
 - 
บางรายสุขภาพอ่อน พบน้อย อาจได้รับชีวิตเพิ่ม 4–6 เดือน
 - 
เช่นผู้ป่วยมะเร็งปอด Stage IV เอาตับออก+ใช้ยารักษาเฉพาะ
- 
มีชีวิตได้ 1–2 ปีขึ้นกับการตอบสนองต่อยา
 
 - 
 
คุณภาพชีวิตควบคู่ความยาวของชีวิต
ในมะเร็งระยะนี้ ไม่ได้วัดแค่อายุ แต่ต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นสำคัญ:
- 
ควบคุม อาการปวด เช่น ยาพารา โคดีน หรือวิธีการไม่ใช้ยาเช่น TENS
 - 
แก้ คลื่นไส้และเบื่ออาหาร ด้วยยาและอาหารบำรุง
 - 
พิจารณา โภชนาการพิเศษ เสริมโปรตีน/วิตามิน
 - 
ดูแล จิตใจ ผ่านนักจิตวิทยา/จิตแพทย์
 - 
ส่งเสริม ครอบครัวมีส่วนร่วม รับมือสภาพจิตใจทั้งผู้ป่วยและญาติ
 
การป้องกันให้มะเร็งไม่ลุกลาม
เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามถึงระยะ IV ดังนี้:
- 
ตรวจค้นหามะเร็งในระยะเริ่มต้น: มะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก
 - 
สังเกตอาการผิดปกติ: เช่น ไอเรื้อรัง ระคายคอเรื้อรัง ซีด คลำก้อน
 - 
หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง: บุหรี่ เหล้า มลภาวะ
 - 
ตรวจสุขภาพประจำปี: ตามแนวทางแพทย์
 - 
รักษาสุขภาพโดยรวม: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
 
ข้อคิดในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
ตอนนี้ไม่ใช่ปัจฉิมถิ่น แต่เป็นบทส่งท้ายที่ได้คุณภาพ:
- 
ให้เกียรติความรู้สึกของผู้ป่วย ร่วมวางแผนการรักษาทุกขั้นตอน
 - 
พ่อแม่หรือผู้ดูแลควรได้รับการดูแลจิตใจไม่แพ้กัน
 - 
ใช้เวลาที่เหลือคุณค่ากับคนที่รัก
 - 
สุขภาพจิตดี ช่วยให้การดูแลร่างกายมีประสิทธิภาพขึ้น
 - 
ร่วมกันสร้างเครือข่ายสนับสนุนระหว่างครอบครัว แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ
 
สรุปสาระสำคัญ
- 
มะเร็ง Stage IV คือโรคในระยะร้ายที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตสิ้นสุดทันที
 - 
ไม่หายขาด แต่สามารถ ยืดอายุชีวิตได้หลายเดือนถึงปี ขึ้นกับชนิดมะเร็งและการตอบสนอง
 - 
การรักษาในระยะนี้เน้นที่ คุณภาพชีวิต มากกว่าการรักษาให้หาย
 - 
การตรวจโรคตั้งแต่ต้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง คือวิธีป้องกันระยะแพร่กระจาย
 
FAQ: คำถามที่พบบ่อย
Q1: มะเร็งระยะสุดท้าย สามารถหายขาดได้ไหม?
A: ตอบตรง ๆ ไม่ได้หายขาด แต่มีกรณีพิเศษบางชนิดหากตอบยาดีอาจควบคุมได้ยาวนานจนดูเหมือนหายขาด (ยกเว้นเช่นเยื่อหุ้มมะเร็งอัณฑะบางชนิด)
Q2: หากเป็นระยะ IV แล้ว ยังต้องรักษาต่อหรือไม่?
A: ใช่ แม้ไม่สามารถหายขาด แพทย์จะให้ การรักษาแบบบรรเทาอาการ (Palliative) เพื่อยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิต ทั้งเคมี รังสี ยาเฉพาะ
Q3: มะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ทั่วไปอายุขัยเฉลี่ยคือ:
- 
สุขภาพแข็งแรง: 1–2 ปี
 - 
สุขภาพอ่อน: 3–9 เดือน
ตัวเลขเป็นเพียงเฉลี่ยเท่านั้น 
Q4: ควรดูแลจิตใจอย่างไรสำหรับผู้ป่วยระยะนี้?
A: สำคัญมาก! ควร:
- 
สร้างพื้นที่ปลอดภัย เปิดใจพูดคุยความรู้สึก
 - 
ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจ
 - 
ช่วยผู้ป่วยไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว
 
Q5: วิธีคุ้มครองผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพื่อคุณภาพชีวิต?
A: เน้นที่:
- 
ดูแลโภชนาการดี
 - 
ควบคุมอาการทุกชนิดให้ต่ำสุด
 - 
ออกกำลังระดับเบาและพักผ่อนให้เพียงพอ
 - 
เปิดพื้นที่ในครอบครัวให้เต็มไปด้วยความเข้าใจและความรัก
 
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง
เอกสารอ้างอิง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.
อิ่มใจ ชิตาพนารักษ์. ผลกระทบจากการรักษาโรคมะเร็ง. เชียงใหม่: ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2557
Thun MJ, Hannan LM, Jemal A (September 2006). “Interpreting cancer trends”. Annals of the New York Academy of Sciences.
Prasad AR, Bernstein H (March 2013). “Epigenetic field defects in progression to cancer”. World Journal of Gastrointestinal Oncology.









